ผักกาดหอม
การเมืองช่วงนี้ชักสนุกแฮะ…
เปิดตัวกันซะทีสำหรับ ทายาท “ทักษิณ”
ไม่ใช่ “โอ๊ค อ๊าก”
แต่เป็น “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”
ก็ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เพราะวันที่ “อุ๊งอิ๊ง” แบะปากในห้องพิจารณาคดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อกว่า ๑๐ ปีก่อน วันนั้นก็ชัดแล้ว
ลูกไม้หล่นใต้ต้น!
ทายาททางการเมืองของ “ทักษิณ” คือ “อุ๊งอิ๊ง” นี่แหละ
ว่าไป เพื่อไทยเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” วานนี้ (๒๘ ตุลาคม) มีทรงกว่า “อาปู” เยอะ
ตำแหน่ง “ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม” ของ “อุ๊งอิ๊ง” ถือเป็นตำแหน่ง
ฝึกงานการเมือง
“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เปิดตัวเพียง ๔๙ วัน ก็ขึ้นไปนั่งเป็นนายกรัฐมนตรี
เร็วแต่กลวง
“ทักษิณ” เคยพูดในปี ๒๕๖๑ เมื่อคราวที่เดินทางมาฮ่องกง และมีนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยเข้าแถวโค้งคำนับ
“….สถานการณ์ขณะนี้ คนที่เรามีก็คือคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะตัวเขาก็อยู่กับพรรคมานาน และมีความรู้ความสามารถทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ต้องรีบร้อนในเรื่องของการวางตัวหัวหน้าพรรค เพราะคนจะเป็นผู้นำใช้เวลาไม่นานก็เป็นได้ อย่างยิ่งลักษณ์ ก็ใช้เวลาเพียง ๔๙ วันยังได้เป็นนายกฯ
ที่สำคัญคนที่จะเข้ามาเป็นผู้นำ ต้องมีลีดเดอร์ชิปด้วย แต่ความเป็นลีดเดอร์ชิปนั้น เป็นสิ่งที่คุณต้องสร้างเอง ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นผู้นำพรรค…”
ถ้ายึดเอาตามคำพูด “ทักษิณ” ในวันนั้น ดูราวกับว่า พรรคเพื่อไทยมีปัญหาเรื่อง ผู้นำพรรคที่มี ลีดเดอร์ชิปมาตลอด
วันนี้ “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ออกไปสร้างไทย สร้างอนาคตของตัวเองแล้ว
ไม่ใช่เพราะไม่มี “ภาวะผู้นำ”
แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีไว้เพื่อ “สุดารัตน์”
และในข้อเท็จจริง หัวหน้าพรรคพลังประชาชน-
พรรคเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องมี “ลีดเดอร์ชิป”
เพราะแทบทุกการตัดสินใจ อยู่ภายใต้การบงการ
ของ “ทักษิณ” และคนในตระกูลชินวัตร ทั้งสิ้น
ลองไล่รายชื่อดูครับ
สมัคร สุนทรเวช
สมชาย วงศ์สวัสดิ์
สุชาติ ธาดาธำรงเวช
ยงยุทธ วิชัยดิษฐ
จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
วิโรจน์ เปาอินทร์
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
ล่าสุด ชลน่าน ศรีแก้ว
คนเหล่านี้ แค่หมากที่ “ทักษิณ” ใช้เดินทางการเมืองเท่านั้น
บางคนถูกหักหลัง บางคนติดคุกแทน บางคนต้องหนีไปต่างประเทศ ก็ล้วนเป็นผลมาจากการรับใช้ “ทักษิณ” ทั้งสิ้น
กรณีของ “สมัคร สุนทรเวช” ดูจะเป็นที่พูดถึงมากที่สุด
“ชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ” นักการเมืองรุ่นลายคราม คนใกล้ชิด “สมัคร” พูดไว้เมื่อหลายปีก่อน
“…คุณสมัครเคยบ่นให้ผมได้ฟังขณะที่ล้มป่วยบ่อยๆ ว่า ไม่เคยมีโทรศัพท์มาถามถึงบ้างเลย ทำให้ผมเชื่อว่าคงหมายถึงคนแดนไกล หรือบางครั้งคุณสมัครยังเคยพูดในทำนองที่ว่า ทำไมถึงทำกันอย่างนี้
ผมรู้สึกว่าสิ่งที่คุณสมัครบ่นอยู่บ่อยครั้งนั้น คงทำให้รู้สึกว่าเหมือนถูกหักหลัง เพราะขณะที่คุณสมัครป่วย โดยมีผมไปเฝ้าไข้นั้น ยังไม่เคยเห็นของเยี่ยมหรือตัวแทนจากคุณทักษิณ และจนถึงขณะนี้นั้นยังไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากคุณทักษิณเลย…”
ขนาดเวลาป่วยเขายังไม่สนใจ ไม่ถามสารทุกข์สุกดิบกันเลย ทำเหมือนคนไม่รู้จัก ตัดขาดมิตรกัน จะใจจืดใจดำไปหน่อยไหม…”
ภาพในอดีตมันเป็นแบบนั้น
เพื่อไทย วานนี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย “ชลน่าน ศรีแก้ว” เป็นหัวหน้าพรรค ถามใจคนในเพื่อไทยว่า “หมอชลน่าน” มีภาวะผู้นำพอสำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่
เก็บคำตอบไว้ในใจครับ
เพราะข้อเท็จจริงคือ “ทางผ่าน”
แต่ ลีดเดอร์ชิป อยู่ที่ “อุ๊งอิ๊ง” ครับ
การมาของ “หมอชลน่าน” ไม่ได้ทำให้ทิศทางของเพื่อไทยเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะไม่ได้เป็นผู้กำหนดชะตากรรมของพรรค
“อุ๊งอิ๊ง” ต่างหากที่ประกาศนโยบายใหม่ และทิศทางใหม่ของเพื่อไทย
“…เราต้องพยายามเข้าใจรุ่นที่ไม่ใช่รุ่นเดียวกับเรา ให้เราอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจ พรรคการเมืองที่เป็น
ของประชาชน จะต้องเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เทคโนโลยีผ่านไปอย่างมากมาย
ขณะที่เรากำลังพูดกัน นักวิทยาศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกกำลังคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ของโลก ดิฉันมองเห็นว่าคนไทยพลาดกระบวนการพัฒนาเหล่านั้น เด็กรุ่นใหม่ยังคิดว่าพวกเขาพลาดขบวนเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ก้าวเข้ามา ขณะที่เทคโนโลยีก้าวผ่านไปเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาไม่มีโอกาสคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ
อยากให้คนรุ่นใหม่ได้รับโอกาส ภายใต้มิติการเมืองแบบนี้ทำให้พวกเขามองไม่เห็นอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขา คิดว่าพรรคเพื่อไทยอาจมีโอกาสได้เป็นพรรคการเมืองหลักและเข้ามาแก้วิกฤตต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง สังคมและวิกฤตโอกาสของคนรุ่นใหม่ จึงตอบรับเป็นที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม
ตั้งใจอยากใช้ประสบการณ์ของคนเจนวายเข้ามาร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อพัฒนาโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้มีความหวัง ความฝัน และทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง ดิฉันอยากปฏิรูป ๓ เรื่องหลักคือ ๑.ปฏิรูปการศึกษา เพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยมาก ๒.ปฏิรูปเทคโนโลยี ต้องเข้าถึงเทคโนโลยีให้มากกว่านี้ และ ๓.เราจะต้องส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์อย่างจริงจังเหมือนเกาหลี บราซิล ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเสรีภาพทางความคิด ดังนั้นผู้นำของประเทศจะต้องมีหัวใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ดิฉันจะตั้งใจทำงานเต็มที่ในฐานะที่ปรึกษา แม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ขอมุ่งมั่นทำงานด้วยความตั้งใจจริงในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ในฐานะลูกของคุณพ่อที่ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และคุณพ่อหวังว่าจะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง…”
การชู “อุ๊งอิ๊ง” แน่นอนว่านี่คือการแย่งฐานคนรุ่นใหม่จากพรรคก้าวไกล
และที่มากไปกว่านั้น นี่จะเป็นผู้ถูกเสนอชื่อชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี โควตาพรรคเพื่อไทยในอนาคตอย่างแน่นอน
การเลือกตั้งครั้งถัดไปเกิดขึ้นแน่ๆ คือต้นปี ๒๕๖๖
“ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯ ตอนอายุ ๔๔ ปี
วันนี้ “อุ๊งอิ๊ง” ๓๕ ปีแล้ว เข้าคุณสมบัติการเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดไว้ที่ ๓๕ ปีพอดี
การเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลาย และตั้งรัฐบาลสำเร็จ “อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ ๓๗ ปี
นี่คือเกมใหม่ที่ “ทักษิณ” แบออกมาแล้ว