นายกรัฐมนตรีติดตามกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำเพิ่มต่อเนื่อง กำชับราชทัณฑ์ประสานสาธารณสุขดูแลผู้ต้องขังด้วยมาตรฐานเดียวกับผู้ป่วยภายนอก คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน เร่งตรวจเชิงรุกพื้นที่เสี่ยงจำกัดการแพร่ระบาด

วันที่ 17 .. 2564 ..ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่มีรายงานผลการตรวจคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำและทัณฑสถานในพื้นที่เสี่ยงและยังพบผู้ป่วยยืนยันในกลุ่มผู้ต้องขังเพิ่มสูงขึ้นพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง

 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ทราบถึงมาตรการต่างๆ ที่กรมราชทัณฑ์ดำเนินการทั้งในการตรวจคัดกรอง การแยกผู้ต้องขังแรกเข้า การแยกผู้ป่วยออกไปรักษาในโรงพยาบาลสนามของราชทัณฑ์ แต่ก็ได้กำชับว่าขอให้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อดำเนินการตามมาตรการควบคุมและรักษาโรค เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปในมาตรฐานเดียวกับประชาชนทั่วไปที่อยู่นอกเรือนจำ  

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำและทัณฑสถานในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ให้มากและเร็วที่สุด เพื่อประสิทธิภาพในการจำกัดวงการแพร่ระบาด รวมไปถึงความปลอดภัยของทั้งผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำด้วย โดยให้สาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆของจังหวัดพื้นที่เสี่ยงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

เนื่องจากปัจจุบันเรือนจำหลายแห่งมีผู้ต้องขังอยู่หนาแน่น มีความแออัด ด้วยพื้นที่จำกัด ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค นายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยในส่วนนี้จึงกำชับให้ทางราชทัณฑ์ประสานงานกับสาธารณสุขในเขตพื้นที่ให้เข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับประชาชนภายนอก โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขัง แม้จะเป็นผู้เคยกระทำผิดจนต้องขัง แต่เมื่อป่วยต้องได้รับการดูแล..ไตรศุลี กล่าว

Written By
More from pp
“เพื่อไทย” เตือน อย่าด่วนสรุปความสำเร็จในการแก้ปัญหาลอตเตอรี่ เหมือนลิงแก้แห แก้ด้านหนึ่งเพิ่มปัญหาอีกด้านหนึ่ง
“เพื่อไทย” เตือน อย่าด่วนสรุปความสำเร็จในการแก้ปัญหาลอตเตอรี่ เหมือนลิงแก้แห แก้ด้านหนึ่งเพิ่มปัญหาอีกด้านหนึ่ง แนะ มองให้ครบทุกด้าน จะได้ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
Read More
0 replies on “นายกรัฐมนตรีติดตามกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำเพิ่มต่อเนื่อง กำชับราชทัณฑ์ประสานสาธารณสุขดูแลผู้ต้องขังด้วยมาตรฐานเดียวกับผู้ป่วยภายนอก คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน เร่งตรวจเชิงรุกพื้นที่เสี่ยงจำกัดการแพร่ระบาด”