อาการปวดหน่วงๆ บริเวณขาหนีบเป็นเรื่องกังวลใจที่มักเกิดขึ้นกับผู้ชาย ซึ่งอาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคไส้เลื่อนที่มักพบในผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายมีกิจกรรมที่ต้องใช้พละกำลังอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อบริเวณขาหนีบได้
นพ.จุลศักดิ์ บุญไทย ศัลยแพทย์ ศูนย์ศัลกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ไส้เลื่อน สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย เป็นอาการที่ลำไส้เคลื่อนตัวออกมาจากตำแหน่งเดิมหรือยื่นออกมาจากช่องท้องผ่านทางกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งเกิดจากความอ่อนแอของผนังช่องท้องหรืออาจเกิดขึ้นภายหลังจากผ่าตัด หรือสาเหตุอื่นๆ เช่น ภาวะท้องผูก การไอหรือจาม การยกของหนัก เป็นต้น โดยผู้ป่วยจะรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อลักษณะคล้ายก้อนตุงบริเวณหัวหน่าวอย่างเห็นได้ชัดจากการเดิน ยืน และจะมีอาการเจ็บโดยเฉพาะเวลาที่ก้มตัวหรือยกของหนัก โดยภาวะไส้เลื่อนสามารถแบ่งออกได้หลายชนิดตามตำแหน่งและสาเหตุของการเกิดโรคที่พบได้บ่อย คือ
- ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ เป็นไส้เลื่อนที่พบมากที่สุด ซึ่งไส้เลื่อนชนิดนี้มี 2 ลักษณะ ได้แก่ ไส้เลื่อนที่เกิดจากผนังหน้าท้องส่วนล่างหย่อนยาน ทำให้มีลำไส้ยื่นออกมาบริเวณหัวหน่าว และ ไส้เลื่อนที่เคลื่อนออกมาตามรูเปิดบริเวณขาหนีบ ทำให้ลำไส้หรือแผ่นไขมันเคลื่อนออกมาได้ และอาจเคลื่อนต่อเนื่องไปยังถุงอัณฑะ
- ไส้เลื่อนบริเวณสะดือ ลำไส้เคลื่อนตัวออกมาตุงที่บริเวณกลางหน้าท้อง ทำให้เห็นลักษณะเป็นก้อนนูนบริเวณสะดือหรือที่เรียกว่า สะดือจุ่น มักพบในเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด
- ไส้เลื่อนจากแผลผ่าตัด เป็นไส้เลื่อนที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดช่องท้องมาก่อน เนื่องจากการผ่าตัดทำให้กล้ามเนื้อช่วงท้องอ่อนแอหรือหย่อนยานส่งผลให้ลำไส้หรืออวัยวะอื่นดันตัวออกมา
- ไส้เลื่อนบริเวณต่ำกว่าขาหนีบ เกิดจากผนังของ ช่อง femoral canal อ่อนแอแต่กำเนิด มักพบในตำแหน่งต้นขาด้านในและพบเฉพาะในผู้หญิง
ปัจจุบันวิธีหลักในการรักษาไส้เลื่อนคือ การผ่าตัด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนนูนและความรุนแรงของอาการผู้ป่วย หากก้อนมีขนาดเล็กหรือมีอาการไม่รุนแรงแพทย์จะแนะนำให้เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน หรือใช้ยาเพื่อประคับประคองอาการ แต่ในกรณีที่ไส้เลื่อนมีขนาดใหญ่หรือมีอาการมากขึ้น แพทย์จะแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจตามมา โดยการผ่าตัดสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง และ การผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีแผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว นอกจากไส้เลื่อนสามารถป้องกันได้โดยการควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหารที่มีกากใย และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมทั้งการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก
ปัจจุบัน ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว มีทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ ให้บริการทั้งศัลยกรรมทั่วไปและศัลกรรมเฉพาะทาง พร้อมด้วยการผ่าตัดที่ทันสมัยและการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง เทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง ลดอาการเจ็บแผล และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น