บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 มีกำไรเพิ่มขึ้น 24.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น และ Warrant บริษัทฯ ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงผลประกอบการของบริษัทฯ โดยรวม โดยมีรายได้ในไตรมาสที่ 4 ทั้งสิ้น 1,377 ลบ. ลดลงจากปีที่แล้วที่อยู่ในระดับ 1,864 ลบ. หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1 ในขณะที่กำไรรวมอยู่ที่ 107 ลบ. เปรียบเทียบกับ 86 ลบ. ของช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 21 ลบ. คิดเป็นร้อยละ 24.5 ซึ่งเมื่อวิเคราะห์แล้วกำไรต่อรายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.6 เป็น 7.8
นายกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน กล่าวว่า “บริษัทฯ สามารถปรับตัวในการบริหารธุรกิจ และเพิ่มกำไรของไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ในปี 2563 ได้มากกว่าปีก่อน จากกลยุทธ์ทางการตลาด เช่น การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เค้กนุ่มเนยสด ขนมขาไก่เนยสด
การปรับลดต้นทุนทั้งด้านค่าเช่าสถานที่ และการบริหารจัดการ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายแบบ Delivery เป็นต้น ทั้งนี้ผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ตลอดทั้งปี ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มลดลงจาก 7,312 ลบ. เป็น 5,199 ลบ. และกำไรลดลงจาก 314 ลบ. มาอยู่ที่ระดับ 183 ลบ.
ซึ่งการลดลงของกำไรมาจากผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 1 และ 2 นอกจากนี้คณะกรรมการยังเสนอต่อผู้ถือหุ้นให้มีการจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น รวมทั้ง Warrant ในอัตราส่วน 20 หุ้นต่อ 1 Warrant ซึ่งมีอายุ 2 ปี ในราคาใช้สิทธิ์ที่ 1 บาท โดยวันกำหนดสิทธิ์คือวันที่ 11 มีนาคม 2564”
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดศูนย์กระจายสินค้าขนาด 10,000 ตรม. ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานด้าน Supply chain ให้ดียิ่งขึ้น และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้า
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เริ่มปรับปรุงรูปแบบร้านให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยขึ้น พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนจุดขายบางแห่งและขยายจุดขายในรูปแบบ Delco (delivery and carry out) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ ในปีนี้