วันที่ 23 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า การสูญเสียบทบาทของไทยในเวทีโลก ไม่ใช่เพราะนักการทูตไทยไม่มีความสามารถ ไม่ใช่เพราะไม่รู้กฎหมาย
แต่เป็นเพราะไม่มีจุดยืนกรณีอาเซียนมีมติไม่เชิญผู้นำทหารเมียนมาเข้าร่วมประชุมเพราะไม่ทำตามฉันทามติ 5 ข้อ เราจึงไม่มีที่ยืนในเวทีโลก ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะทวงคืนศักดิ์ศรีของการต่างประเทศไทยว่า
ก่อนจะทวงคืนศักดิ์ศรีการต่างประเทศของไทย นายพิธาควรทวงคืนความสงบสุขให้ชาวดินแดงก่อนจะดีกว่าหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นนายพิธาออกมาห้ามปรามหรือแสดงความเป็นห่วงประชาชนที่เขาได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมเลย
ทั้งนี้ คนที่จะเป็นผู้นำประเทศต้องรู้จักการประนีประนอม ยิ่งในเวทีระดับโลกด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีวุฒิภาวะ แสดงความเห็นด้วยความระมัดระวังเหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินมาตลอด ไม่ใช่พูดเอามัน แต่ภาพลักษณ์ของประเทศจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน แบบนั้นเรียกว่าใช้ไม่ได้
“ก่อนพูดเราเป็นนายตัวเราเอง แต่พอพูดไปแล้ว คำพูดจะกลายเป็นนายเรา ดังนั้น คำพูดของเราต้องมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ ไม่ใช่พูดไปแล้วถูกมองว่าไม่มีราคา แค่พูดเพื่อเกาะกระแสหรือเรียกคะแนนนิยม
ถ้าวันนี้คุณพิธาอยากจะแสดงจุดยืน ผมขอเรียกร้องให้คุณพิธาแสดงจุดยืนเป็นคนแรกในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลว่า หลังจากที่เราเปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นกลับคืนมาอีกครั้งนั้น
คุณพิธาและ ส.ส.พรรคก้าวไกลจะคัดค้านการชุมนุม และการแสดงความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการอย่างไร เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ของประเทศต้องเสียหายไปเพราะฝีมือของคนเพียงกลุ่มเดียว ไม่อย่างนั้นคุณพิธาเองที่จะไม่มีที่ยืนในสายตาประชาชน” นายธนกร กล่าว