วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำชุดปฏิบัติการ “พาลีปราบยา” พร้อมด้วย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
นายอำนาจ เหล่ากอที ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายสุรไตร นวลศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จ. นครปฐม พ.ต.อ.สมคะเน ไตรยะสุทธิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.4และ พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ7 เพื่อกำกับ ติดตามการปฏิบัติการยึด/อายัดทรัพย์สินกลุ่มเครือข่ายการค้ายาเสพติด
ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อเนื่องพื้นที่ภาคกลางและ ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และ พื้นที่กรุงเทพฯ รายละเอียด ดังนี้
สำนักงาน ปปส.ภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจภูธร ภาค 4 สืบสวนสอบสวนขยายผล การจับกุมบุคคลในเครือข่ายการค้ายาเสพติดของนายเชิดชัย คงฟู รวม 3 คดี ตั้งแต่ห้วงวันที่ 12 กรกฎาคม – 27 ตุลาคม 2563 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและรวบรวมหลักฐานขออนุมัติจับกุมเครือข่ายผู้สั่งการ ในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 8 และศาลจังหวัดบึงกาฬได้อนุมัติให้จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่
(1) นายเชิดชัย คงฟู (2) น.ส.นุชนารถ แช่มช้อย (3) นายบุญอุ้ม ทึนหาร (ถูกจับกุมเมื่อ 3 เมษายน 2564)
และ (4) MRS.DUANGCHAI SENGKHAMYOUNG ชาวลาว
จากนั้นวันที่ 22 กันยายน 2564 ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายผลยึดทรัพย์สินบุคคลในเครือข่าย จุดที่ 1 ในพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม รวม 4 จุดปฏิบัติการ
ผลจากการปฏิบัติการ เลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งยึด/อายัดทรัพย์สินของเครือข่ายการค้ายาเสพติดไว้แล้ว มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ประกอบด้วยบัญชีธนาคาร ยานพาหนะ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สิน อื่นๆ
จุดที่ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ, สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และตำรวจภูธรจังหวัดตาก สนธิกำลังร่วมเข้าค้นบริษัทค้าอัญมณี ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก ตามอนุมัติศาลจังหวัดแม่สอด ที่ ค.179/2564 ลงวันที่ 21 ก.ย.2564 และในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ห้องชุดคอนโดหรู ย่านสาทร ตามอนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.151/2564 ลงวันที่ 20 ก.ย.2564
โดยปรากฏผลการสืบสวนสอบสวน พบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีธุรกรรมต้องสงสัย และมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเส้นทางการเงินกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งผลการตรวจสอบย้อนหลัง 9 ปี นับแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของผู้ต้องสงสัยบุคคลใกล้ชิดและบุคคลอื่น ๆ ในห้วงเวลาเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 2,500 ล้านบาท
ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลประกอบการของบริษัท จากปฏิบัติการสามารถ ยึด/อายัดทรัพย์สินต้องสงสัยมีมูลค่าประมาณ 43.85 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดคอนโด,โฉนดที่ดิน,ยานพาหนะ,เงินสด เชคเงินสด,เครื่องประดับและอัญมณี ซึ่งเกินกว่าฐานานุรูป พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ มาตรา 5 มาตรา 7 และมาตรา 9 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 รวมผลการดำเนินงานภายใต้ปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถยึด/อายัด ทรัพย์สิน ได้มูลค่ากว่า 58.85 ล้านบาท