นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในกลุ่มเป้าหมาย 4 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร กิจการศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และกิจการกิจกรรมบริการด้านอื่นๆ ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่ 6/2564 สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ประกอบด้วย
กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาสโดยให้การปฏิบัติเป็นไปตามมาตราการตามข้อกำหนด ออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 25) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์แคมป์คนงานที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเวลา 30 วัน นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้กำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้าง/ผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบใน 4 ประเภทกิจการ ได้สั่งการให้นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ดูแลพี่น้องผู้ประกันตนให้ได้รับการเยียวยาตามสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเพราะเหตุสุดวิสัย ใน 4 ประเภทกิจการ เนื่องจากถูกปิดตามคำสั่ง ศบค.ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง
โดยเบื้องต้นสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนไปแล้ว จำนวน 17,920 คน เป็นเงิน 87,631,033.80 บาท โดยแยกเป็น กิจการก่อสร้าง 16,468 ราย เป็นเงิน 79,801,420.45 บาท ที่เหลือเป็นกิจการร้านอาหาร และภัตตาคาร 1,452 ราย เป็นเงิน 7,829,613.35 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2564)
สำหรับขั้นตอนการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเหตุสุดวิสัยของประเภทกิจการก่อสร้างนั้น นายจ้างต้องบันทึกข้อมูลดังกล่าวและยื่นหนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนฯ ของผู้ประกันตน ผ่านระบบ E-service แล้วรวบรวมแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส.2-01/7) ส่งให้สำนักงานประกันสังคมที่รับผิดชอบทำการวินิจฉัยจ่ายเงินสิทธิประโยชน์
สำหรับกรณีกิจการก่อสร้าง จะทำการตัดจ่ายประโยชน์ทดแทนทุกวันศุกร์ และจ่ายเงินทุกวันจันทร์ถัดไป โดยนำไปจ่ายเป็นเงินสดที่หน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนอีก 3 ประเภทกิจการที่เหลือ จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่นายจ้างแจ้งผ่านระบบ E-service
โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่ากระทรวงแรงงาน ได้ขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบการดูแลเรื่องอาหารแก่คนงานทั้ง 3 มื้อ โดยกระทรวงแรงงานจะสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่ม ไข่ไก่ ปลากระป๋อง ที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชน และนำไปมอบให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นศูนย์กลางในการกระจายอาหารไปยังคนงานตามแคมป์ต่างๆ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นมาตรการเสริมที่กระทรวงแรงงานขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบการให้ดูแลเรื่องอาหารแก่คนงาน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านอาหารให้แก่คนงานอีกทางหนึ่ง