อำนาจอำมหิต?-สันต์ สะตอแมน

ผสมโรง 

สันต์ สะตอแมน

            ปลดศิลปินแห่งชาติไปหนึ่งชื่อ

            ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ-ธรรมดา ยิ่งในยุค “สังคมแตกแยก” ด้วยแล้ว คนไทยเราดูเหมือนจะเห็นต่าง-คิดต่าง โต้เถียงกันไปเสียแทบจะทุกเรื่อง!

            ลำพังแค่ฆราวาสก็วุ่นวายพออยู่แล้ว แต่นี่บางเรื่องเป็นเรื่องทางโลกแท้ๆ พระสงฆ์องค์เจ้า ผู้ที่ได้ปวารณา “ละทางโลก เข้าสู่ทางธรรม” ก็ไม่วายที่จะเอากายคลุมจีวรเข้าไปข้องแวะด้วย!

            และแทนที่จะโปรดสัตว์ เทศนาธรรม สั่งสอนแนะนำให้ข้อคิดที่เป็นคุณเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายที่กำลังร้อนรุ่มโต้เถียงกันอยู่ให้มีสติ ให้ค่อยพูดค่อยจากันด้วยเหตุด้วยผล..

ท่านเจ้าคุณกลับเอาตัว-เอาใจ (ที่ละทางโลก) เข้าไปอิงกับอีกฝ่าย แล้วใช้วาทะกล่าวหา..การถอดถอนศิลปินแห่งชาติ เป็นความไร้เดียงสา..

เป็นการใช้กฎกดขี่ที่อำมหิตของผู้มีอำนาจ ทำให้ต่างชาติหัวเราะเยาะ น่าอายขายหน้า!

ซึ่งหากอ่านหรือฟังโดยที่ไม่รู้เป็นบทกลอน-กวีของพระคุณเจ้า ก็จะเข้าใจไปว่า ต้องเป็นใครสักคนที่หัวร้อน!

แต่เมื่อรู้เป็นกลอนท่านเจ้าคุณ ผมก็ได้แต่ปลงอนิจจัง และกราบนมัสการด้วยเกรงใจ (บาป) เอาตามที่พระเดชพระคุณเจ้าสบายใจเถอะขอรับ แต่..

อย่าว่าแต่ศิลปินแห่งชาติเลย พระสงฆ์องค์เจ้า ระดับ “ท่านเจ้าคุณ” ก็โดนปลด-โดนถอดถอนได้ หากประพฤติ-ปฏิบัติตัวไม่เหมาะ-ไม่งามพร้อม!

นี่..พูดเรื่องนี้แล้ว ก็มีคนถามอยู่เหมือนกัน ว่าตั้งแต่มีการเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติมาเมื่อปี 2528 เคยมีใคร-ท่านไหนโดนถอดถอนบ้าง? ก็ขอตอบเสียตรงนี้เลยว่า..ไม่เคยปรากฏ!

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เริ่มจัดทำโครงการศิลปินแห่งชาติ ด้วยประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติ ส่งเสริมสนับสนุน และช่วยเหลือผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีคุณค่าของแผ่นดิน

ทั้งนี้ ได้พิจารณาคุณสมบัติด้วยหลักเกณฑ์ที่สำคัญด้านศิลปะ ประการ ได้แก่ (1) มีสัญชาติไทย (2) มีชีวิตอยู่ในวันประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ

(3) เป็นผู้มีคุณธรรม มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับ ของวงการศิลปะในสาขานั้น

(4) เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ (5) เป็นผู้ผดุง ถ่ายทอด เผยแพร่ หรือเป็นต้นแบบศิลปะในสาขาที่ได้รับการประกาศ ยกย่องเชิดชูเกียรติ

(6) เป็นผู้ทุ่มเท อุทิศตนเพื่องานศิลปะ และมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม (7) ไม่มีความประพฤติเสื่อมเสีย

(8) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ”

และด้วยเจตนาที่ต้องการเชิดชู-ยกย่อง แล้วมีเหตุผลใดที่กรมส่งเสริมฯจะใช้กฎหรือ “อำนาจกดขี่ศิลปินให้จมดิน” ล่ะ..หือ?

มีก็แต่ตัวศิลปินนั่นแหละที่ทำตัวเองให้ดูด้อยค่า-จมดิน ไม่มีหรอก “อำนาจอำมหิต” ที่ไปขัดขวางการประดิษฐ์ศาสตร์และศิลป์..

อย่าได้จินตนาการไปตามความรักโลภโกรธหลงเลย!

Written By
More from pp
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจับมืออาลีเพย์และฟลิกกี้ เชิญชวนชาวจีนในไทยท่องเที่ยวในประเทศกับ Amazing Thailand
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับมือ อาลีเพย์ และฟลิกกี้ เชิญชวนชาวจีนในไทยท่องเที่ยวในประเทศกับ Amazing Thailand ผ่านแคมเปญร่วมกันในประเทศครั้งแรกเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
Read More
0 replies on “อำนาจอำมหิต?-สันต์ สะตอแมน”