9 มีนาคม 2564 นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าในการลงมติญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17-19 มีนาคม 2564 ถือว่าการลงมติในครั้งนี้ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจมาก
เพราะประชาชนอยากทราบว่าที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ชอบอ้างว่าพร้อมทำทุกอย่างเพื่อประชาชนจริงๆแล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงการพูดเพื่อเอาตัวรอดจากการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ แล้วการที่สมาชิกวุฒิสภา หรือส.ว.ประกาศคว่ำญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ประชาชนมองว่า หากไม่ได้รับสัญญาณจากผู้มีอำนาจไม่มีทางที่จะออกมาประกาศชัดเจนเช่นนี้ เพราะผู้มีอำนาจในคสช.ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการคัดสรรผู้ที่จะมาเป็นส.ว. ประกาศชัดเจนว่า ถ้าคนที่จะมาเป็นส.ว.หากสั่งไม่ได้ก็ไม่ให้เป็น ดังนั้น การประกาศคว่ำรัฐธรรมนูญจึงเป็นการสั่งมาจากผู้มีอำนาจอย่างแน่นอน
นายภาควัต กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะคิดถึงตัวเองก่อนประชาชน เกรงว่าหากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วตัวเองจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องยาวนานตามที่วางแผนไว้ โดยไม่สนใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้สร้างปัญหาให้ประเทศและประชาชนมากแค่ไหน เพียงแค่ต้องการรักษาอำนาจตัวเองไว้ ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่มีทางทำได้เพราะพลเอกประยุทธ์ ไม่ยอมเสียอำนาจอย่างแน่นอน
“ในเมื่อการอยู่ในตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ ประเทศชาติและประชาชนต้องสูญเสียอะไรบ้าง การประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนาน 1 ปีเต็ม ไม่ได้มีไว้เพื่อดูแลประชาชน แต่มีไว้เพื่อให้พลเอกประยุทธ์ ใช้อำนาจ โดยไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายมากกว่า 6 ปีของพลเอกประยุทธ์ ปัญหาประเทศเพิ่มขึ้น ประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจพังทั้งระบบ ในขณะที่ประชาชนลำบากแต่พลเอกประยุทธ์ ยังคงเสวยสุขในอำนาจ แต่ทำงานไม่เป็น ไร้ประสิทธิภาพ พลเอกประยุทธ์ ควรลาออกไปจะดีกว่าลากประเทศลงเหวจนถึงจุดต่ำสุด” นายภาควัต กล่าว