สันต์ สะตอแมน
‘ถึงเพื่อนที่เคยไปม็อบ..
ขอบคุณที่เปลี่ยนใจ ถึงเพื่อนประชาธิปไตย เปิดอ้อมแขนที่อบอุ่น ต้อนรับเพื่อนเข้ามา อย่าผลักเขากลับไป ด้วยใจที่เจ็บแค้น’
นี่..เป็นข้อความของคุณสุทธิพงษ์ วัฒนจัง หรือ “ชมพู ฟรุตตี้” อดีตนักร้องดัง ที่ได้โพสต์วันสองวันก่อน ซึ่งแรกอ่านก็งงๆ แต่พอเห็นคอมเมนต์..
‘ให้อภัยเป็นบางคนค่ะอย่างพวกเด็กๆ ที่เคยหลงผิดเข้าไป กรณีนี้ให้อภัยได้แต่ถ้าคนแก่หรือกำนัลอะไรนั่นให้อภัยไม่ได้ค่ะพี่พู’ แล้วคุณชมพูก็ตอบ.. ‘คนนั้นผมก็ไม่ให้อภัยครับ กาไว้เรียบร้อย’
ก็อ๋อ..คุณชมพูเคยร่วมม็อบกปปส. แล้วตอนนี้เกิดตาสว่างเห็นธรรม ว่าที่เคยไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ลักหลับออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง กับรับจำนำข้าวทุกเมล็ดจนชาวนาฆ่าตัวตาย..
เป็นความคิดตื้นเขิน-มืดบอด ที่แท้ไม่ได้เป็นความผิดอะไรเลย!
กำนันสุเทพเสียต่างหากที่ผิด-ที่เลว ด้วยการไปลากเอาทหารเข้ามาล้มการปกครอง จึงเลยต้อง “กา (หัว)” ดังที่ได้ตอบคนที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น
ผม..ในฐานะเป็นคนหนึ่งที่เคยไปม็อบ ไม่ได้ดีใจหรือเสียใจกับการเปลี่ยนหลังหันของคุณชมพู จะมีก็เพียงแอบภาวนาในใจ..
ขอให้การ “เปลี่ยนใจ”ของคุณชมพูเป็นการคิด-การตัดสินใจที่ถูกต้องตลอดไป เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนใจกลับไปกลับมาตอนถึงเวลา..
ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ กลับมาเถลิงอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี!
ส่วนที่คุณชมพูว่า.. “กำนันสุเทพลากเอาทหารเข้ามาล้มการปกครอง” ผมก็ไม่แน่ใจน่ะว่าจะถูกต้อง-เป็นจริงแค่ไหน เพราะในท่ามกลางสถานการณ์นั้น..
ถ้ารัฐบาลไม่ดื้อรั้น เห็นหัวประชาชนนับสิบล้านที่ออกมาชุมนุม ประกาศลาออกเสีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องแบกรับภาระให้คุณชมพูต้องคิด.. “ไม่รู้จะใช้คำไหนวะ”อยู่นี่ไง!
นี่..พูดมากไปเดี๋ยวทำลายมิตรกันเปล่าๆ เอาเป็นว่า.. “อย่าให้ความคิดมาทำลายมิตรภาพ คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ ร่วมมือกันฝ่าฟันโควิด” ตามที่ “น็อต” คุณวรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ โพสต์จะดีกว่า!
เออ..พูดถึงโควิด ก็ให้รู้สึกสงสาร-เห็นใจนายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ เสียเหลือเกิน ลองอ่านที่ท่านโพสต์สิ..
“ผมเองท้อใจ หลายครั้งที่ไม่อยากจะมาโพสต์ให้ความรู้ และมีการหยุดเป็นครั้งคราว แต่ก็มีผู้ทักท้วงมาเป็นจำนวนมากว่าถ้าหยุดก็จะเข้าทางของผู้ไม่หวังดี
ในส่วนตัวมุ่งทำการศึกษาวิจัยมาเกือบ 40 ปี เพื่อให้ความรู้กับชาวโลกไม่เฉพาะประเทศไทย เพราะเผยแพร่ในวารสารนานาชาติมาตลอด
สังคมไทยในภาวะวิกฤตแบบนี้ แทนที่จะร่วมมือกัน สามัคคี แต่กลับเป็นพยายามที่จะพูดจาถากถาง ดึงเข้าสู่การเมือง ในบางครั้งมีการกล่าวหาที่เลื่อนลอยและไม่เป็นความจริง..”
อย่านะครับ..อย่าท้อเด็ดขาด ใครจะปากมาก ปากหมาอย่างไรน่าได้สนใจ ผมเชื่อและมั่นใจ..ไม่มีนักการเมือง นักวิชาการ สื่อท่านไหนจะพาคนไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ได้ นอกจาก..
หมอ!