เปลว สีเงิน
พลัม-จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ Chutathut Laothamatas
ตอนนี้ เรือนจำไม่อนุญาตให้เยี่ยม เพราะลุงกำนันและพี่ๆ ถูกกักตัวตามมาตรการป้องกัน covid นะคะ ให้พบได้เฉพาะทนาย
พลัมได้สอบถามกับทนายและทราบว่า ทุกคนมีสติและจิตใจหนักแน่นมั่นคงค่ะ
พลัม ขิง น้องเข็ม พี่อีฟ พี่แนน พี่ปุ้ย และเพื่อนๆ รอลุ้นให้ได้ประกันตัวอยู่ใกล้ ๆ ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ
#กปปส
#มวลมหาประชาชน
ผมอ่านพบในโซเชียล มีเดีย ตอน ๑๘.๔๐ น. ของเมื่อวานนั่นหมายความว่า ๘ แกนนำกปปส.
-นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
-นายชุมพล จุลใส
-นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
-นายอิสสระ สมชัย
-นายถาวร เสนเนียม
-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
-นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ และ
-เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์
ค่ำแล้ว ของอีกวัน….
ยังคงถูกขังอยู่ในคุกลาดยาว เข้าสู่คืนที่ ๒!
ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมาจากศาลอุทธรณ์ ว่าจะอนุญาตให้ประกันหรือไม่ หลังยื่นขอประกันตัวไป ตั้งแต่ตอนเช้า (๒๕ กพ.๖๔)
ในขณะมิตรสหายร่วมอุดมการณ์ “ลุ้นประกัน” อยู่หน้าคุก
อีกทางหนึ่ง …..
หน้าบ้านป่ารอยต่อแถวๆ ค่ายทหาร คึกคัก-คราคร่ำด้วยนักการเมืองพลังประชารัฐ ผลุบเข้า-ผลุบออก
ไม่ได้มาเยี่ยมหรือมาประกันใคร
แต่มา “แย่งเก้าอี้” รัฐมนตรีที่ว่าง ๒ ตำแหน่งของพรรค เพราะเจ้าของ “พลีอิสรภาพ” ไปแลกกับการทำหน้าที่ปกป้องชาติ-บ้านเมืองจากโจร ณ ครั้งนั้น
และวันนี้ อดีตรัฐมนตรีณัฎฐพล และอดีตรัฐมนตรีพุทธิพงษ์ ต้องพลัดพรายไปรับทัณฑ์ “รางวัลคนกู้ชาติ” อยู่ในคุก!
ที่ผมยกโพสต์ของ “คุณพลัม-จุฑาฑัตต” มานั้น
ทางหนึ่ง ก็เพื่ออาศัยบอกในทางข่าวคืบหน้าว่า ๘ แกนนำกปปส. “ยังไม่ได้ประกัน”
แต่อีกทาง คุณพลัม-จุฑาฑัตต ทำให้ผมพลันสะดุ้ง เลิกพว้า-พะวัง ถึงลุงกำนัน ไปทันทีเลย
เพราะคุณพลัม เป็นสส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย
ทำให้นึกถึงอีกทาง ว่า…..
ที่อยู่ในคุกตอนนี้ เป็นแค่ “กาย” ลุงกำนันสุเทพ
ส่วน “ใจ” นั้น ลุงกำนัน ถอดฝากไว้กับ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” ซึ่งสัมผัสได้แต่แรกเริ่มแล้ว
สส.จุฑาฑัตต ทำให้ผมได้ประหวัดถึงพรรค
จริงๆ ด้วย ดูเหมือนทุกคน กระทั่งชนชาว กปปส.เอง พุ่งความรู้สึกและการรับรู้ไปเฉพาะที่ตัวลุงกำนัน ลืมไปด้วยซ้ำว่า
รวมพลังประชาชาติไทย คือลุงกำนัน และลุงกำนันคือรวมพลังประชาชาติไทย
ที่ติดคุก ติดแค่ตัวลุงกำนัน
ส่วนหัวใจลุงกำนัน “อยู่ข้างนอก” คืออยู่ที่พรรคฯ
“พรรครวมพลังประชาชาติไทย” หัวใจลุงกำนัน” มี ๕ สส. อยู่ในสภา
และ ๑ รัฐมนตรี ในรัฐบาล คือ “ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาศาตร์ฯ
ก็นั่นซีนะ….
แต่บทบาทและชื่อพรรคเหมือน “จมหาย” ไปเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เพราะอะไร?
ความจริง สส.แต่ละคนเป็นรุ่นใหม่ มีทัศนคติ ความคิดและการศึกษาสูง เท่าที่สังเกตบทบาทมุ่งมั่น เพื่อชาติ พระศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์
ก็มี สส.สุพล จุลใส, สส.เพชรชมพู กิจบูรณะ, สส.เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์, สส.อนุสรี ทับสุวรรณ และสส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ ที่เลื่อนมาแทน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล
และคณะผู้บริหารพรรค…….
ล้วนแล้วแต่ผู้ใหญ่ถึงพร้อมด้วยวัยวุฒิ-คุณวุฒิ แต่ละท่าน “สะอาด-โปร่งใส” ชีวิตประวัติ เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
แต่อย่างที่ว่า….
จะด้วยเป็นสส.ทรงศีลธรรมจรรยา ไม่หิวแสง ไม่ดรามาสร้างราคาตัวเอง จึงไม่สะดุดตา-บาดใจ เพื่อจำ
หรือคนหมดสนใจ เพราะ….
ในพรรค-ในสภา “ไม่มีลุงกำนัน” เป็นพลังนำแสง?
นี่เป็นประเด็นที่คนพรรครวมพลังประชาชาติไทย ต้องคิดและแก้ ยิ่งลุงกำนันยอมผิดกฎหมาย เพื่อให้ชาติบ้านเมืองธำรงอยู่
คนรวมพลังประชาชาติไทย โดยเฉพาะ สส.ยิ่งจำเป็น “ปลุกพลัง” ตัวเอง เติมเป็นไฟให้นามพรรคที่หัวใจลุงกำนันฝากไว้ โชนฉาน
นอกจากโทษคุก ดูเหมือนศาลตัดสิทธิการเมืองลุงกำนันด้วย ๕ ปี
พูดกันตามนัยนี้ ดีซะอีก เป็นคุณกับพรรคและกับแฟนๆ ที่ต้องการให้ลุงกำนันคืนสนามการเมือง
คือลุงกำนันบอก “เลิกเลย” ตลอดชีวิต
แต่ศาลสั่ง “ให้เลิกแค่ ๕ ปี”!
นั่นหมายความว่า นับจากนี้ เลยวันที่ ๒๔ กุมภา.๖๙ ไปแล้ว ศาลคืนสิทธิการเมืองให้ลุงกำนัน
ตอนนั้น ลุงกำนัน “ก็เป็นคนใหม่” การจะเอาหัวใจคืนร่าง ก็สมเหตุและเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น
เมื่อวาน (๒๕ กพ.) ผมดูข่าวโทรทัศน์ เห็นนักข่าวตะโกนถามพลเอกประวิตรเรื่อง ๒ ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่าง โดยใช้คำถามว่า
“โควตา ๒ รัฐมนตรี กปปส.จะเอาใครมาแทน” ประมาณนั้น
ผมไม่เคยเห็นพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงอาการตอบสนองคำถามด้วยความรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ ที่นักข่าวใช้คำว่า “โควตา กปปส.” เหมือนครั้งนี้
ประเด็นที่ยกมานี้ ไม่ได้อยู่ที่ ลึกๆ แล้ว พลเอกประวิตรกับลุงกำนัน มีทัศนคติต่อกันอย่างไร?
แต่อยากให้สังเกตว่า แม้กระทั่งนักข่าว อยู่กับข่าวทุกวัน ยังจำชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่ได้ จะพูดที่เกี่ยวเนื่องลุงกำนันซักที
จะต้องใช้คำว่า “กปปส.” แทน!
เป็นไปได้มั้ย ที่ชื่อ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” ไม่ถูกบันทึกอยู่ในโหมดความจำของผู้คน
เพราะชื่อ ทั้งยาว ทั้งเรียกยาก-จำยาก
เมื่อเอ่ยถึงพรรคนี้หรือคนพรรคนี้ ส่วนใหญ่จึงเลี่ยงจำไปใช้คำว่า “กปปส.” แทน
“กปปส.”เรียกง่าย จำง่าย
ทั้งติดหู-ฝังใจผู้คน ฟังปุ๊บ สิ่งบันทึกจำในหัว เกี่ยวกับมวลมหาประชาชนที่ลุงกำนันเป็นแกนนำ จะเป็นสตอรี่ ไหลเป็นจินตภาพทันที
เปลี่ยนชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็น “พรรคกปปส.” ซะเลยดีมั้ย?
เรียกง่าย-จำง่าย ไม่ต้องอธิบายความอะไร ทุกอย่างอยู่ในบันทึกจำผู้คนร่วมสมัยอยู่แล้ว
นี่ผมก็คุยนอกเรื่องไปเรื่อย ไม่ใช่อะไร คุยไปเงี่ยหูไป รอว่า คำสั่งให้ประกันมาหรือยัง แต่จวน ๔ ทุ่มยังไม่มีข่าวคราว ก็หมายความว่า วันนี้ ๒๖ กุมภา. “วันมาฆบูชา”
วันพระพุทธองค์ทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระภิกษุที่ทรงบวชให้ด้วยพระองค์เอง ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกัน โดยไม่มีการนัดหมาย
๘ แกนนำ กปปส.มีโอกาสน้อมจิตเป็นพุทธบูชา, ธรรมบูชา, สังฆบูชา ในสถานที่อันบุคคลภายนอกเข้าถึงได้ยาก นับเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง
ผมนึกถึง “พุทธอิสระ” ด้วยเข้าใจพิเศษส่วนตัว ทั้งที่ไม่เคยพบท่านมาก่อน
ก็ตั้งใจว่า เมื่อท่านได้รับประกันตัวออกมา จะขอโอกาสได้พบท่านสักครั้ง
เอาละครับ…….
วันนี้ จันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ เป็นวันดี-วันมงคลชีวิต บ้านเมืองเกิดเพราะมีคนยอมสละชีวิต
สิ่งต้องคิด คือ ……..
ที่อยู่กันทุกวันนี้ อยู่ตอบแทนคุณหรือเนรคุณ?