เมื่อวันที่ 19 พ.ค.64 เวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงประชาชนและสื่อมวลชน ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
แต่หากอาการไม่รุนแรงจะให้พักรักษาในโรงพยาบาลสนามที่กรมราชทัณฑ์ดำเนินการ โดยขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า การรักษาผู้ป่วยในเรือนจำเป็นระบบปิด ดังนั้นโอกาสที่จะมีการแพร่เชื้อออกมาสู่ชุมชนจึงมีน้อยมาก ซึ่งได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่มีความเข้มงวดในการดูแลส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาด จะไม่ให้มีการเยี่ยมของบุคคลภายนอก จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
กรณีการชี้แจงของ ศบค. ในส่วนของตัวเลขผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว ถือเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยวันนี้มีผู้ป่วยที่หายป่วยได้กลับบ้านจำนวน 4,450 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าผู้ติดเชื้อ รวมจำนวนผู้หายป่วยสะสมที่ได้กลับบ้านแล้วขณะนี้ 46,942 คน เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า แพทย์ พยาบาล ทั่วประเทศทำงานเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถกลับมามีสุขภาพแข็งแรงได้ตามปกติ ขณะที่รัฐบาลจะพยายามนำวัคซีนเข้ามาเพื่อฉีดปูพรมให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด
กรณีมาตรการดูแลแคมป์คนงานที่พักอาศัยจำนวนมากที่มีการติดเชื้อ ไม่ให้มีการขยายไปในที่ชุมชน นั้น นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกับกรุงเทพมหานครว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ให้กรุงเทพมหานครดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านคน ครอบคลุมประชากรร้อยละ 70 เพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
เพราะปัจจุบันมีการแพร่เชื้อในชุมชนที่อยู่กันอย่างแออัด โดยจะมีการคัดกรอง ตรวจเชิงรุก ฉีดวัคซีนปูพรม เพื่อป้องกันการระบาด ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และอาจารย์หมอผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อระงับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่เสี่ยง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงการฉีดวัคซีนในส่วนของกรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครมีการจัดสรรวัคซีนให้กับโรงพยาบาล สถานพยาบาล หน่วยงานต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร รวม 231 แห่ง ที่พร้อมจะฉีดวัคซีน นอกจากนี้ จะมีสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล โดยหน่วยงานร่วมกับสถานที่ของเอกชนอีก 25 แห่งที่ได้มีการเปิดทดลองระบบแล้ว ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ไปตรวจเยี่ยมการเตรียมพร้อม
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครต้องการให้มีการลงทะเบียนเพื่อจองการฉีดวัคซีนผ่านแอพพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งจะทำให้สามารถบริหารจัดการการฉีดวัคซีนได้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องของการจะวอล์คอินหรือไม่อย่างไร นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงช่องทางการลงทะเบียนทั้งหมด มี 3 ช่องทางหลัก คือไลน์หมอพร้อม หรือแอพลิเคชันหมอพร้อม ที่จะทราบถึงวันและสถานที่ที่จะฉีดชัดเจน ที่ขณะนี้มีกลุ่มผู้ที่ได้รับการจัดลำดับให้ฉีดวัคซีนในเบื้องต้น คือผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่อยู่ในกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 กลุ่ม โดยมีผู้ที่ได้ลงทะเบียนอยู่ในระบบของหมอพร้อมมากกว่า 7 ล้านคนแล้ว
ทั้งนี้ การรับวัคซีนสามารถวอล์คอินเข้าไป ถ้าวันนั้นมีวัคซีนพอ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้หลายประการ เช่น ผู้ที่ลงทะเบียนไว้แล้วไม่มาตามนัด ก็จะทำให้มีวัคซีนเหลือในวันนั้น จึงจะจัดให้คนที่เดินเข้ามาฉีด แต่ไม่การันตีว่าจะได้ฉีดในวันนั้น จึงอยากให้ประชาชนได้เข้าใจตรงนี้ เมื่อไปแล้ววัคซีนพร้อมก็จะฉีดได้ในวันนั้น แต่ถ้าวัคซีนไม่เพียงพอ จะให้ลงทะเบียนเพื่อที่จะนัดกลับมาอีกครั้งเพื่อความสะดวก
นอกจากนี้ ช่องทางที่สาม นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า ต้องการปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้กับกลุ่มที่พร้อม ซึ่งอาจมีการนัดเป็นกลุ่มคณะต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น พนักงานในส่วนบริการ บุคลากรในโรงงาน ผู้พิการ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ รวมถึงนักเรียนที่ต้องเดินไปทางศึกษาต่อต่างประเทศ บุคคลกลุ่มเหล่านี้สามารถแสดงความจำนงไปยังสาธารณสุขเพื่อนัดหมายในการเข้ารับการฉีดวัคซีนได้
ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคมจะมีวัคซีนเข้ามาทั้งสิ้น 3,500,000 โดส ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Sinovac ได้มีการเตรียมการกระจายวัคซีนไปยังจุดต่าง ๆ ที่มีการลงทะเบียน รวมถึงบุคลากรด่านหน้าให้ครบถ้วน และสำหรับกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ จะเริ่มฉีดในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหมที่สูงกว่ากระทรวงสาธารณสุข นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขสามารถตั้งงบประมาณภายในกระทรวงได้ ขณะที่หน่วยงานอื่นภายใต้กระทรวงสาธารณสุข สามารถขอรับงบประมาณจากหน่วยงานโดยตรง โดยไม่ผ่านกระทรวงสาธารณสุข ยกตัวอย่าง การตั้งงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมได้มีการปรับลดงบประมาณจากตัวเลขในปี 2563 ลงไปกว่า 18,000 ล้านบาท และในปี 2564 ได้รับจัดสรรงบประมาณลดลงกว่าปี 2563 กว่า 14,200 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีการใช้งบประมาณเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม โดยกระทรวงสาธารณสุข ว่า โรงพยาบาลบุษราคัมที่ได้ทำการจัดตั้ง ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ไม่ใช่โรงพยาบาลสนามและไม่ได้เป็นเพียงแค่หอพัก แต่เป็นโรงพยาบาลในลักษณะเต็มรูปแบบ มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
อาทิ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ที่ร่วมอาสาปฏิบัติงานด้วย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากมีการดูแลเรื่องกายถ่ายเทอากาศตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงระบบบำบัดน้ำเสียด้วยเช่นกัน
ในตอนท้าย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาตามกฎหมายโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการศึกษาเพิ่มเติมในรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบในเรื่องของค่าโดยสาร โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร