“๑ เบ้า ๓ คน ๓ แบบ” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

พูดถึงพระ
พระที่ยิ้มกรุ้มกริ่มซ่อนเลศนัย ผมยังไม่เคยเห็นยิ้มใคร ยิ้มได้เหมือน “พระมหาไพรวัลย์”
แต่ขณะเดียวกัน
ผมก็ยังไม่เคยเห็นใครเหมือนกัน ที่ร้องไห้แล้วหน้าตาน่าเกลียด เหมือนพระมหาไพรวัลย์!
ท่านคงไม่รู้ตัวหรอก เพราะ “พระห้ามส่องกระจก”!
แต่ไม่แน่ ไลฟ์สดยังได้ กะอีแค่ส่องกระจก ท่านหรือจะแคร์?
นอกจากยิ้มกรุ้มกริ่มแล้ว เอตทัคคะอีกอย่างของมหาไพรวัลย์ คือ ท่านเป็น “พระปากแจ๋ว”
หลังจากไลฟ์สดฮือๆปากเบะ-ปากเบี้ยว บอกจะสึกวันก่อน ว่า

“ถ้าเจ้าคุณอาจารย์พระราชปัญญาสุธีไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง อาตมาภาพ พระมหาไพรวัลย์ ขอลาสิกขา
และจะไม่ไปอยู่วัดอื่น ไม่ต้องชวนไปอยู่วัดอื่น หนีความเป็นธรรมที่หนึ่ง เพื่อไปเจอความเป็นธรรมที่หนึ่งไม่เอา ขอไปเป็นฆราวาสไปอยู่กับโยม” นั้นแล้ว

เมื่อวาน คุณ Darin Karn โพสต์เฟซ ว่า
พระมหาเถรฯ หลายรูปให้ข้อมูลว่า “สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี” หรือ “เจ้าคุณธงชัย” เสนอเปลี่ยนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง

จาก “พระราชปัญญาสุธี” (อุทัย ญาโณทโย) เป็น “พระศรีปริยัติสุธี” (ปรีชา จิตฺตปริสุทฺโธ)
เพราะไม่สามารถควบคุม “พระมหาสมปอง” กับ “พระมหาไพรวัลย์” ได้

“เจ้าคุณธงชัย” ให้ความเห็นกับมหาเถรสมาคมว่า “พระราชปัญญาสุธี” ย่อหย่อนของหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง
ไม่สามารถควบคุม พระมหาสมปอง และ พระมหาไพรวัลย์ ได้….จึงให้พระราชปัญญาสุธี ไปทำหน้าที่รองเจ้าคณะภาค 11 เพียงตำแหน่งเดียว

ส่วนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองให้ “พระศรีปริยัติสุธี” ทำหน้าที่แทน……!!
ไม่นาน ก็มีโพสต์นี้ตามไล่หลังออกมา

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ
อาตมาอาจทำอะไรหลายอย่างไม่เหมาะสม แต่อาตมาไม่เคยนั่งเครื่องบินไปดูบอลต่างประเทศ ไม่เคยทำเดรัจฉานวิชาอย่างเดียรถีย์ ไม่เคยดูโหรทำนายดวงหรือแม้แต่ปลุกเสกต์ผ้ายันต์แม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่บวชมา

เห็นมั้ย…
ท่านเป็น “พระปากแจ๋ว” จริงๆ แต่ขอนมัสการถามเป็นความรู้นิดหนึ่ง

ตามที่ท่านเขียน “ปลุกเสกต์” นั้น ถูกต้องใช่ไหมครับ ผมไม่กล้าแก้ จึงถามเพื่อความแน่ใจ ในฐานะท่านเปรียญ ๙ ย่อมลึกซึ้งถึงรากศัพท์ภาษาศาสตร์ ที่ถาม มิได้มีเจตนาเป็นอื่น
ตกลงท่านจะ “ลาสิกขา” คือสึกจากพระวันไหนครับ?

แฟนคลับจะได้ไปรับ “ทิดสึกใหม่” ไปฉลองได้ตรงวัน เพราะถ้าเป็นตามที่คุณ Darin Karn โพสต์ ก็หมายความว่า “พระราชปัญญาสุธี” ไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแน่นอนแล้ว

อย่างมหาไพรวัลย์เนี่ย ถ้าสึก ไม่ต้องกลัวตกงาน มีแต่คนแย่งจองตัว!
“พระราชปัญญาสุธี” ที่ถูกพระมหาไพรวัลย์ดึงเข้ามาวางเดิมพันในการ “สึก-ไม่สึก” ของท่านนั้น

ท่านอยู่ของท่านสงบๆ เพราะไพรวัลย์-สมปองแท้ๆ ท่านจึงต้องพลอยเดือดร้อน
“พระราชปัญญาสุธี” มีความเป็นมาอย่างไร การไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ดีหรือไม่ดีกับท่าน อยากให้อ่านนี่
……………….

ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

ไม่มีภิกษุรูปไหนในพระพุทธศาสนาใหญ่กว่า*หลักพระธรรมวินัย*:

๑.พระเดชพระคุณพระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง อายุมากกว่าผมหลายปี แต่เรียนบาลีทีหลังผม
ผมเรียนบาลีจบไปเกือบสิบปีแล้ว ท่านถึงได้เริ่มเรียน

ท่านเรียนมาจากสำนัก “วัดมงคลทับคล้อ” จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักเรียนบาลีมาตรฐานในต่างจังหวัดที่น่ายกย่องมาก

สมัยเริ่มเรียนบาลี ผมอยู่ “วัดโพธิสมภรณ์” สมัยโน้น มีนักเรียนสอบได้ปีละมากๆ และเป็นจุดเด่นของ จ.อุดรธานีทีเดียว
พอๆ กับ “วัดมงคลทับคล้อ” ซึ่งก็เป็นจุดเด่นของ จ.พิจิตร และ “วัดโพธาราม” เป็นจุดเด่นของ จ.นครสวรรค์

๒.เมื่อท่านเรียนจบป.ธ.๙ ได้ก็แสดงว่า ท่านเรียนเก่ง มีความสามารถสูง
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ได้ตำหนิอะไรท่าน ในเรื่องความรู้หรือความประพฤติ

ผมว่าในแง่วิชาการภาษาบาลีและอาจาระส่วนตัวของท่านแล้ว ชาวพุทธไหนๆ ก็ไม่พึงตำหนิท่าน
เพราะท่านไม่ได้เสียในเรื่องวิชาการและอาจาระส่วนตัวใดๆ เลย

๓.แต่ที่ผู้คนตำหนิท่าน เป็นเรื่องบริหาร ที่ท่านไม่สันทัดครับ เนื่องจากพระพุทธเจ้าทรงยกให้ “พระธรรมวินัย” เป็นศาสดาของภิกษุทั้งหลาย

และพระภิกษุ ๒ รูปในวัดของท่าน “ละเมิดพระวินัยเป็นอาจิณ”

ถ้าท่านเป็นงานในฐานะพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายเสียหน่อย

ท่านแต่งตั้งคณะ “พระวินัยธร” เพื่อตรวจสอบและวินิจฉัยอธิกรณ์ให้เป็นไปตามหลักของพระวินัย ก็จบแล้ว

เช่น กรณีที่พระลูกวัดของท่านโฆษณาสินค้า ซึ่งผมวินิจฉัยแล้วว่า เข้าข่าย*กุลทูสกสิกขาบท* ซึ่งเป็นอาบัติสังฆาทิเสสข้อที่ ๑๓

ถ้าไม่แต่งตั้งคณะพระวินัยธร ปล่อยเลยตามเลย เจ้าอาวาสก็จะเท่ากับปกปิดอาบัติชั่วหยาบของพระลูกวัด

ฝ่ายพระที่ต้องอาบัติก็จะปกปิดอาบัติตนไปเป็นเดือนเป็นปี กลายเป็นพระทุศีลไปเรื่อยๆ

ถ้าปล่อยให้พระลูกวัดแสดงพฤติกรรม “อเนสนา” แสวงหารายได้ที่ไม่สมควรแก่สมณะ พระภิกษุในวัดที่อยู่ฉันด้วยกัน ก็เข้าข่าย*อลัชชีบริโภค*ตามหลักพระวินัยไป

เมื่อท่านไม่ดำเนินการ ท่านจึง*เสีย*ในทางปกครอง ด้วยเหตุนี้ พระสังฆาธิการระดับสูงจึงอาจมองว่าท่านไม่เหมาะจะเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองที่ผู้คนกำลังครหาอยู่

ผมก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าท่านไม่ถนัดเรื่องการปกครอง ท่านก็สามารถหันไปเน้นทำงานด้าน “วิชาการ” อย่างเดียว ก็จะดีกว่าเป็นไหนๆ

๔.หลักพระวินัยสำคัญกว่าตัวบุคคลครับ เพราะไม่มีใครอยู่เหนือพระธรรมวินัย

ถ้า “เจ้าคณะภาค” หรือ “เจ้าคณะจังหวัดกรุงเทพมหานคร” จะไม่เสนอชื่อท่านเป็น “เจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง” เพราะท่านละเลยไม่ตั้งคณะพระวินัยธรวินิจฉัยอธิกรณ์ในวัด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เพราะท่าน “ระงับอธิกรณ์” ในวัดไม่ได้
ถ้าแต่งตั้งท่านไป พระภิกษุอื่นๆ ก็อาจละเมิดพระวินัยกันมากขึ้น

ทางที่ดี ถ้า “มหาเถรสมาคม” ตั้งท่านอื่นเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองแทน
ท่านก็ถือโอกาสปลีกตัวไปทำงานวิชาการที่ถนัดอย่างเดียวจะดีกว่าครับ

พระคุณเจ้าอาจจะผลิตงานวิชาการเด่นๆ ออกมาก็ได้ อย่าไปสนใจด้านบริหารที่ไม่สัดทัดเลย
ผมรู้จักพระหลายรูปที่เก่งวิชาการ แต่ไม่ถนัดด้านบริหารจัดการ พอได้ตำแหน่งบริหาร โดนด่ามากกว่าได้รับคำชม

ผมจึงอยากกราบนมัสการและขอฝากถวายกำลังใจถึงท่านพระเดชพระคุณท่าน “พระราชปัญญาสุธี” ด้วยความเคารพว่า

ขอให้ท่านอยู่กับวิชาการอย่างเดียวที่ท่านถนัดจะดีกว่าครับ
ท่านจะได้งอกงามเป็นกำลังของพระศาสนาที่ดีทางนี้ได้ อย่าไปสนใจตำแหน่งบริหารเลยครับ
……………..

อ่านถึงตรงนี้ ก็คงสงสัยกันว่า “ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์” คนนี้ คือใคร รู้เรื่องพระธรรมวินัยดีเหลือเกิน ดุจแสงเทียนหน้าคัมภีร์ ส่องทางให้พระคุณเจ้าย่างเท้าได้ไม่ผิดทาง

ปฐมพงษ์ หรือ ดร.ปฐมพงษ์ เป็นนักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา ม.มหิดล
ท่านคนวารินชำราบ อุบลฯ สอบเปรียญ ๙ ได้ตั้งแต่เป็นสามเณร

การอุปสมทบ ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น “นาคหลวง” รูปแรกของวัดบวรนิเวศวิหาร
จบศาสนศาสตรบัณฑิต (สาขาภาษาและวรรรณคดีอังกฤษ) เกียรตินิยม คณะมนุษยศาสตร์ มหามกุฏราชวิทยาลัย

เมื่อลาสิกขา “สมเด็จพระญาณสังวร” สมเด็จพระสังฆราช ประทานทุนส่วนพระองค์จาก “มูลนิธิน้อย คชวัตร”
ให้ศึกษาต่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ สำเร็จอักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสันสกฤต-บาลี

ไปศึกษาต่ออังกฤษ จบโททาง วรรณคดี สันสกฤต ของพระพุทธศาสนา มหายาน และของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จากวิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและอาฟริกาศึกษา มหาวิทยาลัยลอนดอน

ปริญญาเอก คณะบูรพคดีศึกษา สถาบันตะวันออก มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
ท่านเป็นคนไทยคนแรก ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่สถาบันแห่งนี้

ดร.ปฐมพงษ์ เกิดปี พศ.๒๕๑๐ ตอนนี้อายุ ๕๔ ปี

ส่วน “พระราชปัญญาสุธี” เกิดปี ๐๗ ที่ภูเวียง ขอนแก่น จบเปรียญ ๙ และ “ศึกษาศาสตรบัณฑิต” อายุ ๕๗ ปี
เป็น “ผู้รักษาการแทน” เจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง เมื่อปี ๒๕๖๓ นี่เอง

ฉะนั้น ตามที่ ดร.ปฐมพงษ์โพสต์นั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่า เป็นไปตามพระธรรมวินัยหรือไม่!

สำหรับพระมหาไพรวัลย์ นั้น
เป็นคนท่าใหม่ จันทบุรี บวชเณรที่วัดพิพัฒน์มงคล สุโขทัย สอบเปรียญ ๙ ได้ตั้งแต่เป็นเณร

ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น “นาคหลวง” อุปสมบท ปี ๒๕๕๕ ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาเอก วิชาสันติศึกษา เรียนกฎหมาย รามฯ เป็นอาจารย์สอนหนังสือ

ก็เก็บความมาเล่า เพื่อให้เราได้สะท้อนคิดว่า
การศึกษาสูงนั้น สูงเหมือนกัน

แต่สิ่งศึกษานั้น ทำไมจึงให้ความรู้สึก-นึก-คิด และการกระทำที่ “สูง-ต่ำ” ต่างกันมากเหลือเกิน?


Written By
More from plew
“อย่าล่าให้ผิดตัว” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ไอ้กรดครับ…ไอ้กรด! มันเล่นผมซะหมอบ ต้องนอนโรงพยาบาล ๒ คืน ผมไม่เคยชนะมันซักที มันมาทีไร ก็อัดผมซะน่วม ต้องนอนแผ่สองสลึงเป็นรายเดือน ทุกวันนี้...
Read More
0 replies on ““๑ เบ้า ๓ คน ๓ แบบ” – เปลว สีเงิน”