สันต์ สะตอแมน
24 มิถุนาเจอกัน!
แต่..ถ้าขี้ขลาด ใจไม่ถึง มึงต้องโทรมาแจ้งกูก่อนนะ จะได้ไม่เสียเวลา ขอย้ำ..กูไปแน่นอน แล้วพบกัน!
เปล่า..ผมไม่ได้คุยกับคุณจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ “ไทยไม่ทน” ที่ประกาศอหังการ์..24 มิถุนา จะบุกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่ระบอบประยุทธ์ นั่นหรอก
หากแต่ ผมคุยกับคุณเพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา หรือ “หม่ำ จ๊กมก” น่ะ..ด้วย 24 มิถุนา ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของเขา และ (แทบ) ทุกปีที่บ้านแถวบางใหญ่จะมีงานเลี้ยงเหล้า-เลี้ยงข้าวอวยพรกัน
ซึ่งผม..บางปีเขาก็เชิญ บางปีเขาก็ไม่ชวน แต่ผมก็ด้านหน้าไปมันทุกปี เช่นปีนี้ แม้คุณหม่ำจะได้บอกแล้วว่าไม่มีสังสรรค์ เพราะเกรงใจโควิดมัน ผมก็ยังยืนกรานตามที่ได้กล่าวข้างต้น..
ไปปะหน้า แล้วรับของฝาก “ปลาส้มเมืองยโสฯ” มาสักกิโล-สองกิโลก็ยังดี!
เออ..แล้ว “ระบอบประยุทธ์” มันเป็นอย่างไรเหรอ คุณจตุพรกับพวกถึงได้ “ทนไม่ได้” ต้องขับไล่ไปให้พ้นๆ
จะเหมือนหรือคล้ายกับ “ระบอบอภิสิทธิ์” หรือเปล่า เพราะตอนนู้นคุณจตุพรกับพวกนี้แหละที่ทั้งไล่-ทั้งทุบ-ทั้งเผา แล้วนี่จะเอาแบบเดิมอีกแล้วใช่ไหม?
แม่น้ำร้อยสายน่ะ ถ้าไหลมาบรรจบกันแล้วเกิดประโยชน์มันก็ดีไป แต่ถ้าไหลมาแล้วก่อให้เกิดความเดือดร้อน-ฉิบหาย ระวังเถอะ..
จะเจอ..“ไทยสุดทน”!
และนี่ เห็นไหมผลของการ “สุดทน”..ข่าวไทยรัฐ ออนไลน์รายงานว่า..“14 มิถุนายน 2564 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ น.ส.แมท ภีรณีย์ คงไทย นางเอกละครดัง
เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปิยวรรณ ราชพลแสน กับพวกรวม 8 คน จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จำเลยให้การปฏิเสธ จำเลยไม่มาศาล มีเพียง น.ส.ปิยวรรณ มาคนเดียว
เมื่อถึงเวลานัด น.ส.ภีรนีย์ หรือแมท โจทก์ได้แถลงว่า น.ส.ปิยวรรณ จำเลยตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2564
จากนั้น แมท ได้เบิกความเป็นพยานด้วยตนเองเกี่ยวกับจำเลยคนอื่นๆ และส่งเอกสารประกอบจนเสร็จแล้วจึงแถลงต่อศาลว่า ประสงค์จะไต่สวนพยานโจทก์เพียงเท่านี้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีในส่วนของ น.ส.ปิยวรรณ นั้นมีทางตกลงกันได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคู่ความทั้งสองฝ่าย กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องไปวันที่ 29 พ.ย.2564
สำหรับจำเลยอื่นนั้น โจทก์เบิกความเป็นประจักษ์พยานยืนยันว่า เป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้แอปพลิเคชันอินสตาแกรมชื่อ gig_jp_mechi กับ บัญชีใช้ชื่อ mattperanee ตั้งค่าเป็นสาธารณะ
ปรากฏว่าจำเลยดังกล่าวได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นใต้รูปภาพในแอปพลิเคชันอินสตาแกรมของโจทก์ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถพบเห็นและอ่านข้อความดังกล่าวได้
ด้วยข้อความดูหมิ่นโจทก์ด้วยการโฆษณา และเป็นการกระทำให้ได้รับความอับอาย ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง คดีของโจทก์มีมูลให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณา”
ครับ..ก่อนจะเขียน-จะด่า-จะหยาบคาย ต้องสำเหนียก-สำนึกด้วยว่า..
ทุกคำด่า มีราคาต้องจ่าย!