ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
#ไม่ซิงละนะ
แฮชแท็กนี้ คงไม่ได้หมายจะบอกกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือเพศใดเพศหนึ่ง แต่น่าจะหมายถึงทุกคนทุกเพศที่ได้ดู-ได้เห็นทั้งจากไอจีส่วนตัวและจากสื่อที่นำมาเผยแพร่ต่อ
และผมก็เป็นคนหนึ่งที่พลอยได้รู้-ได้เห็น (ภาพ) ไปกับเขาด้วยเหมือนกันว่า.. “ปุ้มปุ้ย” หรือ “พรรณทิพา อรุณวัฒนชัย” ลูกครึ่งไทย-จีน เมียของ “กวินท์ ดูวาล” อดีตวง 3.2.1. ที่เพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อ 4-5 วันก่อน…
เธอ..ไม่บริสุทธิ์ซะแล้ว!
ก็..น่าปลื้มใจ-ภูมิใจสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ที่เลี้ยงลูกสาวให้รักษาพรหมจรรย์มาได้จวบอายุ 30 ปี และเพิ่งมา “เสียสาว” เอาในคืนส่งเจ้าสาวเข้าหอ!
อ้อ..เธอเป็นใคร มีอาชีพการงานอะไรน่ะเหรอ? เท่าที่ผมพยายามค้นหาจากข่าวเก่าๆ ก็พบว่า..เธอไม่เชิงเป็นเจ้าสาวนอกวงการบันเทิงซะทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้เธอรับงานถ่ายแบบ เดินแบบ งานแสดงอยู่บ้าง
แต่ที่โดดเด่นจนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็คือการถ่ายแบบเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ในออนไลน์ จนเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่แห่งวงการถ่ายแบบร้านในไอจีกันเลย..ว่างั้น!
คราวนี้คงได้รู้กันแล้วสิ..สาววงการบันเทิงไม่ได้ “ใจง่าย” หรือประเภท “เงินมาผ้าหลุด” ตามที่ซุบซิบ-นินทา หรือจินตนาการกันไปเสียทุกอนงค์นางหรอกนะ?
นี่..พูดแล้วก็ให้เห็นใบหน้า ดารา-นักแสดงสาวๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงง-แต่งงาน ลอยคว้างว่อนไปหมด ไม่รู้ว่าแต่ละคนจะยังรักษา “พรหมจรรย์” ได้เหนียวหนึบเหมือนเมียของกวินท์อยู่หรือเปล่า?
ถ้ารักษาไว้ได้ก็ต้องยกนิ้ว.. “สุดยอดกุลสตรีไทย” เลยล่ะ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่เห็นเป็นอยู่ของผู้คนในแวดวงบันเทิง..
ยากที่จะสงวนเนื้อ-สงวนตัวให้ “พรหมจรรย์” อยู่รอดปลอดภัยจนถึงวันส่งตัวเข้าหอได้!
ดูสิ..เดี๋ยวคนนั้นเลิกคนนี้ เดี๋ยวคนนี้ไปคบคนนู้น คนโน้นไปควงคนนั้น ซึ่งวันๆนักข่าวบันเทิงตามทำข่าวรัก-ข่าวฉาวกันแทบจะไม่ทัน..
แล้วจะมีสักกี่คู่กี่ราย ที่คบเป็นแค่ “เพื่อนสนิท” ที่รู้ใจโดยไม่ได้ล่วงเกิน “เส้นสองสลึง” ก็ให้สงสัย ใคร่รู้จริงๆ!
อย่าง “ปุ้มปุ้ย” ที่ติดแฮชแท็ก #ไม่ซิงละนะ ถือเป็นคนใจกว้าง-เปิดเผย แต่แค่นี้พอ ต่อไปจะมีอะไรกันตามประสาผัว-เมีย อย่าได้นำมาบอกเล่าเก้าสิบผ่านไอจีส่วนตัวเลย..
เก็บเป็นความลับก็ไม่มีใครบ่น-ใครตำหนิหรอก..ขอร้องล่ะ!
เออ..ไหนๆ คุยเรื่องพรรค์อย่างนี้แล้ว ก็มีเรื่องอยากรู้..ทำไมดาราคู่ผัวตัวเมียถึงนิยมควงคู่กันไปออกรายการทีวี.ประเภทถามลึก-เจาะใจ นั่งเล่าอดีต (ด้านลบ) ตัวเองให้พิธีกรซักไซร้ละเอียดซะขนาดนั้น
ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะน่าภาคภูมิใจอะไร-ตรงไหน กลับกันบางเรื่องฟังแล้วให้รู้สึกอดสู-สังเวชเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะศิลปินตลก ไม่ว่าเป็นเพราะ “อยากเปิด” หรือถูก “ขอร้อง” ให้เปิดอดีตที่เน่า..
จงรู้..เป็นการประจานตัวเองโดยแท้!