นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ และมีแนวโน้มว่าจะมีการแพร่ระบาดลุกลามมากขึ้น
โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครได้ประกาศสั่งปิดสถานที่ และสถานประกอบกิจการเป็นการชั่วคราว จำนวน 35 ประเภท ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. – วันที่ 9 พ.ค. 64 เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการประกอบกิจการ และลูกจ้าง ผู้ประกันตน ไม่ได้รับค่าจ้าง
ซึ่งในการนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพร้อมสั่งการให้ สำนักงานประกันสังคมเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกันตนพร้อมให้บริการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยแก่ผู้ประกันตน ตามประกาศ “กฎกระทรวงการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยอันเกิดจากการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมาย ว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ. 2563” ให้ได้รับสิทธิเต็มที่
นายทศพลฯ กล่าวถึง คุณสมบัติผู้ประกันตนมาตรา 33 ในการขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจาก เหตุสุดวิสัย ต้องส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนใน 15 เดือน จึงจะเกิดสิทธิรับเงินกรณีว่างงาน แต่ไม่ได้ทำงานหรือนายจ้าง ให้หยุดงานเนื่องจากต้องกักตัวหรือเฝ้าระวังการระบาดของโรค หรือไม่ได้ทำงานเนื่องจากนายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
เนื่องจากทางราชการมีคำสั่งให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ และลูกจ้างไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น ให้ลูกจ้างดังกล่าวมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับ ตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัวหรือเฝ้าระวังการระบาดของโรคหรือมีคำสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว แล้วแต่กรณีแต่รวมกัน ไม่เกิน 90 วัน
ช่องทางการขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุโควิด-19 ในครั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม กำหนดให้นายจ้าง และลูกจ้าง ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบดำเนินการขอรับประโยชน์ทดแทน ตามช่องทาง ดังนี้
1. ผู้ประกันตนมีหน้าที่ กรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01/7 สามารถ download แบบได้ที่ www.sso.go.th) แล้วนำส่งให้นายจ้าง ขอเน้นย้ำเรื่องเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และเลขบัญชีธนาคาร ที่ถูกต้อง
2. นายจ้างมีหน้าที่ ดำเนินการยื่นขอรับสิทธิว่างงานในระบบ e-Service ดังนี้
2.1 บันทึกข้อมูลในระบบ e-Service บน www.sso.go.th โดยต้องบันทึกข้อมูลลูกจ้าง ตามแบบ สปส. 2-01/7 และหนังสือรับรองการหยุดงานกรณีราชการสั่งปิด/กรณีกักตัว
2.2 รวบรวมแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01/7) ของลูกจ้าง ที่ได้บันทึกแล้วในระบบ e-Service บน www.sso.go.th นำส่งมายังสำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ทางไปรษณีย์ ลงทะเบียน ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-Service
นายทศพลฯ กล่าวย้ำว่าในการขอรับสิทธิประโยชน์ว่างงานจากเหตุโควิด-19 นายจ้าง และลูกจ้าง ผู้ประกันตนต้องดำเนินการตาม ข้อ 1 และ ข้อ 2 และขอย้ำว่าลูกจ้างผู้ประกันตนไม่ต้องเดินทางมายังสำนักงานประกันสังคม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก หรือผ่านโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคมเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
รวมทั้งรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลกระทบภาวะวิกฤต โควิด-19 ทุกด้าน เพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาล เพื่อเร่งเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนนายจ้าง และผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ให้มากที่สุด