ผักกาดหอม
ไม่ควรปล่อยให้จบไปง่ายๆ
ก็เรื่อง “นักโทษทิพย์” ที่ “ป่วยทิพย์” และ “เลี้ยงหลานทิพย์” นี่แหละครับ
เพราะฟังคำชี้แจงทั้งจาก “อุ๊งอิ๊ง” และ “รัฐมนตรีทวี สอดส่อง” แล้ว สามารถรับรู้ได้ว่า ยังไม่รู้สึกรู้สากับการกระทำขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรมอันดีของสังคม
ที่จริงไม่ได้ติดใจเรื่อง “นักโทษชายทักษิณ” เล่นดัมเบลในสระน้ำเลยครับ
เพราะก่อนนี้เดินสายไปเหนือ เดินตรวจงานกลางแดด ย่องไปตัดผมที่สีลม ภาพที่ออกมา คือนักโทษชายที่หายป่วยจากวิกฤตอย่างเฉียบพลัน ดูแข็งแรงกระฉับกระเฉง เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ
หายดีเกินกว่าที่จะมายกดัมเบลฟองน้ำในน้ำแล้วครับ
“นักโทษชายทักษิณ” ณ ตอนนี้ ต้องซ้อมวิ่งร้อยเมตรได้แล้ว
แต่พอ “อุ๊งอิ๊ง” โพสต์ในโซเชียลบอกว่า
“…เป็นดัมเบลฟองน้ำและท่อฟองน้ำ เพื่อใช้ในการออกกำลังกายในน้ำ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลับมา แต่ไม่ได้ว่ายน้ำเยอะเป็นเพียงการเดินในน้ำโดยใช้ดัมเบลฟองน้ำ ซึ่งไม่มีใครเอาดัมเบลเหล็กลงน้ำ ไม่ใช่นั้นคงจม…”
แบบนี้มันก็คิดไปอีกทาง
ยังจะสร้างภาพป่วยอยู่อีกหรือ
จากที่ไม่ติดใจเรื่อง ดัมเบล ก็กลายเป็นจุดสนใจ กลายเป็นประเด็นให้ต้องพูดถึงขึ้นมา
“นักโทษชายทักษิณ” เจาะหัวไหล่ ๔ รู ตั้งแต่เดือนตุลาคม
ปกติแพทย์จะให้ใส่เฝือกไว้ประมาณ ๔-๖ สัปดาห์
แต่กระดูกจะติดสนิทนั้นต้องใช้เวลาถึง ๔-๖ เดือน
นี่ก็เข้าเดือนที่ ๖ แล้ว
ทำไมต้องใส่เฝือก ก็ขอเสือกหน่อย
ในทางการแพทย์ เฝือก เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับดามกระดูก ข้อต่อ และโครงสร้างอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กล้ามเนื้อ เอ็น เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อ
ทั้งยังมีหน้าที่ช่วยรักษากระดูกที่หักด้วยการตรึงบริเวณนั้นไว้ให้กระดูกทั้งสองชิ้นมาบรรจบกัน และจัดกระดูกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดการขยับเขยื้อน จนกว่าการรักษาจะเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนี้ เฝือกยังมีส่วนช่วยลดอาการปวด บวม และป้องกันบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บจากอันตรายอื่นๆ อีกด้วย
ก็ลองเรียงลำดับเหตุการณ์ดูนะครับ
“นักโทษชายทักษิณ” เพิ่งจะถอดเฝือกอ่อน ไม่กี่วันมานี่เอง
ที่สำคัญก่อนออกจากห้องวีวีไอพีนับตั้งแต่เริ่มต้นปี ๒๕๖๗ ไม่มีข่าวว่า “นักโทษชายทักษิณ” เข้าผ่าตัดแต่อย่างใด
หากมีควรจะเป็นข่าว เพื่อยืนยันว่า เป็นผู้ป่วยวิกฤต ห่างหมอไม่ได้ เป็นตายเท่ากัน จริง
เป็นการเพิ่มน้ำหนักว่า “นักโทษชายทักษิณ” สมควรได้รับการรักษาตัวห้องวีวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ
แต่ก็ไม่มีข่าวว่าผ่าตัด!
มีเพียง “ดนุพร ปุณณกันต์” โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่า ที่ต้องใส่เฝือกอ่อนเนื่องจากเป็นโรคกระดูกคอเสื่อม
“เป็นผลจากการตรวจผ่านเครื่อง MRI ที่โรงพยาบาลตำรวจ ทางแพทย์ให้คำแนะนำว่าต้องผ่าตัด แต่ท่านทักษิณขอเลื่อนการรักษาออกไปก่อน เนื่องจากมีหลายโรคที่รุมเร้าตามวัยของคนชรา
ส่วนการสวมอุปกรณ์ดามแขน เป็นโรคเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ซึ่งทางแพทย์ได้ให้คำแนะนำว่าต้องทำกายภาพบำบัดนานนับปีจึงจะหายเป็นปกติ ย้ำว่าเป็นโรคที่เกิดจากความชรา และอาการป่วยทั้งหมดหายช้า เกิดจากตลอดระยะเวลา ๖ เดือนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์นั้นไม่ได้ออกกำลังกาย จึงทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงไปตามวัย และเร็วกว่าคนที่สามารถออกกำลังกายได้
ยืนยันว่าช่วงเวลาที่ทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจนั้นได้รับการผ่าตัดเส้นเอ็นมาแล้ว เพื่อให้เส้นเอ็นกลับมาในอาการปกติ จึงเกิดภาพที่ต้องคล้องแขนออกมา”
ย้อนกลับไปอ่านอีกทีก็ยิ่งงง
งงตั้งแต่ทำไมคนแถลงต้องเป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย
มันคือกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยอย่างนั้นหรือ
ทีมีปัญหาถูกวิจารณ์ว่า “นักโทษชายทักษิณ” ครอบงำพรรคเพื่อไทย ก็เข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งตอบโต้กลับว่าไม่เกี่ยว
อีกงงคือ ผ่าตัดตั้งแต่เดือนตุลาปีที่แล้ว ผ่านไป ๔-๕ เดือนก็ยังใส่เฝือกอยู่
ที่บอกว่าอยู่โรงพยาบาลตำรวจ ๖ เดือน ไม่ได้ออกกำลังกาย ก็แหงสิ! ชายแก่ช่วยตัวเองไม่ได้ เดินเองไม่ได้ ใส่เสื้อผ้าเองไม่ได้ กินเองยังไม่ค่อยได้ จนผ่านการประเมินให้ไปพักโทษที่บ้าน ขืนไปวิ่งบนสายพาน ใครถ่ายรูปได้มันก็จบเห่สิครับ
กลับกัน นักโทษชายคนเดิมไม่ได้ออกกำลังกาย ๖ เดือนจนกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น ได้พักโทษไม่กี่วันเดินปร๋อ
และที่สำคัญ โฆษกพรรคเพื่อไทยยืนยันเรื่องการผ่าตัดเจาะ ๔ รู จึงเกิดภาพคล้องแขน
ย้ำอีกที เจาะ ๔ รู ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว มาถึงกุมภาพันธ์ปีนี้ยังคล้องแขนอยู่
ผ้าคล้องแขน พยุงแขนและข้อศอก (Arm Sling) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บรรเทาความเจ็บปวด ที่เกิดตั้งแต่บริเวณแขนลงไปถึงปลายนิ้ว ช่วยลดความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าการบาดเจ็บจะเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ หรือกระดูกส่วนใด ช่วยพยุงหัวไหล่ และแขน ไม่ให้ขยับเยอะ ช่วยลดอาการปวดบวม ลดการอักเสบประคองแขนสำหรับคนที่เข้าเฝือก
แพทย์แนะนำให้ใส่แค่ ๒ เดือนไม่ใช่หรือ
แล้วคล้องไปเพื่ออะไรตั้ง ๔-๕ เดือน
มันคืออะไรกัน
ย้อนแย้งกันไปหมด
“อุ๊งอิ๊ง” บอกว่าจะโพสต์รูปพ่อต่อไป อะไรที่เป็นกระแสก็พร้อมที่จะตอบคำถาม ไม่เช่นนั้นชีวิตก็จะต้องเปลี่ยนไป
“…ทำอะไรต้องมาระวังนู่นนี่นั่น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจจะโพสต์เพื่อทำร้ายใคร หรือเพื่อให้เป็นกระแสอยู่แล้ว แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา งานยุ่งมาก…”
ว่าไปตามใจปรารถนาเลยครับ
ยิ่งโพสต์เยอะยิ่งดี
หากมีภาพซ้อมต่อยมวย ซ้อมวิ่ง ก็ยิ่งดีใหญ่
เพราะมันคือหลักฐานเอาผิดขบวนการโกงคุก
รู้มั้ยครับก่อนพักโทษคณะทำงานของกรมราชทัณฑ์ใช้เกณฑ์อะไรในการพักโทษให้นักโทษบ้าง
ยกมาสัก ๒ ข้อพอเป็นน้ำจิ้ม
๑.ความเสี่ยงในการกระทำผิดซ้ำ
๒.ผลกระทบต่อสังคมหรือชุมชน
จับตาดูว่า “นักโทษชายทักษิณ” จะมีส่วนในการคอร์รัปชันหลังจากนี้หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ วิจารณ์กันหึ่งว่า โกงคุก! โกงกันอย่างเป็นขบวนการ
ส่วนผลกระทบต่อสังคม ชุมชน ก็อย่างที่เขียนไปวานนี้ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ยังคิดไปไกล ระบอบทักษิณจะกลับมาเติบใหญ่อีกครั้ง จึงต้องมีก้าวไกลถ่วงดุล
ค่อยๆ บานไปเรื่อยๆ ครับ