รัฐบาลฆาตกร???-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ศัตรูของทุกคนตอนนี้คือ…โควิด

                ฉะนั้นความคิดที่รกรุงรัง โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมือง ควรละเลิกไปก่อน

มันถึงเวลา ไม่มีใครเป็นพระเอก ไม่มีใครเป็นผู้ร้าย

                มีแต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน

                ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับคำชมว่าสามารถจัดการกับโควิดได้ดี เป็นลำดับต้นๆ ของโลก แต่นั่นมันก่อนเดือนเมษายนที่ผ่านมา

                วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปราวหน้ามือเป็นหลังเท้า

                ตัวเลขผู้ติดเชื้อวานนี้ (๘ กรกฎาคม) ๗,๐๕๘ คน เสียชีวิต ๗๕ ราย เพิ่มมากขึ้นจนเป็นตัวเลขที่รับไม่ได้

                และมีแนวโน้มติดเชื้อวันละหมื่นคน

                ฉะนั้นทุกฝ่ายจะคิดแบบเดิมทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว

                ลำพังรัฐบาลไม่มีทางแก้ปัญหาได้ หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ

                เช่นเดียวกัน ประชาชนระวังตัวแทบตาย แต่รัฐบาลออกมาตรการแก้ปัญหาช้า สถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายลง

                ถึงเวลาต้องล็อกดาวน์!

                การแถลงข่าวจากที่ประชุมคณะแพทย์ที่เชี่ยวชาญ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอ ศบค.ยกระดับมาตรการทางสังคม

                การจำกัดการเดินทาง ไม่ออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น ยกเว้นการไปซื้ออาหาร พบแพทย์ ฉีดวัคซีน 

                ป้องกันการเดินทางข้ามจังหวัด          

                การปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงทั้งหมด และพื้นที่กันชน อย่างน้อย ๑๔ วัน

                มาตรการจะเข้มข้นไม่น้อยกว่าล็อกดาวน์เมื่อเมษายน ๒๕๖๓

                จริงอยู่จะต้องถ่วงดุลระหว่าง ป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด กับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยาก เพราะมีองค์ประกอบต้องพิจารณาเยอะแยะไปหมด

                แต่น้ำหนักตอนนี้ หากไม่ล็อกดาวน์พื้นที่สีแดง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ระบบสาธารณสุขล่มแน่นอน

                แล้วเศรษฐกิจล่มหรือไม่?

                จะต้องมีประชาชนได้รับผลกระทบมากแน่นอน แต่เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องเยียวยา

                ฉะนั้น รัฐบาลก็ต้องเลือกว่า  จะเยียวยาจากการเสียชีวิตของประชาชนที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือจะเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

                ซึ่งอย่างหลังน่าจะถูกต้องกว่า และคาดว่ารัฐบาลน่าจะตัดสินใจเลือกอย่างหลัง

                ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ถ้อยคำให้ดูเบาลง เช่น การบอกว่า แค่ยกระดับมาตรการทางสังคม ไม่มีการล็อกดาวน์

                ถึงวินาทีนี้ ประชาชนต้องการความชัดเจนมากกว่า

                ล็อกดาวน์ ก็คือ ล็อกดาวน์ 

                สถานการณ์มันวิกฤติจะพับเพียบ บอกประชาชนว่าไม่ใช่ “ล็อก” แค่ “ยกระดับมาตรการทางสังคม” ไม่ได้

                อย่ามองว่าการสื่อสารเป็นเรื่องเล็ก เพราะถ้าผิดพลาดมันจะเป็นคนละเรื่อง

                ที่สำคัญคือความไว้วางใจ

                สำหรับประชาชน ต้องปรับตัวอย่างไร

                ปลุกม็อบไล่รัฐบาล อย่างนั้นหรือ

                คนที่มาแทนสามารถเสก ไฟเซอร์-โมเดอร์นา ให้มาในวันรุ่งขึ้นได้หรือไม่

                อยากให้ชั่งน้ำหนักดู นี่คือวิกฤติของโลก ไม่ใช่วิกฤติเฉพาะไทย แล้วดูตัวเลขประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไทยประกอบ ก็จะเข้าใจมากขึ้นว่า ความอยากทางการเมือง ไม่สามารถแก้วิกฤติในครั้งนี้ได้

                มีคนบอกว่าให้ทักษิณมาเป็นนายกฯ สัก ๖ เดือน รับรองแก้ปัญหาโควิดได้แน่

                ขอโทษเถอะครับ…๔ เดือนหลังจากนี้ สารพัดวัคซีนเริ่มเข้ามาในไทยแล้ว ใครเป็นนายกฯ วัคซีนก็มาเวลานั้น

                ลองไปถามทักษิณดู ทำไมฉีดซิโนฟาร์ม ทำไมไม่ฉีดไฟเซอร์-โมเดอร์นา 

                และให้ตอบชัดๆ ว่า ทำไมแนะนำคนในครอบครัวชินวัตรฉีดซิโนฟาร์มด้วย

                ฉะนั้นเลิกเสียทีกับการด้อยค่าวัคซีนตัวหนึ่งแล้วไปเชิดชูวัคซีนอีกตัว

                แม้การป้องกันโรคได้ไม่เท่ากัน แต่ทั้งหมดป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิตได้พอๆ กัน

                การเสพข้อมูลให้เชื่อหมอ อย่าเชื่อหมา คำนี้ยังใช้ได้อยู่       

                ความรู้จากคุณหมอยง ภู่วรวรรณ จะช่วยคนได้อีกมาก เพราะสิ่งที่พูดคือผลวิจัย ไม่ใช่ผลมโนของเกรียนคีย์บอร์ด

                ในชีวิตจริงการฉีดซิโนแวคเข็มแรก แอสตร้าเซนเนก้าเข็มสองใน ๔ สัปดาห์ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นได้ปริมาณที่สูงมากกว่าการให้วัคซีนซิโนแวค ๒ เข็ม ประมาณ ๘ เท่า

                สูงกว่าภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อจริงในผู้ป่วยประมาณ ๑๐ เท่า

                ฉะนั้นไม่ต้องลังเล ไม่ต้องรอวัคซีนทางเลือก ถึงคิวก็ไปฉีด ที่ยังไม่ถึงคิวก็รอ อีกไม่นานก็ได้ฉีด ส่วนที่ยังไม่ลงทะเบียน ก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อย

                สถานการณ์หลังจากนี้ คนฉีดวัคซีนเท่านั้นที่มีโอกาสรอดสูง ส่วนที่ไม่ยอมฉีดแถมด้อยค่าวัคซีนก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว

                วกกลับมาที่การเมือง หากยังไม่ละ “ความอยาก” ออกจากสงครามเชื้อโรค ผลเสียที่ย้อนกลับอาจมากกว่าที่คิด

                คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์เฟซบุ๊กตั้งประเด็นน่าสนใจ

            “….การที่พรรคไทยสร้างไทย ได้จัดรณรงค์ แคมเปญ #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ผมคิดว่าแคมเปญดังกล่าว ก็ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อรัฐบาล และอาจทำให้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญหมดกำลังใจ ก่อนที่พรรคไทยสร้างไทย จะจัดแคมเปญ ผมอยากให้ตำหนิผู้ที่มีส่วนทำให้ปัญหาโควิดเลวร้าย นั่นคือ

            ๑.กลุ่มที่รณรงค์ #กูจะเปิดมึงจะทำไม สะท้อนชัดเจนว่า คนกลุ่มนี้พยายามสร้างกระแส ท้าทายเชื้อโควิดชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุให้การควบคุมโควิดยากขึ้น

            ๒.กลุ่มบุคคลที่ออกมาด้อยค่าวัคซีน มาเลือกชนิดวัคซีน รวมทั้งท้าทายโควิด ด้วยการจะไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งดังที่เห็น มีเซเลบบางคน และกลุ่มการเมืองที่ออกมา หลายคนต้องติดโควิด แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีบางคนติดโควิด และมีส่วนให้การควบคุมโควิดยากมากขึ้น

            ๓.การชุมนุมของม็อบ ในรูปแบบต่างๆ มีความชัดเจน ที่มีการแพร่ระบาดของโควิดในม็อบ น่าจะมีส่วนสำคัญ ที่มีการแพร่เชื้อในครอบครัว

            ๔.การสร้างกระแสเฟกนิวส์ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด

            ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ควรต้องตำหนิ ที่ทำให้ปัญหาโควิดมีความยากลำบากในการควบคุม และทำให้มีการแพร่ระบาดมากขึ้น เพราะโควิดนั้นไม่เข้าใครออกใคร แต่เชื้อนี้จะกลัวคนที่ดูแลตัวเอง และฉีดวัคซีน

            ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยต้องรู้ว่า โควิดสายพันธุ์ต่างประเทศที่กลายพันธุ์ นับว่าจัดการยากแล้ว แต่โควิดสายพันธุ์การเมืองในไทยนั้น จัดการยากกว่ามาก…”

                การยุยงบอกว่า ให้ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ระวังดาบจะย้อนเข้าหาตัว “เจ๊หน่อย”

                วานนี้ศาลฎีกาพิพากษา “จตุพร” ติดคุก ๑๑ เดือน ๑๖ วัน คดีหมิ่นประมาท “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ว่า เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน

                “เจ๊หน่อย” ลองหันไปดูประเทศอื่นรอบโลกเขาตายกันเท่าไหร่

                อเมริกันตายไปแล้ว ๖.๒ แสนคน บราซิล ๕.๒ แสนคน  อินเดีย ๔ แสนคน ผู้นำประเทศเหล่านี้คือฆาตรกรใช่หรือเปล่า

                ครับ…โควิดสายพันธุ์การเมืองไทยน่ากลัวจริงๆ

                ขนาดจะสูญพันธุ์ก็ยังกลายพันธุ์ได้.

Written By
More from pp
นายกฯ ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามการฝึกซ้อมแผนบริหารจัดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล-เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ CCTV หาดบางลา
นายกฯ ลงพื้นที่ภูเก็ต ติดตามการฝึกซ้อมแผนบริหารจัดการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล-เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ CCTV หาดบางลา สั่งการเชื่อมโยงข้อมูลแบบบูรณาการทั้งจังหวัด เพิ่มศักยภาพการทำงานให้ครอบคลุม ย้ำสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
Read More
0 replies on “รัฐบาลฆาตกร???-ผักกาดหอม”