ตูน-ก้อย “เด็กแนว” ไหน? – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

จะเด๋อด๋าไปหน่อยมั้ยนี่?

ที่ผมจะแสดงความยินดีกับคุณตูน บอดดี้สแลม “อาทิวราห์ คงมาลัย” กับคุณก้อย “รัชวิน วงศ์วิริยะ”
ที่ได้ลูกชาย “น้องทะเล”
คลอดที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ภูเก็ต เมื่ออังคารที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
ก็ไม่เคยรู้จักมักจี่คุณพ่อหนุ่ม-คุณแม่สาวคู่นี้หรอก แต่เมื่อติดตามดูแนวทางปฏิบัติตนของคนรุ่นใหม่คู่นี้มาเรื่อยๆ ก็ทั้งรัก ทั้งปลื้ม

ด้วยเห็นว่า….
ช่างเป็นรุ่นใหม่ต้นแบบไทยทั้งปัจจุบันและอนาคตของชาติที่น่าชื่นชม-ยกย่องจริงๆ!

ต้นทุนศึกษาตูนและก้อย นิติศาสตร์และนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ถือว่าสมบูรณ์ทั้งคู่
ยิ่งแต่งแต้มด้วยพรสวรรค์ “วัยรุ่นเพลงร็อก” และนางเอกหนัง-ละคร บวกกีฬาเข้าไปอีก ทั้งคู่มีน้ำหนักถ่วงดึงสังคมไปทางสูงหรือทางต่ำได้ทันที

แต่ตูนและก้อยเกิดมาเกื้อกูลกันโน้มสูงทางสรรค์สร้าง ผมไม่เคยฟังเพลงร็อกของตูนจนจบเพลง เหมือนกับไม่เคยดูหนัง-ละครที่ก้อยแสดงเลยซักเรื่อง

แต่ด้วยดังในทางดีของสองเขา
ผมเฝ้ามองและตามดู การใช้ความเป็นรุ่นใหม่ต้นแบบของตูนและก้อยตลอดมาชนิดต่อเนื่อง

ตูนได้รับรางวัลลูกกตัญญูดีเด่น ผมก็รู้ ตูนเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิส ผมก็รู้ ตูนของแท้ต้องถอดเสื้อปีนเสา ปลุกเร้าให้กรี๊ดดๆๆ ผมก็เห็น

แต่ผมไม่ได้ดูตรงนั้น
กลับดูว่า ตูนในฐานะเด็กแนว “ตัวนำ” ไม่ต่าง “ลลิษา มโนบาล” ตอนนี้ จะใช้ลีลานั้น นำสาวกร็อก ซึ่งส่วนใหญ่วัยรุ่นลงนรกหรือขึ้นสวรรค์?

ปรากฏว่า ขี้ยา มั่วสุม เกกมะเหรก เป็นปฏิกูลสังคม ไม่มี

หนึ่งเดียวในความหมายของคำว่า “สแลม” ในความเป็น “ตูน” คือ “ใจสะอาด-กายสงบ-นบนอบ และอ่อนน้อม”

ตูน บอดี้สแลม “คนรุ่นใหม่”
แปลงความดังเป็นพลังปลุกรัก-สมัครสมาน พี่น้องไทยต้องไม่ทิ้งกัน!

ตูน “ก้าวคนละก้าว” ระดมเงินทุนหวังแค่ ๗๐๐ ล้านบาทให้โรงพยาบาลศูนย์ ๑๑ แห่งในประเทศ
ตูน-ก้อย นำวิ่งไม่หยุด….

ใต้สุดจากเบตง ยะลา ไปเหนือสุดประเทศไทย ที่แม่สาย เชียงราย ๕๕ วัน รวมระยะทาง ๒,๒๑๕.๔กิโลเมตร

ตูนทำให้พี่น้องไทยทั้งประเทศรวมเลือดเนื้อเชื้อรักชาติ ช่วยกันคนละบาท-สองบาท จากเป้า ๗๐๐ ล้าน
ทะลุ-ทะลักล้น ไปถึง ๑,๑๔๘ ล้านบาท!

จำนวนเงินไม่ใช่คำตอบความเป็นตูน
หัวใจตะหาก คือคำตอบ “ตูน-เด็กแนว” ตัวจริง ที่ไทยรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ต้องกราบกราน

นี่แค่ ๑ ตัวอย่าง ในความเป็นตูน “รุ่นใหม่ไทยต้นแบบ” ที่ผมแอบชื่นชมผสมอิจฉามาตลอด

ตอนนี้ ตูนเป็นพ่อคนแล้วนะ!
จะเก็บเปลือกหอยร้อยมาลัยข้อมือรับขวัญหลาน “น้องทะเล” ก็คงเป็นส่วนเกินที่เกะกะไปแล้ว

เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมฝังใจจำที่ป๋าเปรม “พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” รัตนบุคคลชาติ เคยกล่าวไว้ที่โคราช ครั้งหนึ่ง

ตูน-ก้อย จากต้นแบบรุ่นใหม่วันนี้ ที่จะเป็น “พ่อแบบ-แม่แบบ” ให้น้องทะเล ในวันต่อไป

นี้ถือเป็นของขวัญในวันมงคลจากผมนำมามอบให้ก็แล้วกัน

(ในพิธีมอบทุนการศึกษาของ “มูลนิธิเปรมติณสูลานนท์” ประจำปี ๒๕๖๐ ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ โคราช ๒๔ กย.๖๐) ตอนหนึ่ง พลเอกเปรม กล่าวว่า
………………………

“เมื่อประมาณ ๓ ปี ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ จะสวรรคต พระองค์ท่านได้พระราชทานเงินให้ผมส่วนหนึ่ง ทรงรับสั่งว่า

ข้อ ๑ ให้ไปดูแลโรงเรียนที่เก่าชำรุดทรุดโทรมมากๆ ไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้ และ

ข้อ ๒ สำคัญมาก ท่านก็ทรงรับสั่งว่าให้ช่วยกันผลิตคนดี ไม่ต้องเน้นผลิตแต่คนเก่ง เพราะชาติบ้านเมืองของเราต้องการคนดีมากกว่าต้องการคนเก่ง

เพราะว่า คนเก่งอาจจะเป็นคนไม่ดีก็ได้

ผมก็รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาปรึกษากับเพื่อนฝูงที่คุ้นเคยและรู้จักดีในแวดวงการศึกษา

นอกจากนี้ ท่านยังเน้นเรื่องหนึ่งว่า การปลูกฝังเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเป็นสิ่งที่เราจะต้องมอบให้กับเด็กให้ได้

พร้อมกับอีกข้อหนึ่ง ท่านรับสั่งว่า…
ขอให้ไปพูดกับเด็กนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา เช่นเด็กมหาวิทยาลัยราชภัฎ เป็นต้น

ขอให้เด็กเหล่านั้น กลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาเดิมอย่างน้อยสัก ๒ ปี เพราะเราต้องเรียนมาเพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาได้เรียนมาเพื่อรับใช้ประชาชนในบ้านของตนเอง

สิ่งเหล่านี้ ที่ผมขอพระราชทานอันเชิญมาบอกกับพวกคุณที่เป็นผู้ใหญ่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำ

ส่วนเด็กเล็กๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ ก็ขอให้ครูช่วยชี้แจงให้เด็กเข้าใจว่า “คนดีคือย่างไร-คนเก่งคืออย่างไร”?

ทำไมเราต้องการคนดีมากกว่าต้องการคนเก่ง?

ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ มูลนิธิฯเราดูแลกันอยู่นี้ได้ทำทุกอย่างแล้ว
แต่เราควรจะหาวิธี ที่จะให้ครูบาอาจารย์ นักเรียนทั้งหลายเชิญพระราชกระแสไปประพฤติปฎิบัติตามที่ทรงรับสั่งให้ได้”
……………………….

และนี่…..
เป็นบันทึก “แม่ของลูก” คนหนึ่ง ที่ผมอยากให้ตูนเสกให้เป็นบทเพลงออกมาสักเพลงหนึ่ง ซึ่งผมตั้งใจรอฟังมากที่สุด
จากอินสตาแกรม @rachwinwong

ประสบการณ์คลอดธรรมชาติที่สุดจริงยิ่งกว่ามาราธอนใดๆ ทั้งปวง… สัญญาณเตือนมาตั้งแต่คืนวันที่ 4 ตั้งแต่ 5 ทุ่ม แต่แม่ก็ไม่มั่นใจว่าใช่รึเปล่า

เลยเตรียมอาบน้ำสระผม ตัดเล็บรอ เข้านอนเที่ยงคืน แม่เริ่มปวดท้องเหมือนท้องแข็งขึ้นมา แต่ไม่ปวดมาก แม่ก็ยัง

เอ๊ะ! ไม่มั่นใจว่าใช่ๆ มั้ย สังเกตตัวเองไปเรื่อยๆ ทุกชั่วโมง

ท้องแข็งถี่ขึ้นเรื่อยๆ จากห่าง 15 นาที 10 นาที จนห่าง 7 นาทีตามตำราที่เคยอ่าน

ดูเวลาอีกที เฮ้ย!
ตี 5 แม่ยังไม่ได้นอนเลยจ้าาา รีบปลุกพ่อ บอกน่าจะใช่แล้วล่ะไปรพ.กันเถอะ!! จุดนี้พ่อล่กสุดๆ55555

ไปถึง 6 โมงเช้า รอจนปากมดลูกเปิดครบ 10 cm. ได้เข้าห้องคลอด 6 โมงเย็น 12 ชม. ที่รอจะได้เจอหน้าลูกครั้งแรก
แม่ไม่ได้ทานอะไรเลยนอกจากน้ำ

แม่กลัวมากว่าจะไม่มีแรงเบ่งคลอด เพราะไม่ได้นอนทั้งคืน และไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวัน

แต่พอรู้ว่าลูกจะใกล้มา แม่ก็รวบรวมพลังทั้งหมดที่มีเพื่อจะได้เห็นหน้าลูกให้เร็วที่สุด “ยิ่งเจ็บมากเท่าไร แม่ก็รู้ว่าจะได้เจอลูกเร็วขึ้นเท่านั้น”…

มันเป็นการรอคอยที่เจ็บปวดแต่สวยงามที่สุดในชีวิตแม่เลยนะ เพราะพอได้เห็นหน้าลูก
และลูกได้มาวางอยู่บนอกแม่เท่านั้นแหละ

ความเจ็บปวดทุกอย่างก็หายไปชั่วพริบตา กลายเป็นความสุขที่สุดที่ยากจะบรรยายจริงๆ

ขอบพระคุณคุณหมอมานพ และทีมแพทย์ พยาบาลรพ.กรุงเทพภูเก็ตทุกๆ ท่านที่ช่วยทำให้การคลอดครั้งนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ นะคะ

ขอบพระคุณครอบครัววงศ์วิริยะ และครอบครัวคงมาลัย ที่คอยส่งกำลังใจมาให้ตลอดตั้งแต่เราตัดสินใจย้ายมาภูเก็ต

ถึงแม้ว่า จะไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในวันที่หลานมา แต่ความรักจากคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย และพี่ๆทุกคนก็ส่งมาถึงอย่างไม่ขาดสาย
ทำให้เราสองคนอบอุ่นใจมากๆค่ะ

ที่สำคัญที่สุดขอบคุณพ่อตูน @artiwara ก้อยโชคดีที่สุดที่มีพี่อยู่เคียงข้างและsupport ก้อยทุกๆ อย่าง
ก้อยเชื่อมั่นในตัวพี่ทุกเรื่อง

เพราะก้อยรู้ว่าพี่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ก้อยและลูกเสมอ ขอบคุณที่จับมือก้อยไม่ปล่อย
และคอยทำเสียงอึ๊ดดดดดดดดด! ในห้องคลอดประสานเสียงไปกับพี่พยาบาลนะคะ

สุดท้ายนี้ ก้อยและพี่ตูนอยากขอบคุณทุกๆคำอวยพร และของขวัญที่ส่งมาให้น้องทะเลอย่างล้นหลามจากทุกๆ คนนะคะ

ทะเลจะรู้มั้ยนะว่าหนูโชคดีมากๆ เลยที่เกิดมามีคนรักมากมายขนาดนี้
โตขึ้นหนูต้องรู้จักเป็นผู้ให้เหมือนกับที่ได้รับมานะครับ…ดวงใจของแม่

แม่รักทะเลที่สุด
7 ตุลาคม 2564
……………………..

ครับ
ลูกคือ “พรวิเศษ” ชนิดเดียว ที่สวรรค์ “เว้นช่องว่าง” ให้พ่อ-แม่แต่ละคน “เติมต้องการ” เอาได้ ด้วยการบ่มเพาะ สุดแต่ใจปรารถนา

ขอทางประเสริฐเพื่อช่องว่างนั้น จงบังเกิดกับตูนและก้อยด้วยเถิด!

 


Written By
More from plew
กสม.หรือ “กำไลอีเอ็ม?” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน กสม.เขาหายกันไปไหนหมด? เห็นออกมาสังเกตการณ์ม็อบ “สามนิ้วกวนเมือง” อยู่วัน แถ-ลงแล้ว ก็หายจ้อย ไม่สนใจบ้างเรอะ ว่าม็อบสามนิ้วเป็นคนกลุ่มไหน วัยไหน ออกมาชุมนุมสันติ...
Read More
0 replies on “ตูน-ก้อย “เด็กแนว” ไหน? – เปลว สีเงิน”