คุณูปการจาก “สื่อลาว” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ข่าวนี้ บ่มีมูลความจริงแต่ประการใด บ่มีการสักวัคซีนให้พวกเขาทั้ง ๗ คน”
“โทรทัศน์แห่งชาติลาว” แถลง ๒-๓ วันก่อน
หลังจากโทรทัศน์ไทยบางช่องออกข่าว ๗ คนไทยเข้าไปเก็บเห็ดในเขตลาว “ถูกจับ” แล้วได้ฉีด “ไฟเซอร์”
ขบวนการสื่อไทย “สายปั่น” ขมีขมันกระพือโหมต่อกันยกใหญ่ ดูแล้ว ก็ไม่มีอะไร
มีเจตนาเดียว….
เจตนาใช้ประเด็น “ลาวมีไฟเซอร์” ด้อยค่าประเทศไทยตัวเอง และชิ่งไปกระทืบนายกฯ ว่าบ่มิไก๊-ไร้น้ำยา
ลาวยังมีวัคซีนเทพฉีด แต่ไทยยังตะกายแกร๊กๆ!

ประเด็น “ลาวกับไทย” ผมอยากฝากเป็นข้อคิด ขั้นแรก ขอให้ลบทัศนคติที่ว่า “ใครเหนือใคร” ทิ้งเสีย
ขั้นที่สอง ในทุกการพูดจา อย่าพูดด้วยทัศนคติ “ยกใคร-ข่มใคร” เป็นอันขาด

“ลาวกับไทย” ผูกพันรักใคร่เป็นญาติสนิทของกันและกันชนิด “ตัดไม่ตาย-ขายไม่ขาด”
เพราะในความเป็นญาติ เป็นโดยสายเลือดและชีวิตจิตวิญญาน จะกดข่มกันไม่ได้
ยิ่งในความ “เป็นชาติ-เป็นประเทศ” ด้วยแล้ว
“ลาว-ไทย” ศักดิ์ศรีเสมอเหมือนกัน คือ “เท่ากัน” การพูดทำนอง “ไทยพี่-ลาวน้อง” ไม่รู้ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน?

“ลาว-ไทย”….
บรรพบุรุษทั้งสองชาติ สืบสายเลือดลึกลงไป ยิ่งบอกไม่ได้ “ใครพี่-ใครน้อง” เพราะเลือดกลมกลืนเป็นสายเดียวกันมาแต่บรรพกาล
ด้วยนักรุกรานชาติตะวันตก “ฝรั่งเศส” นั่นแหละ
มัน “แยกชาติ-ตัดสายเลือด”
แล้วเขียนประวัติศาสตร์ “มอมหน้า” ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆ มาเกิดอคติต่อกัน กลายเป็นญาติที่มองหน้ากันได้ แต่ลึกในใจ แนบไม่สนิท

เราต้องรัก-ต้องถนอมน้ำใจซึ่งกันและกันไว้ให้มากๆ อัน “ลาว-เวียดนาม-พม่า-เขมร-ไทย นั้น
ล้วน “หัวกระไดบ้าน” ชนกัน
รากฐานวัฒนธรรม, ขนบธรรมเนียม-ประเพณี กระทั่งศาสนาและความเชื่อ ล้วนมาจาก “ฐานรากเดียวกัน”

ก็จะเห็นว่า ไม่เพียงรูปร่าง-หน้าตา กระทั่ง “ทัศนคติ-ความคิด” ที่เรียกโลกทัศน์ คนใน CLMVT ในเรื่องเดียวกัน
จะคิดเห็นไม่ต่างกันเท่าไหร่

ฉะนั้น ๕ ประเทศเพื่อนบ้านกัน ต้องไม่อคติต่อกัน ต้องส่งเสริม ผูกพัน-รักใคร่กันไว้

ย้อนกลับเรื่องข่าวปั้น คนไทยไปเก็บเห็ดในลาว ได้ฉีดวัคซีน mRNA ต่อ
สื่อไทยบางสำนักใช้อคติต่อประเทศและรัฐบาลตัวเอง ประโคม “เห็ดทิพย์-วัคซีนเทพ” จนเกินเลย

ลาวทนทุเรศไม่ไหว “โทรทัศน์แห่งชาติลาว” จึงออกแถลงข้อเท็จจริง
“ข่าวนี้ บ่มีมูลความจริงแต่ประการใด บ่มีการสักวัคซีนให้พวกเขาทั้ง ๗ คน”

ก็ต้องขอบคุณ “โทรทัศน์แห่งชาติลาว” ที่สอนสำนึกคนทำสื่อไทย
และด้วยมาตรฐาน “สื่อลาว”
ทำให้ผมมีความคิดว่า “๖ องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนไทย”

-สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ
-สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
-สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
-สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
-สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และ
-สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย

น่าที่จะเดินทางไปขอ “เรียนรู้-ฝึกอบรม” การเป็นสื่อที่ดีจากองค์กรสื่อสารของชาติลาว
ว่า “จริยธรรมสำนึก” ในอาชีพสื่อที่ควรมี คืออย่างไร?

การทำหน้าที่สื่อได้มาตรฐาน ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
และแบบไหน คือความรับผิดชอบที่สื่อต้องตระหนัก?

และการนำเสนอข่าวสาร ระหว่างเกิดประโยชน์ “ส่วนรวม” กับเกิดประโยชน์ “ส่วนตัว”
……อย่างไหนต้อง “มาก่อน”?

และต้องแยกให้ออก “ชังชาติ” กับ “ชังตัวบุคคล” มันคนละเรื่องกัน อย่าเอาปนกัน แล้วใช้ข่าวสาร “เป็นเครื่องมือ” ทำลายล้างเหมารวม
“สื่อสาร” กับ “สื่อเสี้ยม” มันเป็นเงาสะท้อนกันอยู่ จึงอยากให้ ๖ องค์กรสื่อไทย ทำโครงการ “ขอทุน” ตามถนัด
ไปดูงานที่ “สถาบันสื่อสารมวลชนลาว”

เพื่อนำหลักคิดและแบบอย่างมาพัฒนาองค์กรสื่อของเราให้ไปถึงขั้น “มาตรฐานวิชาชีพสื่อ” ตรงตามปรัชญาในตัวมัน
จะได้ “คิดและทำ” ได้มากกว่า “ออกแถลงการณ์” เป็นอย่างเดียว!

อย่างคืนวาน รีบกลับบ้านให้ทันเคอร์ฟิว ไปถึงเห็นผู้อ่านข่าวหญิง-ชายคู่หนึ่ง กำลังเมามัน รัฐบาลทำผิดทุกเรื่อง
ไม่ว่าเรื่องจัดหาวัคซีน เรื่องฉีดวัคซีน เรื่องคนเจ็บ-คนตาย เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องอุ้มชู-ฟูมฟักประชาชน บลาาาาาา

อันที่จริง เป็นกันหมดทุกรายการข่าวทั้งช่อง ก็คงนโยบายเขา ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ขนาดนี้
ก็เรื่องของเขา….

คนดูมีสิทธิ์เลือกจะดู-ไม่ดูช่องไหน แต่มาขยะแขยงหูจนทนไม่ได้ จนต้องขอพูดหน่อยวันนี้
ตรงเป็นปี่-เป็นขลุ่ยกับวัคซีนทิพย์ของหมอบุญ นั่นก็ยกไว้ แต่ที่ผู้อ่านข่าวหญิงตบท้ายเชิญชวนให้ตามดูช่วงต่อไปด้วยคำพูดว่า

หมอบุญ “ถูกหลอก-ถูกต้ม” เรื่องสั่งซื้อวัคซีน!?
ได้ยินก็ โถ…โถ ในใจ ไม่กล้าหยาบคายด้วยถุย เพราะเห็นแก่ความเป็นผู้อ่านข่าวหญิง
คนอย่างหมอบุญน่ะหรือ “ถูกหลอก”?

พวกเธอรู้จักหมอบุญขนาดไหน หือ…ที่พูดเต็มปาก-เต็มคำว่า “หมอบุญถูกหลอก” นั้น คนในวงการ เขาขำกลิ้ง
สมเพชทั้งพวกเธอ…
ทั้งสงสารชาวบ้านหน้าจอ ที่ซื่อ-ใส หลงเชื่อในข่าว “เต็มคำ” ของพวกเธอ

ถามจริงๆ เธอพูดด้วยซื่อ ด้วยเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ ว่าเรื่องสั่งซื้อวัคซีนของหมอบุญ ที่อ้างหน่วยงานโน้น-นี้เป็นตัวกลางมาตลอด นั้น เป็นเรื่องจริง?

แถมมีชาร์ตประกอบข่าวเป็นตุ-เป็นตะ มีตัวกลางไปหลอกต้มหมอบุญว่าให้กลาโหมเป็นตัวกลางสั่งซื้อให้ได้
ทำเป็นใบชื่อคนหลอกด้วยอักษรย่อ ทำระโยง-ระยางจากตรงนั้น ไปตรงนี้ ทำให้ดูเป็นจริงเป็นตุ-เป็นตะ
มันชาร์ต “สวะลอยน้ำ” ชัดๆ

ระวังเถอะ….
เกิดกลาโหมเขารำคาญ ถูกอ้างชื่อไปประกอบฉากนักบุญถูกหลอกให้เขาเสียหาย คาดคั้นขอหลักฐานขึ้นมาละก็ ไม่มีให้เขา พวกเธอจะกลายเป็น “จำเลยร่วม” แบบไร้เดียงสา!

วันนี้ ก็ วันที่ ๖ สิงหา.
แล้วพรุ่งนี้ ๗ สิงหา.พวกสามนิ้วล้มเจ้า เขาจะใช้ฤกษ์คอมมิวนิสต์เปิดยุทธการถล่มประเทศไทยเมื่อ ๕๐ กว่าปีที่แล้ว
และใช้ ๕ ยุทธวิธี “ล้มสถาบันกษัตริย์” ของปิยบุตร
ยกกองโจรรุ่นใหม่สามนิ้ว ไปบุก “พระบรมมหาราชวัง” ตามที่เขา ทวีต-โพสต์ นัดหมายกันครึกโครม

ผมเห็น “ปฏิกริยาตอบกลับ” ของประชาชนคนไทย “เหลืออด-เหลือทน” บอกจะออกมาให้มันรู้ดำ-รู้แดงกันไปซะที
ใจหนึ่ง ก็ปลื้ม ที่เห็นพี่น้องไทย “ไม่ทิ้งบ้าน-ทิ้งเมือง”

แต่อีกใจหนึ่ง อยากบอก….
อย่าออกกันมาเลยครับ เฝ้าดูผีห่าซาตานอยู่ห่างๆ แบบระแวดระวังไปก่อนดีกว่า
ให้เป็นความรับผิดชอบของตำรวจ-ทหารเขาไป เพราะมันเป็น “หน้าที่” ของเขาโดยตรง

งานรักษากฎหมาย เป็นงานตำรวจ
งานรักษาความมั่นคงของชาติ-ของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นงานของทหาร

โดยเฉพาะกรุงเทพฯ “เมืองหลวง” มีกองกำลังรักษาพระนคร มีหน่วยความมั่นคง งานนี้เป็นงานในภารกิจเขาโดยตรง
ฉะนั้น “กองทัพประชาชนพิทักษชาติและสถาบัน” ด้วยจิตวิญญานไทย

สงบอยู่ในที่ตั้ง “บ้านใคร-บ้านมัน” ไปก่อนดีกว่า งานนี้ ไม่ต้องถึงมือพวกเราหรอก
ไอ้บูด มันหลอกเด็ก “ให้กินข้าวทีละคำ” ส่วนตัวมัน หลบไปขย้ำเต็มคำอยู่กับเมียแหม่มมันที่ฝรั่งเศส ที่เกลื่อนไปด้วยพวกขอทาน และคนร่อนเร่ ทั้งถนนฌ็องเซลิเซ

ก็ดูพวกร่านหาหลุมรุ่นใหม่เขา……
ว่าสุดท้ายจะไปจนตรอกรวมอยู่ตรอกเดียวกับหมอบุญหรือเปล่า เพราะ “ราคาคุย” พอๆ กัน

แต่เห็นข่าว “ถอนประกัน” นายอานนท์, เพนกวิน, รุ้ง, ไผ่ เพราะทำผิดเงื่อนไขประกัน ตำรวจตามตัวไปมอบศาลได้หรือยัง ผมก็ไม่ทราบ

คิดอีกทีก็ดีนะ “พวกสามนิ้ว”
เพราะมี “ปรอทวัดไข้” เราถึงรู้ว่า เราเป็นไข้หรือไม่เป็น

ทำนองเดียวกัน….
“พวกล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ถือเป็น “ปรอทวัดใจ” คนไทย ว่าคิดอย่างไรกับ “ประเทศชาติและสถาบัน”
“ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ” ด้วย!


Written By
More from plew
“น้ำหมึก-ผลึกคน” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน มองย้อนไป ๒๖ ปีที่แล้ว ๒๑ ตุลา.๓๙ ตอนนั้น “ไทยโพสต์” อาศัยอยู่อาคาร “สรชัย” เอกมัย...
Read More
0 replies on “คุณูปการจาก “สื่อลาว” – เปลว สีเงิน”