- ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ด้านความยั่งยืนระดับโลกเป็นปีที่เจ็ด
- สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ในทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
ไทยออยล์ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนในระดับ Gold Class ด้านความยั่งยืนเป็นปีที่เจ็ดในอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในการจัดอันดับครั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ของโลก 7,033 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนจาก S&P Global โดยแบ่งการประเมินออกเป็น 61 อุตสาหกรรม กลุ่มบริษัทที่ได้รับ Gold Class ถือเป็นระดับสูงสุดในแต่ละอุตสาหกรรม
กล่าวคือเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน อันเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว โดยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการสร้างโอกาสต่อธุรกิจภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยไทยออยล์ยึดหลักการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาล (ESG) มาโดยตลอด
ซึ่งทำให้ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับ Gold Class เป็นปีที่เจ็ด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซ และเป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนแถวหน้าของโลก จากการประกาศผล S&P Global Sustainability Award 2021 ติดต่อกันเป็นปีที่แปด ”
จากผลการประเมินครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ไทยออยล์ยังคงรักษาผลงานอันโดดเด่นในด้านความยั่งยืนระดับสากล ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จะส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินธุรกิจของไทยออยล์และบริษัทในกลุ่มฯ อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิกฤตดังกล่าวไทยออยล์ได้เล็งเห็นโอกาสในการปรับตัวและเร่งขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร
โดยในมิติเศรษฐกิจนั้น ไทยออยล์ได้มีการยกระดับแผนกลยุทธ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและสอดคล้องกับแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ที่จะมุ่งสู่การเป็นบริษัทพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับสูง ในมิติสิ่งแวดล้อม ไทยออยล์ก็มีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมผ่านนโยบายและแนวปฏิบัติซึ่งครอบคลุมทุกกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรและคุณภาพสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับมิติด้านสังคม ไทยออยล์ยังคงให้ความสำคัญกับกิจกรรมและโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนต่างๆ ตลอดจนมุ่งเน้นการเคารพในสิทธิมนุษยชน ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาองค์กรสู่ความสำเร็จในระยะยาว
ผลการประเมินความยั่งยืนในครั้งนี้เกิดจากความทุ่มเทและตั้งใจจริงในการดำเนินงานของพนักงานไทยออยล์เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของบริษัทฯ ในโอกาสที่ไทยออยล์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืนให้กับสังคม เพื่อมุ่งหน้าสู่องค์กร 100 ปีได้อย่างมั่นคงต่อไป” นายวิรัตน์ กล่าวเสริม