22 ก.พ.64- นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2564 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายต่อที่ประชุมในเรื่องการทำงานเพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ว่า จะต้องหาเป้าหมายของประชาชนที่จะช่วยเหลือ โดยให้จัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย เป็น 3 ระดับ คือ
1. ระดับที่มีความพร้อมอยู่แล้ว 2. ระดับที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งในเรื่องของงบประมาณ แผนงาน และโครงการ 3. ระดับที่ยังไม่มีความพร้อมในเรื่องใดเลย
ซึ่งต้องหาแนวทางทำให้ทั้ง 3 ระดับนี้สามารถอยู่ได้ อยู่ได้ดีขึ้น และยั่งยืน รวมทั้งหาแนวทางจัดสรรงบประมาณลงไปในพื้นที่ให้ถึงผู้รับประโยชน์ ซึ่งหน่วยปฏิบัติระดับจังหวัดและท้องถิ่นต้องลงพื้นที่สำรวจเก็บข้อมูลของประชาชนทุกระดับเป็น Big Data อย่างถูกต้อง โดยขอให้หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ กอ.รมน. ได้ร่วมทำงานประสานกับหน่วยงานในพื้นที่
ทั้งนี้ ปัจจุบัน รัฐบาลได้ดูแลประชาชนที่ต้องการรับความช่วยเหลือด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมไปกับหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ที่โดยภาพรวมแล้วขณะนี้ประชาชนภาคการเกษตรได้ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ปรับเปลี่ยนการบริหารต่าง ๆ รวมทั้งมีการทำวิสาหกิจชุมชนที่ดีขึ้น ซึ่งมีผู้ที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมากพอสมควรและสามารถเป็นตัวอย่างให้กับผู้อื่นได้
ดังนั้น ต้องหาทางนำคนที่ประสบความสำเร็จเข้ามาให้ความร่วมมือกับภาครัฐด้วย นอกจากนี้ ในการพัฒนาคนทุกช่วงวัยนั้น นอกจากการมองจัดแบ่งคนเป็นกลุ่ม ๆแล้ว จะต้องนำเรื่อง “วัย” มาเป็นตัวกำหนดด้วย เช่น เรื่องการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยม เพราะเป็นความสำคัญตั้งต้นในเรื่องการผลิตคน โดยให้พิจารณาว่าจะดูแลแต่ละช่วงวัยอย่างไร ให้แต่ละคนได้หาพรสวรรค์ของตัวเองให้เจอ เพราะจะเป็นประโยชน์ในการเลือกศึกษาต่อในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกกิจกรรมที่จะขับเคลื่อนตามแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ หรือ Big Rock ภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) จะต้องมีความชัดเจนว่าแผนงาน/โครงการจะเกิดประโยชน์อย่างไร จะต้องชี้แจงได้ ทั้งนี้ ในการทำงานทุกเรื่อง ทั้งการทำงานตามฟังก์ชั่น หรือการทำงานปฏิรูป จะต้องคิดใหม่ทำใหม่ นำเป้าหมายเป็นตัวกำหนด ให้หาวิธีการดูแลคนทุกช่วงวัยแล้วยกระดับให้ดีขึ้น
โดยเฉพาะด้านการเกษตรที่มีการใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในแต่ละปี จะต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นปัญหากับงบประมาณของประเทศ ดังนั้น จึงขอให้หาเป้าหมายให้เจอในแต่ละระดับ แล้วนำกิจกรรม Big Rock ลงไปขับเคลื่อน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ระวังเรื่องการใช้งบประมาณ ขอให้เป็นโครงการที่อยู่ในกรอบแผนการปฏิรูปประเทศ และต้องประสานเรื่องการใช้งบประมาณให้ได้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ด้วยหลักการของรัฐบาลที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ไปแล้วนั้น แผนยุทธศาสตร์ชาติ ต้องสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ และสอดคล้องกับแผนบริหารราชการแผ่นดิน เพราะทั้งสามแผนจะขับเคลื่อนประเทศให้ไปข้างหน้าสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2563 และรายงานสรุปผลการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศประจำปี 2563 โดยที่ประชุมมอบหมายให้ สศช. เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีมติรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) และเห็นชอบในหลักการของแผนขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock) ภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ทั้ง 62 กิจกรรม