นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า การเรียกร้อง เป็นการใช้สิทธิตามกระบวนการศาล ที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว แต่การใช้ความรุนแรงเข้ามา กดดันเพื่อให้ได้ผลตามที่ตัวเองต้องการ ตรงนี้ไม่ถูกต้อง ศาลจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย หากจะให้ประกันตัว หรือไม่ให้ จะพิจารณาจากอะไรบ้าง ในขณะเดียวกันกระบวนการตรวจสอบดุลยพินิจก็มี ไม่เห็นด้วยก็สามารถยื่นอุทธรณ์ อย่างกรณีที่เกิดขึ้น ก็มีการยื่นใหม่แล้ว ศาลอาญานัดไต่สวนไว้ ในวันที่ 6 พ.ค.นี้
“ความเป็นอิสระของตุลาการมันเป็นหลักการสากลในการทำงาน ที่ทั่วโลให้หลักประกันไว้ มันคือการประกันในเรื่องสิทธิ เสรีภาพของประชาชนชน ถ้าปล่อยให้มีการข่มขู่ คุกคาม จนกระทั่งการทำงานของศาล ไม่สามารถทำได้อิสระ จะไม่ได้กระทบเฉพาะคู่ความในบางคดี มันจะกระทบทั้งหลักการทั้งหมด” โฆษกศาลยุติธรรม ระบบ
ทั้งนี้ การใช้ดุลยพินิจแต่ละคดีจะปรากฎตามหลักฐาน ข้อเท็จจริงในสำนวน ซึ่งตรงนี้ต่างหาก ที่อาจจะทำให้สังคมรับรู้ไม่เท่ากับที่ผู้พิพากษาทราบ เพราะสำนวนมีรายละเอียดมาก การสื่อสารก็อาจไม่ครบถ้วนกับเนื้อหาที่มีทั้งหมด อีกทั้งศาลไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร