รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โรงเรียนต่าง ๆ อาจจะต้องจัดการศึกษาแบบผสมผสานกัน อาจจะไม่สามารถจัดห้องเรียนแบบเดิมได้อีกต่อไป ซึ่งโรงเรียนขนาดใหญ่อาจจะไม่มีความคล่องตัวในการจัดการเรียนการสอน ตามมาตรฐานความปลอดภัยของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยโรงเรียนจะมีอำนาจตัดสินใจใช้แนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของตนเองได้ เช่น สลับวันเรียน สลับชั้นเรียน สลับเวลาเรียน ให้นักเรียนมาเรียนช่วงเช้าและบ่าย เป็นต้น
ทั้งนี้ อาจสร้างความหนักใจให้โรงเรียน เพราะทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ยากต่อการบริหารจัดการ โรงเรียนจึงควรทำความเข้าใจให้กับครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนด้วย การทดลองการเรียนทางไกลช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 18 พ.ค.2563) ทำให้เห็นแล้วว่าเรามีศักยภาพทำอะไรได้บ้าง และเห็นปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เครื่องมือดิจิทัลในการเรียนรู้ เรื่องภาระค่าใช้จ่ายของอินเทอร์เน็ต โดยที่ ศธ.จะต้องคำนึงถึงความพร้อมของทุกฝ่าย สร้างกลไกต่าง ๆ ให้ผู้ปกครองมีภาระน้อยที่สุด
ทั้งนี้ แนวทางการเรียนแบบผสมผสานในช่วงเปิดภาคเรียน ก็มีหลายหน่วยงานจัดเตรียมรูปแบบการเรียนการสอน เช่น โรงเรียนสังกัด กทม. จัดรูปแบบการเรียน เช่น สลับวันเรียน ในโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยนักเรียนที่ไม่ได้ไปเรียนในวันปกติ จะใช้วิธีเรียนทางออนแอร์และออนไลน์ หรือสลับชั้นเรียน เช่น ระดับอนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ให้มีการจัดการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนประถมศึกษาตอนปลายและมัธยมศึกษาตอนปลาย ให่สลับวันมาเรียน ส่วนโรงเรียนขนาดเล็ก ให้นักเรียนไปเรียนทุกวันได้เช่นเดิม และรักษาระยะห่างทางสังคม