“ด้วยคิดถึงนะ…ตำรวจ” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

มีแต่คนถาม “ผบ.ตร.” ไปไหน ผมก็ตอบไปตามตรง
“ไม่รู้เหมือนกัน”!
คือไม่รู้จริงๆ เพราะไม่เคยเห็นหน้าท่านเลย ไม่ว่ายามปกติหรือยามไม่ปกติ
ขนาดขบวนการสามนิ้วออกมาคุกคามบ้านเมืองแบบกองโจร ประกาศจะล้มรัฐบาล-ไล่นายกฯประยุทธ์ แทบเป็นรายวัน
นั่นก็ว่า “การเมือง”
แต่โจ่งแจ้ง ไปถึงขั้นประกาศ “ล้มสถาบัน” ซึ่งมันไม่ใช่การเมืองแล้ว มันเป็นการกบฏมุ่งล้มล้างประเทศชาติโดยตรง
ก็ยังไม่เห็นผบ.ตร.ท่านออกมาแสดงให้เห็นว่ารู้สึก-รู้สาอย่างไร ทั้งที่ชาวบ้าน-ชาวเมือง ป้องหูฟังว่า

ในความเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์”….
ยามนี้ สันติมันไม่มีเลย อย่าว่าแต่เฉพาะกับราษฏร “ชาวบ้านชาวเมือง” เลย
กับ “พระเจ้าแผ่นดิน” แท้ๆ ก็ยังแทบจะหาความสันติให้กับพระองค์ท่านได้!

“พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ครับ
ในฐานะท่านเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” จะเอายังไงกับกองโจรเปิดหน้ากบฏบ้าน-กบฏเมือง?

ท่านออกมาพูด-มาแถลง ถึงทิศทางปฏิบัติการกับคนเหล่านั้น ให้ชาวบ้านได้คลายความมึนงงสงสัยในบทบาท-หน้าที่นายใหญ่ของท่านซักครั้งเถอะ

ท่านอย่าแปลง “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ให้เป็น “สำนักปฏิบัติธรรม” เลยครับ
อย่าทำให้ประชาชนเข้าใจว่า ตั้งแต่ผบ.ตร.ตลอดจนรองผบ.ตร.-ผู้ช่วยผบ.ตร.รวมแล้วหลายสิบนาย ตลอดปี-สองปีมานี้
เข้า “สมาธิกรรมฐาน” กันหมด!?

ออกมาดูบ้าน-ดูเมือง ดูพวกขบวนการล่มชาติ-ล้มสถาบันมันทำกันบ้าง ที่เหิมเกริมหนักขึ้นทุกวัน ส่วนหนึ่งก็เพราะมันได้ใจ
ว่าผู้หลัก-ผู้ใหญ่ของตำรวจ “มุ่งนิพพาน” กันหมด ไม่สนใจพิทักษ์บ้าน-พิทักษ์ประชาตามปรัชญาตำรวจแล้ว

ทั้งนครบาล….
พูดกันโดยข้อเท็จจริง เห็นมีแต่ “พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย” รองผบช.น.เป็น “กระบี่ ๑๐ ทิศ” รับหน้า-รับศึก “อยู่นายเดียว” ผู้บัญชาการนครบาล “พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา” ก็ไม่เห็น
อาจบัญชาการอยู่หลังฉากก็ได้ หรือท่านปลีกวิเวก “รอเกษียณ” ตุลา.นี้ก็ไม่ทราบ

แต่จะอย่างไรก็ช่าง มันเงียบผิดวิสัยคนเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
เงียบหลบหรือเงียบวางแผน ผมเดาไม่ถูกจริงๆ!

สรุป คือสถานการณ์อย่างนี้ ชั่วๆ-ดีๆ มันต้องมี “นาย” ปรากฎหน้างานบ้าง
“นายนครบาล” คนเดียวไม่พอ มันต้องมี “นาย” จากหอคอยสำนักงานตำรวจฯ มาดูแลบัญชาการ กำกับแผนและนโยบายด้วย

“ตำรวจชั้นผู้น้อย” ฝ่ายปฏิบัติการจะได้มีขวัญกำลังใจ ทั้งชาวบ้านจะได้อุ่นใจว่า ยังมี “ผู้หลักผู้ใหญ่” เอาใจใส่ติดตามดูแลอยู่บ้าง
แต่นี่ ไม่มีเลย!

ใช่ว่าผมใส่ร้าย-ปรักปรำ หรือผมไม่เห็นคนเดียว แต่ชาวบ้าน-ชาวเมืองเห็น ถ้าเห็นว่ามี ช่วยบอกด้วย ผมจะได้กราบขออภัย

ทุกวันนี้ ผมทั้งสงสาร ทั้งเห็นใจตำรวจท้องที่ และตำรวจแนวหน้า คือตำรวจที่ยืนเรียงแถวให้พวกสามนิ้วกระทืบ ถ่มถุยสาดสีใส่ โดยไม่ตอบโต้ใดๆ เลย

ผมไม่เข้าใจ มันเป็นนโยบายให้ตำรวจผู้น้อยแนวหน้าบำเพ็ญอุเบกขา ถูกกระทืบ ถูกด่า ถูกเหยียดหยาม ให้ยืนนิ่งอุเบกขา..อุเบกขาเข้าไว้

หรือเป็นแผนลึกซึ้งอันใดของสำนักงานตำรวจ ว่าวิธีการ สงบ-สันติ-อหิงสา ยืนฟังโจรด่า ตั้งแต่สูงสุดยันล่างสุด
ว่านั่นเป็นการ “พิทักษ์ชาติบ้านเมือง” และสถาบัน ที่ถูกต้อง?

ยิ่งเห็นตำรวจแนวหน้า ฝ่าดงตีนเข้าจับกุมพวกก่อการ ไหนจะต้องเหนื่อยกับการจับ ยังต้องรีบทำสำนวนคดีให้ทันเวลาผัดฟ้อง-ฝากขัง
และไหนยังต้องไปยืนตั้งแถวรับตีน รับคำเหยียดหยามด่าทอ จากพวกมันที่ตามมาราวี บีบบังคับให้ปล่อย

ยังไม่ทันหายเหนื่อย……..
ยื่นขอฝากขังระหว่างสอบสวนปุ๊บ ศาลท่านก็เมตตาให้ประกันปั๊บ

ได้ประกันไปครั้งแล้ว-ครั้งเล่า “แบบมีเงื่อนไข” พวกมันก็ไม่แคร์ ออกไปปุ๊บ ก็ยกขบวนคุกคาม-ข่มขู่ตำรวจถึงหน้าโรงพัก รื้อพังทำลาย สาดสี-สาดน้ำลายอีก

พวกมันได้ใจ….
เพราะรู้ว่าศาลเมตตาประชาธิปไตย ตำรวจจับ เดี๋ยวท่านก็ให้ประกัน แม้ผิดเงื่อนไขประกันครั้งแล้ว-ครั้งเล่า
ท่านก็ยังดำรงมาตรฐาน “เมตตาประชาธิปไตย” เป็นที่ประจักษ์สม่ำเสมอ!

ตำรวจต้องเข้าใจนะครับ อย่าคิดมาก อย่าท้อ เข้าใจไขว้เขวจนไม่อยากจับพวกขบวนการล่มชาติ-ล้มสถาบัน
การจับกุมผู้ทำผิด เป็นอำนาจหน้าที่ตำรวจ
การพิจารณาตัดสินคดี รวมทั้งการให้-ไม่ให้ประกัน เป็นอำนาจหน้าที่ศาล

ฉะนั้น เมื่อการจับกุมคนทำผิด เป็นอำนาจหน้าที่ในอ้อมแขนตำรวจ ท่านก็ทำหน้าที่ในอ้อมแขนไปเถอะครับ อย่าท้อ
ประชาชนเข้าใจ และสาธุท่านอยู่แล้ว

ตอนนี้ เขา “เปิดหน้า-เปิดตัว” ประกาศ ๕ ข้อ “ล้มสถาบันกษัตริย์” ให้ปรากฎต่อสาธารณชนกันแล้ว
เหิมถึงขั้น ๗ สิงหา.จะบุกพระบรมมหาราชวัง!

ในความเป็น “ผู้รักษากฎหมาย” ของตำรวจ โดยเฉพาะผบ.ตร.ท่านชำนาญข้อกฎหมาย ฉกาจฉกรรจ์ด้านสอบสวนมาตลอด
ขอเรียนถามตรงๆ คำครับ……..

ที่ปิยบุตรประกาศ ๕ ข้อนั้น กับที่ขบวนการโพสต์เฟซ ปั่นทวีต จ้วงจาบหยาบช้าสถาบัน และนัดหมาย ๗-๑๐ สิงหา.ก่อการใหญ่ “ชิงเมือง-ล้มสถาบัน” นั่นน่ะ
เข้าข่าย “ผิดกฎหมาย” ขั้นอุกฉกรรจ์ไหมครับ?

ถ้าไม่…
ผมก็ไม่โต้แย้งอะไรท่าน เพียงจะขอตัวไปนอนเท่านั้น

ถ้าเข้าข่าย….
ในฐานะผบ.ตร.ท่านบอกประชาชนได้หรือไม่ว่า “อยู่สุขเถิดปวงประชา ตัวข้า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” จะคุ้มภัยให้บ้านเมือง”?

หรือความผิดยังไม่เกิด ต้องรอให้บุก ให้ย่ำยีบีฑา ให้เผาบ้าน-เผาเมืองเสียก่อน ถึงจะถือว่า “ความผิดเกิดขึ้นแล้ว”

รอถึงขั้นนั้น….
ตำรวจในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งชาติ จึงจะออกมานั่งเรียงแถว อมิตพุทธ..อมิตพุทธ ให้ประชาชนได้อนุโมทนา!?

ตำรวจมี ๒-๓ แสนนาย ระดับผู้บังคับบัญชา ผบ.ตร.-รอง-ผู้ช่วย ที่นั่งอยู่บนหอคอย ๑๔-๑๕ นาย ถ้านับพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่คืนกลับไปด้วยก็เป็น ๑๖ นาย

แต่ที่ออกมาทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชาประจำสถานีรบในกรุงเทพฯ เห็น พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ระดับรองผบช.น.หัวไม่วาง-หางไม่เว้นอยู่คนเดียว

อาราธนาจาก สตช. มาเป็นขวัญกำลังใจหน้างานกับชั้นผู้น้อยและกับชาวบ้านซักนาย-สองนายได้มั้ยครับท่าน ผบ.ตร.?

เป็นนาย ไม่จำเป็นต้องลงมาแย่งงานลูกน้องทำ มันก็ใช่ แต่มาเต๊ะจุ๊ยให้เห็น ไม่มีลูกน้องคนไหนว่าหรอก!

ส่งพล.ต.อ.สุชาติ ธระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.หรือไม่ก็ “บิ๊กโจ๊ก” มาแสดงผลงานเป็นการ “ล้างตา” ดูซักยกก็ได้

ไหนๆ ก็กินเงินเดือนจากชาวบ้านแล้ว จะเก็บ-จะกั๊ก เขาไว้ โดยไม่ให้ทำงานเพื่ออะไร ให้ทำงานพิสูจน์ไปเลย

เห็นประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน “ห้ามชุมนุม” เด็ดขาด มันไม่สนหรอก มันยิ่งออกมาชุมนุมท้าทายหนักขึ้น
มันออกมาแล้วจัดการอะไรไม่ได้ กฎหมาย-กฎระเบียบ จะมีเพื่ออะไร?

“พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินนี้

ในคำสั่งระบุว่า “ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง”

ถามว่า ถึงขั้นนี้แล้ว “เกี่ยวกับความมั่นคง” หรือยังครับ?
ในคำสั่ง ก็มีแต่คำสั่ง แล้วให้ใคร-หน่วยไหนเป็นควบคุมดูแลให้เป็นไปตามพรก.ฉุกเฉินล่ะ?

ตำรวจ “เหมาทั้งหมด” อย่างนั้นหรือ……..
หรือให้ทหารมาเป็น “ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง หรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน?

อืมมมม….
ทำไมมันหาความชัดเจนยากจริงในยุคนี้?



Written By
More from plew
“สถานการณ์” ที่พิสูจน์ “ผู้นำ”
อืมมมมม….. “นายกฯ ประยุทธ์” นี่ ไม่เสียที ที่เป็นผู้บัญชาการทัพมาก่อน ยามสังคมตกอยู่ในภาวะสับสน-วุ่นวาย สามารถใช้ความนิ่ง “ด้วยสติ” ควบคุมสถานการณ์ให้ผู้คนคลายว้าวุ่น และสงบจนมีความมั่นใจในทิศทางนำได้
Read More
0 replies on ““ด้วยคิดถึงนะ…ตำรวจ” – เปลว สีเงิน”