นายกฯ “หนีคุก” คนที่ ๓? – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

เสียใจด้วยกับ “นักเลือกตั้ง” ทุกพรรค ยกเว้นพรรค “เพื่อไทย”
ในจำนวนเต็ม ๕๐๐ ที่นั่ง ที่จะชิงกัน
ขณะนี้ เหลือแค่ ๒๔๙ ที่นั่งเท่านั้น!
เพราะเพื่อไทย โดย “ชลน่าน ศรีแก้ว” ออกแถลงการณ์ด่วน ให้ทราบทั่วกันแต่วาน (๔ มค.๖๖) แล้วว่า

“………พรรคเพื่อไทยตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการเดินหน้ารณรงค์การเลือกตั้งสู่ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์เพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้น
รวมทั้งการชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.ตั้งแต่ ๒๕๑ คนขึ้นไป….”
…………………….

“พรรคเพื่อไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่า พรรคไม่ได้จับมือกับพรรคการเมืองใดในการตั้งรัฐบาลตามที่เป็นข่าว ……”

แบบนี้ก็ “เสร็จเลย”!
ในเมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศชัยชนะ “พรรคเดียวเบ็ดเสร็จ” ตั้งแต่เป็ดยังไม่ทันได้ปี้ไก่
แล้วจะเอาไข่ที่ไหนมาฟักแข่งได้ละเนี่ย?

ในเมื่อ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ก้าวไกล ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า ไทยสร้างไทย สร้างอนาคตไทย
ถูกวางตำแหน่งเป็น “ไข่ลม” ไปทั้งหมด

กระทั่ง “รวมไทยสร้างชาติ” ของคุณพีระพันธุ์ ที่ “นายกฯประยุทธ์” กำลังไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค
ในสายตาเพื่อไทย ก็แค่ “ไข่ตายโคม”!

นับถือ..นับถือ ชลน่านเอ๊ย เก็บอาการไว้บ้างก็ได้ อย่ารีบบ้าตามโพลโทนี่และการหว่านกล้าล่วงหน้าให้มากนัก
จะ “เสียหมอ” น่ะ ไม่ห่วงหรอก เพราะไม่มีจะเสียอยู่แล้ว
แต่ “เสียหมา” นั่นละ ที่ผมห่วง!

สังกัดคอกนายใหญ่ คงร่ำรวย เลยไม่เคยทอดแห ตกปลามาก่อนซะที่ท่า?
จึงไม่รู้จักคำว่า “แหติดตอ” ก็หลงเข้าใจว่า “ปลาตัวใหญ่”
จึงเที่ยวไป “ตัดญาติ-ขาดมิตร” กับเพื่อนบ้านเขาหมด ด้วยกลัวเขาจะมาขอแบ่งปลา

ถ้าเคย คงไม่ “ตาหูแหก” ด้วยโลภแบบนี้
เห็นชลน่านแถลง ผมไม่ได้นึกตามไปถึงภาพ “ครม.คอกหมา” เลย
แต่นึกถึงตลกหน้าม่าน “โย่ง-นง-พวง” แทน!

ตลกว่ะ
“โย่ง-นง-พวง” เขาตลกขำ แต่ “ตลกเพื่อไทย” เป็นตลกน่าสมเพช!
มั่นใจ “โพลนายใหญ่” ก็มั่นไป
แต่ผมยังเชื่อประชาชนส่วนใหญ่ ว่าเขาต้องมีวิจารณญานประกอบการเลือกมากกว่าในอดีต

เพราะอะไรน่ะหรือ?
เพราะมันมีตัวอย่างให้ประชาชนเขาใช้เปรียบเทียบ ว่าในรัฐบาลระบอบทักษิณก่อนที่พลเอกประยุทธ์เข้ามาบริหาร
กับ ๘ ปีที่พลเอกประยุทธ์บริหาร

ยุคไหน ที่บ้านเมืองพัฒนา เจริญก้าวหน้า กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคประเทศมากกว่ากัน?
และแก้ปัญหาจาก “วิกฤตโลก-วิกฤตประเทศ” ได้สำเร็จมากกว่ากัน ระหว่าง
ยุค “ระบอบทักษิณ” เจ้าของนโยบาย “โกงเอามาแบ่งกัน”

กับยุค “ระบอบประยุทธ์” เจ้าของนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ชาวบ้านเขารู้-เขาเห็น-เขาสัมผัสได้-ชั่งน้ำหนักได้

ดังนั้น เพื่อไทยมั่นใจหรือว่า….
ประชาชน โดยเฉพาะทาง “เหนือ-อีสาน” และกทม.
ยังเป็น “ของตาย” ของเพื่อไทย เหมือนเดิม?

ประธานรัฐสภา “คุณชวน หลีกภัย” ให้สัมภาษณ์วันก่อน นั่นเป็นเครื่องเตือนสติอย่างดีในการเลือกพรรค-เลือกคนเข้าสภา

คุณชวนเล่า สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยไปบอกให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ลงไปดูถนนภาคใต้หน่อย
ชัชชาติก็ไปดู ….
รับปากจะจัดงบไปทำ ไปปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำ วันหลังเจอคุณชวน เมื่อคุณชวนถาม

ชัชชาติก็บอกว่า อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย…. “ผมอาย”!
ไม่ใช่อายเพราะทำไม่ได้
แต่อายเพรา ะ”ไม่ได้ทำ” ตามที่รับปาก เมื่อไต่ถามถึงเหตุผล ชัชชาติก็บอกชื่อ “สมุนมือขวา” ของทักษิณ ที่ห้ามไม่ให้ทำ

คุณชวนก็เลยว่า…รู้แล้ว..รู้แล้ว ใครสั่ง ไม่ต้องบอกก็ได้!
จะมีใครสั่งได้ล่ะ นอกจาก “ทักษิณ”

เพราะเมื่อเลือกตั้งปี ๔๘ ตอนนั้น ยังเป็นพรรคไทยรักไทย แพ้เลือกตั้งที่พิจิตร ทักษิณโกรธ ถึงขั้นประกาศว่า
“จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เรา เราต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ต้องดูแลคนทั้งประเทศ วันเวลามันจำกัด ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่ไว้วางใจเราเป็นพิเศษก่อน จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อย ก็ไปทีหลัง”

นี่คือ ตัวอย่างชัดๆ ในความคิดทักษิณหรือของพรรคเพื่อไทย
จังหวัดไหนเลือกพรรคเขา เขาถึงจะเทงบประมาณไปแจกจ่าย จังหวัดไหนไม่เลือก ….อด!

นายปลอดประสพ สุรัสวดี สมัยเป็นรองนายกฯ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังไปพูดบนเวทีที่เชียงใหม่ เมื่อปี ๕๖ อีกว่า
“……มันก็ทวงให้เราไปสร้างที่ภูเก็ต ยังไม่สร้างให้ จะมีปัญหามั้ย
วันหน้าจะสร้างแน่นอน เมื่อภูเก็ตเห็นความดีของพวกเรา เลือกคนของเรา วันนั้นผมจะไปทำให้ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะทำ”

นี่คือ ตัวอย่างระบอบทักษิณ ต้องเลือกพรรคเขา เข้าไป “โกงเอามาแบ่งกัน” ก่อน จึงจะมาพัฒนาจังหวัดนั้นๆให้

แล้วย้อนดู ๘ ปี ของนายกฯ ประยุทธ์บ้าง
พลเอกประยุทธ์ เมื่อเป็นนายกฯ ก็เป็นของนายกฯ ของคนทั้งประเทศ

ไม่ว่า อีสาน เหนือ ใต้ ออก ตก กลาง กทม. จังหวัดไหน-ภาคไหน จะเกลียด จะชัง หรือจะรัก นายกฯ ประยุทธ์ ท่านไม่ยึดเป็นที่ตั้ง

สนแต่ว่า เมื่อเข้ามาบริหารแล้ว ประชาชน คือ “ศูนย์กลาง” การทำงานของท่าน
๘ ปี เราจึงเห็นทั่วทุกภาคของประเทศ ได้รับการพัฒนาโดยการประจายงบลงไปอย่างทั่วถึง

ยิ่งที่ “เหนือ-อีสาน” ซึ่งเกลียดและชังนายกฯ ประยุทธ์ที่สุด แต่ประจักษ์ชัดว่า
ยิ่งเกลียด…
ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ที่หมักหมมของชาวเหนือ-ชาวอีสาน ยิ่งได้รับการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

ถึงแก้ได้ไม่ทั้งหมด ก็ดีกว่า “โกงทั้งหมด”!

นายกฯ ประยุทธ์ ทำเพื่อสังคมชาติ เพื่ออนาคตของทุกคนในชาติ ไม่มีแบ่งแยก อย่างที่ท่านย้ำตลอด “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

ขอให้บ้านเมืองพัฒนาขึ้น ชาวบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น แค่นั้นพอแล้ว ส่วนจะรัก จะเกลียด จะเลือก-ไม่เลือก
นั่นเป็นบุญกรรมและวาสนาของ “ชะตาชาติ-ชะตาประชาชน” ด้วยกัน!

วันนี้ การพัฒนาทุกด้าน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานประเทศ และรากฐาน “เศรษฐกิจนวัตกรรม” สู่อนาคต
ต้องใช้คำว่า “ดั่งเนรมิต”
จึงจะตรงกับที่เห็น-ที่เป็นในปัจจุบัน!

นี่คือ “ข้อเปรียบเทียบ” ระหว่าง “ร่วม ๒๐ ของระบอบทักษิณ” กับ “ระบอบประยุทธ์ แค่ ๘ ปี”
ใคร-พรรคไหนจะ “แลนด์สไลด์”….
ประชาชนพึงวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงนี้ด้วยตัวท่านเองเถิด เพราะในระบอบประชาธิปไตย “อนาคตประเทศ” อยู่ในกำมือท่าน คือประชาชน

๘ ปี มีเรื่องเดียวที่สังคมค่อนข้างผิดหวัง คือเรื่องการปฎิรูประบบราชการ โดยเฉพาะตำรวจ และเรื่องคอร์รัปชัน
แต่ก็น่าเห็นใจ หมื่นเรื่อง-ล้านปัญหา จะได้หักด้ามพร้าด้วยเข่าให้สำเร็จทั้งหมดในคราวเดียว

คนพูดน่ะ..พูดง่าย แค่คนทำ…มันทำยาก!

ผมก็มีตัวอย่างเปรียบเทียบให้ดู เรื่องคอร์รัปชันในยุค รัฐบาลระบอบประยุทธ์ ในระดับรัฐมนตรี บางท่านมีครหา
แต่ขั้น “รัฐมนตรีติดคุก” ไม่มี

ส่วนยุครัฐบาลระบอบทักษิณ เฉพาะตัวหัวหน้าระบอบเอง แค่ ๔ คดี ก็คุกถึง ๑๒ ปี ที่ต้องหนี รอ “อุ๊งอิ๊งพาพ่อกลับบ้าน” อยู่ขณะนี้

ส่วนคนพรรคเพื่อไทย ก็ร่วม ๒๐ ราย ทั้งติดคุก ทั้งหลบหนี ด้วยต่างๆ โดยเฉพาะคดีคอร์รัปชัน เช่น

นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ อดีต รมว.เกษตรฯ, นายวิทยา เทียนทอง อดีตเลขาฯรมว.เกษตรฯ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ, นพ.สุรพงษ์ หรือ หมอเลี้ยบ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.ไอซีที

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์, นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์,
นายวราเทพ รัตนากร อดีตรมช.คลัง แต่รอลงอาญา, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ, นางเบญจา หลุยเจริญ
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์, นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่

ที่หนีโทษคุกก็มี เช่น…
นายประชา มาลีนนท์, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และ

แอ่น…แอ๊นนนน…
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี!

นี่คนพรรคเพื่อไทยที่ชลน่านประกาศแลนด์สไลด์ พรรคเดียวได้ ๒๕๑ เสียงขึ้นไป จัดตั้งรัฐบาล
ถ้าประชาชนต้องการอีก ก็เชิญ

ผมเพียงนำข้อมูลมาให้ดู ส่วนท่าน เป็นผู้ตัดสินใจ
ถ้าต้องการเห็น “นายกฯคนที่ ๓” ในระบอบทักษิณ “ติดคุก” เพราะโกงเอามาแบ่งกันอีก

ผมก็ไม่ว่า เพราะนั่น “ประชาชน” ต้องการ!

เปลว สีเงิน
๕ มกราคม ๒๕๖๖

ภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย

 

Written By
More from plew
อย่าให้เป็น “วิกฤตตุลาการ”
ก็รวดเร็ว “ตามขั้นตอน” กรณีผู้พิพากษา “ลั่นไกยุติธรรม” ใส่ตัวเองบนศาลจังหวัดยะลา เมื่อ ๔ ตุลา.๖๒ เมื่่อวาน (๗ ตค.) ที่ประชุม...
Read More
0 replies on “นายกฯ “หนีคุก” คนที่ ๓? – เปลว สีเงิน”