เปลว สีเงิน
ผมนี่…ไม่ต่างคน “ติดคุกโควิด”
ชีวิตวันๆ….
มีอยู่-มีกิน ก็ด้วย “ของเยี่ยม” ที่มิตรสหายและผู้รักใคร่นับถือส่งมาให้
ก็ทั้งเกรงใจและซาบซึ้ง จะจาระไนว่าจากไหนต่อไหนบ้าง ก็ดูเป็นเรื่องเฉพาะตัวมากไป ท่านจะรำคาญ
จำได้ ตอนเป็นเณร….
พระอาจารย์ท่านสอน กินของเขาแล้วก็อย่าเอาแต่เล่น-แต่ซน ปฏิบัติตัวให้ดี
หมั่นทำวัตรสวดมนต์ บุญทานที่เขาให้ จะได้เหมือนต้นกล้าที่ปักดำในนาชุ่มน้ำ งอกงาม-งอกเงย เป็นดอก-เป็นผลทั้งตนและเขา
ผมก็เลยติดสวดมนต์ก่อนออกจากบ้านและก่อนนอนเป็นนิสัย สวดไป-สวดมา
พระพุทธรูปทั้งเล็กและใหญ่ คนโน้นให้-คนนี้ให้ มาเต็มทั้งที่สำนักงาน ล้นไปถึงหัวนอนที่บ้าน
ท่านที่ให้ข้าว ให้น้ำ ให้ความรัก ความเมตตา ให้ความปรารถนาทั้งดีและร้าย ผมอธิษฐานส่วนกุศลกรรมอันผมพึงมี ถึงทุกท่านไม่เคยว่างเว้น
พอชดใช้ค่าข้าว-ค่าขนม “ของเยี่ยม” รายวันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้เลย แต่ก็จนใจ ปฏิการคุณท่านได้เช่นนี้จริงๆ
กราบบูชาเมตตาบารมี “พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก” วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี
หนังสือ “พระอินทร์ถวาย” ๗๒ ปี ชีวิตที่ฝากฝังไว้ในพระพุทธศาสนา, ปู่สอนหลาน อาจารย์สอนศิษย์ และแนวทางครูบาอาจารย์พาดำเนิน
มีกัลยาณมิตร “ศิษย์พระอาจารย์” จัดส่งมาให้กระผมทางไปรษณีย์ ได้รับเรียบร้อยแล้วครับ
ความจริง บอกตรงนี้ พระอาจารย์ก็คงไม่ทราบ เพราะที่วัด กฎเคร่งครัด โทรทัศน์ มือถือ หนังสือพิมพ์ ห้ามมีเด็ดขาด
ตัดโลกภายนอก…..
ไม่ให้เชื่อมต่ออายตนะในกาย-นอกกาย อันเป็นตัวก่อฟุ้งสร้าน เป็นมารต่อความสงบระงับ สำหรับผู้ฝึกจิตในเบื้องต้น แต่ก็…บอกไว้เป็นรอยธรรมในทาน
พระอาจารย์ช่วงนี้ มีธุระเพิ่มขึ้น….
รับหน้าที่ หัวเรี่ยว-หัวแรง สร้าง “พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี ซึ่งใกล้สมบูรณ์แล้ว
เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่บรรจุอัฐิฐาตุหลวงตาพระมหาบัวและรวบรวมเทศนาธรรมคำสอน ตลอดถึงปฏิปทาพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระหลวงตาทั้้งหมดไว้ที่นี่
เพื่อสักการะรำลึก เป็นแหล่ง “ศึกษา-ฝึก-ปฏิบัติ” ในอีกร้อยปี-พันปี เป็นพันๆ ปี เรื่อยไป
สถานที่แห่งนี้ จะเป็น “สายธาร-ขุมทรัพย์ธรรม” สำหรับมนุษยชาติที่มีวาสนาได้พักพึ่งพิงพา ณ ครา มนุษย์คืนเถื่อนโลกาโหยหาธรรม
ทำไมต้องสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ แม้ทุนทรัพย์ที่ต้องใช้กว่า ๒ พันล้าน ไหลมาเองด้วยแรงศรัทธาก็ตาม
พระอาจารย์อินทร์ถวาย ปรารภเหตุนั้นไว้ด้วยเรื่อง “ถูปารหบุคคล” อยากให้ไปอ่านในเล่ม “ปู่สอนหลาน อาจารย์สอนศิษย์”
ครับ….
ไปเรื่องการบ้านกันบ้าง กราบขอบคุณ “คุณอุดร ตันติสุนทร” ประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ท่านส่งหนังสือ “คู่มือสมาชิกสภาท้องถิ่น” เรียบเรียงโดย “บัญญัติ พุ่มพันธ์” มาให้
เลือกตั้งท้องถิ่นไปแล้ว….
เชื่อว่าหลายท่าน เข้าไปนั่งในสภาแล้ว ยังงงในบทบาท หน้าที่ และการดำเนินงาน ในฐานะ “สมาชิกสภาท้องถิ่น”
ไปหามาดู-มาใช้นะครับ ยุคนี้ “ชาวบ้านตื่นแล้ว” เราจะเหมือนเดิมคงไม่ได้ เพื่อหน้าที่ตัวเอง เพื่อท้องถิ่น เพื่อชาวบ้าน ต้องรู้ไว้
คุณอุดรนั้น คนรุ่นนี้ คงไม่คุ้นชื่อ
แต่นักการเมืองที่ใฝ่ศึกษาปฏิปทา “ครูทางการเมือง” ต้องรู้จักดี
คุณอุดร เกิดหลังคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๑ ปี เป็นมหาบัณฑิตรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
เป็นสส.จังหวัดตาก มา ๕-๖ สมัย ไม่ผิด สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และเคยเป็นรัฐมนตรีเกษตรฯ
ท่านเป็นคนชอบริเริ่ม-พัฒนาด้านอาชีพและการทำมาหากินให้ชาวบ้าน จึงเป็นที่นัก-เคารพคนจังหวัดตากมาก
ตอนนี้ ก็ใกล้ ๙๐ ขวบ
จำไม่ได้ว่าท่านวางมือการเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่ ทราบแต่ว่า ท่านใช้ความรู้และประสบการณ์ ฟูมฟักงานด้านท่องถิ่นมาตลอด
บางครั้ง ก็เมตตาเขียนสาระประโยชน์มาให้ผมเป็นทางศึกษา ยังรำลึกถึงพระคุณท่านและหลายๆ อย่าง ที่ท่านมีต่อผม ทั้งที่ผมกับท่าน ไม่เคยรู้กันโดยตรงมาก่อนเลย!
เอาละมัง….
พูดเรื่องส่วนตัวไปมาก สังเกตว่า ส่วนใหญ่ ท่านจะไม่ค่อยชอบอ่านกัน
แต่นานๆ ที ก็ขอผมมั่งเถอะ เดี๋ยวปุบปับตายไป จะไม่ทันได้พูดอะไรถึงใครเลย!
วันนี้ หนักไปทางพระ-ทางวัด
ก็อยากนำเรื่องเกี่ยวกับ “พระผู้ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบ” มาคุยต่อเนื่องไปเลย
คงผ่านตาท่านบ้างแล้ว แต่อาจไม่ได้อ่านแบบเพ่งคิด-พินิจความกันเอง
ฉะนั้น จะนำมาให้อ่านอีกรอบ ตามโพสต์ปรากฏในโซเชียล
Wittawat Ansusingh
วันที่ 20 พฤษภาคม 2564
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมี #พระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ พันตำรวจเอก ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ กรมกิจการในพระองค์
เชิญรถไฟฟ้าพระราชทานมาถวายแด่ พระเดชพระคุณพระเทพมงคลวชิรมุนี หลวงปู่หา สุภโร (หลวงปู่ไดโนเสาร์) วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์
Cr: คุณอรอุมา เด็กวัง
#เรารักสถาบันพระมหากษัตริย์
#แผ่นดินไทยต้องมีในหลวง
…………………………
ศักดิ์สิทธิ์
พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับ“พระราชมงคลวัชราจารย์” (หลวงปู่พัฒน์ ปุญฺญกาโม) อายุ ๑๐๐ ปี พรรษา ๗๑
เจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) และเจ้าคณะตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอาพาธเนื่องจากปอดติดเชื้อ
โดยเข้ารักษา ณ.โรงพยาบาลศรีสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
……………………………….
Karan Kalaphakdi
17 พฤษภาคม 2564 เวลา 10.00 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธาโปรดเกล้าฯให้
พันตำรวจเอก ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ กรมกิจการในพระองค์
เชิญรถไฟฟ้าพระราชทานมาถวายแด่ พระเดชพระคุณพระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม)
ในการนี้ พระเทพมงคลวัชราจารย์ มอบให้ พระราชพิศาลสุธี (หลวงพ่ออาจ อาวุธปญฺโญ) เป็นผู้แทนรับถวาย ณ ศาลาฉันทาคมานุสรณ์ วัดกระดึงทอง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
…………………..
Niti Wattanaกลุ่มเด็กวัดป่าฯ มดงาน
17 พฤษภาคม เวลา 10:45 น.
#มีสติก่อนแชร์
#พระพลานามัยของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่๑๐
หลายวันมานี้ มีข่าวเฟกนิวส์ ที่ทำให้สะเทือนใจคนไทย เกี่ยวกับพระพลานามัยของ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๑๐
หลายคนแชร์ด้วยความตกใจ หลายคนแชร์ด้วยความขาดสติ หลายคนแชร์ด้วยความไม่รู้
และอีกหลายๆ เฟกนิวส์ที่ปรากฏ ล้วนทำให้เราท่านตกไปเป็นเครื่องมือโดยปริยาย
ได้มีโอกาสกราบนมัสการ “หลวงปู่สุทัศน์ โกสโล”
พระอาจารย์กรรมฐาน วัย ๘๗ ปี แห่งวัดกระโจมทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ทำให้ได้ทราบข้อเท็จจริงความว่า เมื่อวันที่ ๙-๑๐ พค.๒๕๖๔
หลวงปู่สุทัศน์ ได้รับอาราธนานิมนต์ไปสนทนาธรรมและถวายความรู้การปฏิบัติธรรมพระกรรมฐาน ให้ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๑๐
พระองค์ทรงกรรมฐานได้อย่างนิ่งสงบนานถึง ๒ ชั่วโมง และมีพระพลามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์
หาใช่เป็นอย่างที่ปรากฏในข่าวเฟกนิวส์ไม่
ผมเองเลยปรารถนานำสิ่งที่ได้ฟังจากหลวงปู่นั้นมาเล่าสู่กันฟัง อีกทั้งอยากบอกกับเพื่อนๆ ในเฟสของผมว่า
อย่าเชื่อ อย่าแชร์อะไร ที่เป็นเฟกนิวส์ เพราะความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้น เกิดกับเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอย่างมาก
มีสติก่อนแชร์นะครับ
Cr. ราช รามัญ
ปล.ไม่ได้มีเจตนาอื่น นำมาเผยแพร่เพื่อให้กัลยาณมิตรทุกท่านไม่ติดกรรมครับ
…………………….
ครับ นี่แหละ “เรื่องพระ” ที่อยากให้อ่านแบบเพ่งคิด-พินิจความกัน อย่างที่เจ้าของโพสต์ย้ำ “มีสติก่อนแชร์” นั่นแหละ
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” กับเรื่องทรงสนพระทัยด้านปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นั้น
ไม่เพียง ณ ปัจจุบันสมัย หากแต่ต่อเนื่องแต่ครั้งเฉลิมพระอิสริยยศ “สมเด็จพระยุพราชมกุฎราชกุมาร” เรื่อยมาแล้ว
ในความเป็นชาติไทย….
“พระมหากษัตริย์กับพระศาสนา” เป็นเนื้อเดียวกันสืบตลอดมา อันเราทั้งหลาย พึงสดับ ตามข่าวสารนั้น
