ดูแลตับอย่างไรให้สุขภาพดี

Image of a doctor in a white coat and liver above his hands. Concept of healthy liver and donation.

คุณรู้หรือไม่ ตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของเรา มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันกำจัดเชื้อโรค ผลิตน้ำดีเพื่อย่อยอาหารประเภทไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผลิตสารประเภทโปรตีนที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด เป็นที่สะสมพลังงานของร่างกายเพื่อดึงมาใช้ยามจำเป็น และยังเป็นที่เก็บวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกด้วย ตับสำคัญอย่างนี้ แล้วเราจะดูแลอย่างไร

นพ. ศุภพัชญ ศรีภูษณาพรรณ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับจาก Addlife Digestive and Liver Center ชั้2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)  ได้ให้ข้อมูลเรื่องตับว่าตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง และยังเป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่หากได้รับปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดการทำลายตับเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้ตับได้รับความเสียหายได้อย่างถาวร และกลายเป็นโรคต่างๆ ตามมา

โรคของตับที่พบได้บ่อย คือ มะเร็งตับ ซึ่งเป็นมะเร็งอันดับ 1 ในผู้ชายไทย และโรคตับแข็งซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของประชากรโลก โดยปัจจัยที่อาจนำไปสู่โรคตับเหล่านี้ ได้แก่

  • การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี
  • ความอ้วนและพฤติกรรมการบริโภค
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • การได้รับยาบางประเภท หรือสารพิษต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • ภาวะไขมันเกาะตับ
  • โรคทางพันธุกรรมและเมตาบอลิก เช่น โรคเบาหวาน

เมื่อทราบปัจจัยเสี่ยงแล้ว การจะดูแลตับให้สุขภาพดี ห่างไกลโรคก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าเรารู้จักดูแลและป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค ดังนี้

  • ปรับพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักตัว ลดหรืองดการดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการซื้อยา อาหารเสริมหรือสมุนไพรรับประทานเองโดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี กรณียังไม่มีภูมิคุ้มกัน
  • หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี โดยปัจจุบันสามารถตรวจคัดกรองโรคตับได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การตรวจเอนไซม์ตับ ตรวจหาเชื้อและภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี การอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนบน การตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP) และการตรวจ Fibro Scan

Fibro Scan เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ใช้ในการตรวจวินิจฉัยที่สามารถตรวจภาวะพังผืดในตับ และตรวจวัดปริมาณไขมันสะสมในตับ โดยสามารถตรวจประเมินสภาวะพังผืดในเนื้อตับได้ในผู้ป่วยที่เป็นตับแข็งระยะแรกๆ รวมถึงติดตามผลประเมินระดับความรุนแรงเพื่อวางแผนการรักษาและวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็งแทนการเจาะเนื้อตับได้ นอกจากนี้ยังสามารถประเมินและแสดงปริมาณไขมันสะสมในตับสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver) ได้พร้อมกันภายในครั้งเดียวอย่างรวดเร็วและตรงจุดชัดเจน

ซึ่งการตรวจหาความผิดปกติของตับก่อนแสดงอาการ สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคตับได้ ดังนั้นเราจึงไม่ควรละเลยการตรวจสุขภาพประจำปีนะคะ


0 replies on “ดูแลตับอย่างไรให้สุขภาพดี”