15 กุมภาพันธ์ 2564 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมการการเมือง พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานตู้ต้านโกง พรรคเพื่อไทย, ดร.อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค, และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ร่วมกันแถลงข่าวหลังเปิด “ตู้ต้านโกง”
รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชันจากประชาชน ทำให้ได้ข้อมูลลับจำนวนมาก หลายเรื่องเกี่ยวกับเครือข่ายธุรกิจสีเทาและสีดำ หลายเรื่องเกี่ยวพันกับรัฐบาล ทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการ ตำรวจและทหาร ที่มีการเอื้อประโยชน์กันอย่างเป็นระบบ
โดยข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมดจะส่งต่อให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ขอให้รัฐมนตรีที่เปิดติวกันอยู่เร่งทำการบ้านและเตรียมตอบคำถามให้ดี เพราะข้อมูลที่มอบให้ ส.ส.ใช้อภิปรายฯ นั้นบางเรื่องจะเป็นตัวอย่างกลวิธีรับส่วย
ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับรัฐบาลว่าตั้งแต่หลังปี 2557 เป็นต้นมามีการจัดรูปแบบขบวนการรับส่วยเป็นระบบผูกขาดกันอย่างไร เป็นแบบระบบประมูล ทำธุรกิจสีเทาและสีดำ เอื้อกันตั้งแต่การแต่งตั้ง โยกย้าย การช่วยเหลือปัดเป่าคดี ซึ่งมีจำนวนมากที่แม้จะจับกุมได้แต่คดีก็ไม่คืบหน้าและมักถูกเป่าหาย ด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในรัฐบาลยุคนี้
อาทิ การจับกุมยาเสพติด 1.5 ตัน มูลค่ามหาศาลตั้งแต่ปี 2562 แต่การดำเนินคดีก็เงียบหาย จนนายตำรวจใหญ่ต้องออกมาทวงถามหลังไม่มีความคืบหน้า จนเป็นข่าวดังมาแล้ว
นายวรวัจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะส่งต่อให้กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือการพูดถึงต้นตอการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองในประเทศไทย ซึ่งได้ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งอยากจะให้นายกรัฐมนตรีกำกับดูแลตำรวจและทหาร ตั้งใจรับฟังข้อมูลและพิจารณาให้ดีๆ ว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เนื่องจากข้อมูลที่เราได้รับมา ผู้ให้ข้อมูลแจ้งว่าส่วยนี้ถูกส่งไปถึง “บิ๊ก ป.ปลา” คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งต้องตั้งใจฟังให้ดีว่าเป็น “บิ๊ก ป.ปลา” ไหน
ซึ่งขบวนการนี้เกี่ยวพันตั้งแต่การทำให้เกิดการแก้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์กัน การแต่งตั้งโยกย้ายหมุนเวียน การประมุลการค้าส่วย จนทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19 ไปทั้งประเทศ