“50 ปี กฟผ.ฮาล์ฟมาราธอน” รวมพลังนักวิ่งกว่า 4,500 คน มอบ 2.6 ล้านบาท ให้ 7 โรงพยาบาล

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน ในฐานะประธานชมรมวิ่ง เพื่อสุขภาพ กฟผ. และผู้บริหารกฟผ. ตัวแทนโรงพยาบาล  พร้อมทั้งศิลปินดารารวมพลังนักวิ่งกว่า 4,500 คน เข้าร่วมงานวิ่ง “50 ปี กฟผ. ฮาล์ฟมาราธอน” ณ สำนักงานใหญ่ กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ส่งมอบรายได้กว่า 2.6 ล้านบาทให้กับ 7 โรงพยาบาล 5 จังหวัด

นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ. ขอขอบคุณคนไทยที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด 50  ปี กว่าครึ่งศตวรรษที่ กฟผ. ทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย ตลอดจนการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกิจกรรมด้านกีฬาเป็นกิจกรรมที่ กฟผ. ให้การส่งเสริมให้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในโรงไฟฟ้าและเขื่อนของ กฟผ. ในวันนี้ กฟผ. ขอขอบคุณพลังนักวิ่งกว่า 4,500 คน ในงานวิ่ง “50 ปี กฟผ. ฮาล์ฟมาราธอน”   ที่ร่วมส่งมอบรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลขนาดเล็กที่ขาดแคลน 7 โรงพยาบาลในพื้นที่ 5 จังหวัด รอบเขตเขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. ได้แก่ โรงพยาบาลท่ากระดาน จ.กาญจนบุรี โรงพยาบาลบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลสามเงา จ.ตาก โรงพยาบาลบันนังสตา จ.ยะลา โรงพยาบาลท่าปลา และโรงพยาบาลน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ และยอดจากการรับบริจาคจะมอบให้แก่ โรงพยาบาลทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

สำหรับผลการแข่งขัน ของนักวิ่งในระยะทาง 21 กิโลเมตร รางวัลชนะเลิศได้รับเงินรางวัลมูลค่า 3,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัล โดยมีผลการแข่งขัน ดังต่อไปนี้รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุไม่เกิน 29 ปี ได้แก่ นายธานน อร่ามไพศาล

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุไม่เกิน 29 ปี ได้แก่ นางสาวนุชนาท เอ่งฉ้วน

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุระหว่าง 30-39 ปี ได้แก่ นายมนัส จิกชาตรี

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุ 30-39 ปี ได้แก่ นางสาวดาเรศ สุรเจริญพงศ์

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 40-49 ปี ได้แก่ นายชัชวาลย์ ปัญจะมงคล

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุ 40-49 ปี ได้แก่ นางสาวพัสตราภรณ์ นุตาวงษ์

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 50-59 ปี ได้แก่ นายเสน่ห์ เขียวสันเทียะ

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุ 50 ปี ขึ้นไป ได้แก่ นางสาวปราณี คงขวัญเมือง

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 60 ปี ขึ้นไป ได้แก่ นายพาณุวัฒน์ แดงสุข

สำหรับระยะทาง 10 กิโลเมตร รางวัลชนะเลิศได้รับเงินรางวัลมูลค่า 2,500 บาท พร้อมถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัล โดยมีผลการแข่งขัน ดังต่อไปนี้

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุไม่เกิน 29 ปี ได้แก่ เด็กชายพงศกร วรพงศ์กิติพันธ์

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุไม่เกิน 29 ปี ได้แก่ เด็กหญิงศรัญญา บัวไพร

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 30-39 ปี ได้แก่ นายเจริญมิตร วรเดช

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุ 30-39 ปี ได้แก่ นางสาวกัลยา สารข้าว

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 40-49 ปี ได้แก่ นายณรงค์ชัย สุขทอง

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุ 40-49 ปี ได้แก่ นางสาวนพรัตน์ ชาญวิวัฒน์กิจการ

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 50-59 ปี ได้แก่ นายสุรพล กลิ่นทรัพย์

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทหญิง ช่วงอายุ 50 ปี ขึ้นไป ได้แก่ นางสาวปัทมา กิตติธาราทรัพย์

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทชาย ช่วงอายุ 60  ปี ขึ้นไป ได้แก่ นายสมศักดิ์ ทองบุญนาก

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้มของนักวิ่งที่ได้ร่วมวิ่งในงานพร้อมกับ คุณตูน บอดี้สแลม คุณก้อย รัชวิน วงษ์วิริยะ รวมถึงคอนเสิร์ต BNK48 ที่มาร่วมสร้างสีสัน มอบความสุขให้กับนักวิ่งและผู้ร่วมงานทุกคน

พร้อมปิดท้ายงานวิ่งด้วยการรับประทานข้าวกล้องไข่เจียว กฟผ. อันเป็นเมนูประจำงาน โดยวัสดุที่ใช้ภายในงานทั้งหมดเน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อาทิ ใช้กระทงใบตองและภาชนะที่ย่อยสลายได้แทนจานพลาสติก และแก้วน้ำพลาสติก รวมถึงแจกช้อนสแตนเลสสำหรับทานอาหารแทนการใช้ช้อนพลาสติก ถือได้ว่าเป็นงานวิ่งที่ส่งเสริมการรักสุขภาพและการรักษ์โลก เต็มอิ่มด้วยความสนุก อิ่มสุขกับการทำบุญไปพร้อมกัน

Written By
More from pp
“อนุชา” เดินหน้าพบปะพี่น้องประชาชนลงพื้นที่ต่อเนื่อง หลังย้ายร่วมงาน รทสช. ชูนโยบายเงินบาทแรกจากแผ่นดิน หนุนโครงการโค ช่วยเกษตรกรร่ำรวย
11 มีนาคม 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เพื่อพบปะผู้แทนชุมชนในพื้นที่ เขต 1...
Read More
0 replies on ““50 ปี กฟผ.ฮาล์ฟมาราธอน” รวมพลังนักวิ่งกว่า 4,500 คน มอบ 2.6 ล้านบาท ให้ 7 โรงพยาบาล”