เปลว สีเงิน
“ราชา” แห่งซีเกมส์คือ “ฟุตบอล”
แล้ว “ทีมชาติไทย” ก็ใกล้สู่บัลลังก์ “ราชันแห่งซีเกมส์” ที่กำลังแข่งขันที่เวียดนามขณะนี้
เย็นวาน (๑๙ พค.๖๕) ไม่ไปไหน นอนเฝ้าหน้าจอรอดูการดวลแข้งระหว่าง “ไทย-อินโดนีเซีย” ที่จะถ่ายทอดสดจาก “เธียน ตรวง สเตเดียม” เวียดนาม มาให้ดู ตอน ๔ โมงเย็น
เฝ้าไป-เฝ้ามา แฟนบอลชนิดเข้าเส้นเลือดอย่างผม หลับคาหน้าจอไปก่อนตอนไหนก็ไม่รู้
มาสะดุ้งตื่นเอาตอนเสียงพากษ์ดังล้งเล้งจากจอประมาณว่า
“เข้าไปแล้วครับ….
ไทยนำ ๑-๐ จากการยิงสุดสวยกว่าอาภัสรากับน้องลิซ่ารวมกันของ “วีระเทพ ป้อมพันธุ์” ในนาทีที่ ๙๔”!
ไม่เสียแรงนอนหลับเชียร์เลยจริงๆ แสดงว่าครึ่งแรก-ครึ่งหลัง๙๐ นาที “ไทย-อินโด” ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องต่อเวลาอีก ๓๐ นาที
และ ๔ นาทีแรกของการต่อเวลา “วีระเทพ” ก็แสดงปาฎิหาริย์ สับไกตีนไวกว่ามาเวอรริค “คาวบอยแม่นปืน” เปรี้ยงเดียวตาข่ายประตูเวียดนามกระจุย-กระเจิง!
ไม่ตำหนิประตูเวียดนามเลย……
ต่อให้ “มานูเอล นอยเออร์” ประตูมือ ๑ ของโลกทีมบาเยิร์นมิวนิคมารับก็ไม่ทัน เพราะ “เทพ-วีระเทพ” ยิงลูกนี้ ทั้งเฉียบขาด ทั้งสุดสวย ทั้งแม่นยำ
ตีนแตะลูกสับไกเปรี้ยงทันใด กระพริบตาว่าไว ยังช้ากว่าลูกที่เทพ-วีระเทพยิงประตูนำชัย ให้ไทยไปรอ “ชิงชนะเลิศ” กับผู้ชนะอีกคู่ระหว่าง “มาเลยฯ-เวียดนาม” ในวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภา.
ชัยชนะนัดนี้ ต้องยกให้การเล่นเป็นทีมของนักเตะไทยก้าวล้ำไปถึงขั้น ตีนแตะลูกปุ๊บ นักเตะรู้ใจกันปั๊บ “เทพ-เบนจามิน เดวิส” ได้ลูก พาสไปให้”เทพ-วีระเทพ”
เทพ-วีระเทพ แตะโดยไม่ต้องแต่ง เปรี้ยง…ไปทันใด ถ้าตาข่ายประตูไม่เหนียว ลูกทะลุขึ้นอัฒจันทร์ไปเลยด้วยซ้ำ
นี่…มันแรงถึงขนาดนั้น!
ที่พูดนี่ ไม่เกินเลยความจริง เดี๋ยวจะว่า…ไหนว่าหลับ แล้วโม้เป็นฉากๆยังกะตาเห็นได้ไง?
ก็ตื่นพอดีไง แต่ไม่หรอก ดูเขาตอนรีเพลย์ซ้ำแล้ว-ซ้ำอีกให้ดู แต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าลูกที่วีระพันธุ์ยิง “ขั้นเทพ” ทะลุอาเซียน ไปถึงระดับเอเชีย
ชัวร์ว่าน่าจะเป็น “แข่งส่งออก” ไปเจลีก ของเมืองทอง “กิเลนผยอง” เป็นรายต่อไปแน่!
ความจริงไทย-อินโดฯ เป็นคู่ซี้อาเซียน แต่บอลเมื่อวาน ต่างคนต่างมั่นจะได้เข้าชิงเหรียญทอง แต่ถูกไทยนำในตอนท้ายเกมอย่างนั้น ก็เข้าใจว่านักเตะอินโดฯ ต้องปรอทแตก
ท้ายๆ เกม จึงเห็นอาการ “แรงมา-ก็แรงไป” ระหว่างนักเตะไทย-อินโดฯ จนเจอใบแดงถูกไล่ออกจากสนามด้วยกันทั้งสองฝ่าย
กรรมการไล่จนงง ไม่รู้เหลือนักเตะฝ่ายละกี่คน ทั้งในสนามและขอบสนาม ก็หวิดจะจวกกันวุ่นวาย
“พี่มโน โพกลิ้ง” โค้ชทีมไทยของเรา พี่ก็หัวร้อนร้อนตลอดอยู่ขอบสนาม มาดามแป้งคนสวยต้องเข้าไปกันออกมา พอดีหมดเวลาซะก่อน ไม่งั้นคงพัลวัน-พัลละเกกันอีกนาน
ไทยเรา “ขึ้นชั้น” เป็นสุภาพบุรุษนักกีฬา รักษามาตรฐานไว้ครับ อดทน-ควบคุมอารมณ์ไว้
ใครเทพ-ใครพาล คนดูเขาเห็น เขาตัดสินให้เอง เราผู้เล่น ตัดสินเองไม่ควร
วีระเทพหรือ “เตอร์” ทีมชาติไทยคนนี้ เป็น “กองกลาง” สังกัดทีม “SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด”
ไม่ได้เกิดมาในสายฟุตบอลโดยตรง หากแต่เป็นเทพ “ฟุตซอล” สำนัก “ศรีบุญยานนท์” โรงเรียนนนทบุรีและโรงเรียนปทุมคงคา
มาเปลี่ยนสายจากฟุตซอล ไปเป็นฟุตบอล ตอนเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เลิกฟุตซอลมาเอาดีฟุตบอลด้านเดียวในทีม “จามจุรี ยูไนเต็ด” เข้าสู่อาชีพบอลลีก ๕-๖ ปีมานี้เอง
มาสังกัด “กิเลนผยอง” ซัก ๓ ปี แรกๆ เป็นพระเอกม้านั่งตัวสำรอง เมื่อรุ่นพี่ “สารัช อยู่เย็น” ย้ายทีม ก็รับตำแหน่งกองกลางแทนสารัช
ความว่องไว เลื้อยได้ปรูดปร๊าดปานปลาไหล ทั้งจ่ายแม่น-ยิงแม่น “ซ้ายฉมัง” ของวีระเทพที่ขึ้นชื่อจากฟุตซอล เมื่อเปลี่ยนเป็นฟุตบอล ปรับสภาพ ลงตะไบ ไม่กี่ปี
“คุณสมบัติเทพ จาก “โต๊ะเล็ก” ก็คืนฟอร์ม ทำให้ “วีระเทพ” เป็นแข้งเทพ” ในสนามใหญ่ ในนามทีมชาติไทย
ที่คุยนี่ ใช่ว่าเห็น “วีระเทพ” ยิงประตูได้ ก็ฟูมฟายชมแต่วีระเทพคนเดียว ก็อย่างที่บอก ฟุตบอลนั้น “เก่งคนเดียว” ไม่มีความหมาย
ฟุตบอลต้อง “เล่นเป็นทีม-เก่งเป็นทีม” จึงจะเรียกว่าทีมฟุตบอลดี-นักฟุตบอลเก่ง!
อย่างทีมช้างศึกที่ได้เข้าชิงเหรียญทอง เพราะ “เก่งทั้งทีม” รวมทั้งโค้ชและผู้จัดการทีม
โดยเฉพาะนักเตะ……
ความเป็นทีมเวิร์ค การไม่หวังเป็นพระเอกคนเดียว ลูกที่เบนจามิน เดวิส ส่งให้วีระเทพนำประตูชัย ก็เพราะแต่ละนักเตะในสนาม ประสานแผน ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ใช่ว่าจู่ๆ ลูกจะลอยมาเข้าตีนให้วีระเทพยิงได้
ไงก็ ๑ ล้านบาทแรก ที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวและการกีฬาฯ “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” ตบรางวัล ให้นั้น
นับรวมผมเป็นหนึ่งในทีมช้างศึกด้วยก็ไม่รังเกียจ ในฐานะ “กองเชียร์หน้าจอ” …แฮ่ม!
๑๑ เทพ “ทีมชาติไทย” ที่ดวลกับทีมชาติอินโดฯ เย็นวาน มีดังนี้ครับ
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (กัปตันทีม) คิน วิเศษชาติ, โจนาธาน เข็มดี, อิรฟาน ดอเลาะ, เอกนิษฐ์ ปัญญา, กรวิชญ์ ทะสา, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ชนภัช บัวพันธ์, เบนจามิน เจมส์ เดวิส, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช
อาทิตย์ ๒๒ พฤษภา. “วันมหาฤกษ์-มหาชัย” จริงๆ ทั้งสภาถึงวาระเปิดสมัยประชุม ทั้งเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และสก.ทั้งเลือกตั้ง “นายกฯเมืองพัทยา” และทั้งครบรอบ ๘ ปี คสช.
แล้วยังเป็นนัดเตะชิงเหรียญทองซีเกมส์ของไทยที่เวียดนามอีก เห็นทีต้องไปซื้อโทรทัศน์เพิ่มอีกซักเครื่องซะแล้ว จะได้เปิดดูพร้อมๆ กัน!
เอาการเมืองตบตูดการกีฬาซะหน่อยเป็นไง……..
นายกฯ ประยุทธ์ไปปาฐกถาที่ “รอยัล พารากอน” เมื่อวาน ในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ประเทศไทย”
ตอนหนึ่งท่านบอกว่า……
“ประเทศไทยในวันนี้ ยังมีเสถียรภาพทางการเงินและการคลังที่ดี พร้อมรับมือวิกฤติที่ยืดเยื้อได้
มีความพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตได้ และมีอุตสาหกรรมสำหรับรองรับคนรุ่นใหม่ในด้านต่างๆ รวมทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานที่จะเชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียนทุกด้าน”
นายกฯ พูดปลอบใจหรือเอาของจริงมาพูด อ่านนี่ก่อนแล้วจะรู้เอง
……………………
สมเกียรติ โอสถสภา
เงินบาทเป็นเงินสกุลที่นิยมใช้ในการซื้อขายกัน อันดับที่10 ของโลก
ไม่ห่างเงินหยวนของจีนเท่าใด
สถานะของไทยในโลกจึงลูงมาก ดีมาก สง่างามมาก
มีเงินกี่สกุลที่คนเชื่อยอมเอาเงินที่ตนมีไปแลก
ไทยเป็นหนึ่งในนั้น
เชื่อเงินบาท เชื่อประเทศไทย รักประเทศไทย
ใครไม่รักประเทศไทยลองขนเงินบาทไปวางกองให้คนหยิบดูก็ได้
ของจริง ไม่โม้
ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิของประเทศ วัดกันแบบนี้ครับ
หลายๆ ประเทศมาขอให้ไทยยอมรับเงินของเขา รัสเซียก็เพิ่งมา
เรามาไกลมาก
เทียบกับ 200 ประเทศทั่วโลก
นักเศรษฐศาสตร์พูดด้วยสถิติ และหัวใจครับ
เมื่อประเทศต่างๆ จะตีค่าประเทศหนึ่ง ทีมงานของเขาจะวัดจากดัชนีที่ว่านี้แหละ
Respect Thailand.
Love You, Thailand,
My Country, My Home
……………………………………
นี่คือ “ประเทศไทย” ใน ๘ ปี ของผู้บริหารที่ชื่อ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”
ที่อดีตรัฐบาล “โกงมาแบ่งกัน” แล้วอ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตย สร้างวาทกรรมทำลายว่า “รัฐบาลเผด็จการ”!
ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Madam Pang – มาดามแป้ง – นวลพรรณ ล่ำซำ
