“ส.ส.ภูมิใจไทย” ร่วมกันฟ้องศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอน หรือยกเลิกประกาศ กทม. เรื่อง ค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาท ระบุ กระทำผิด มติ ครม. 26 ก.ย. 2561 และ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2562

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย ประกอบไปด้วย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม. นายพิษณุ พลธื ส.ส.ปทุมธานี และนายอนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี ได้แต่งตั้งทนายร่วมกันเป็นผู้ฟ้องคดี ต่อศาลปกครองกลาง ให้ยกเลิกประกาศกรุงเทพมหานคร วันที่ 29 มีนาคม 2560 เรื่องค่าโดยสารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 (ซอยสุขุมวิท 95 ซอยสุขุวิท 107) ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร และส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 2 (ตากสิน-เพชรเกษม) ระยะทาง 6.3 กิโลเมตร ทำให้การจัดเก็บอัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทาง ไม่เกิน 104 บาท

ต่อมามีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องการกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564  การที่ กรุงเทพมหานคร ออกประกาศดังกล่าว เห็นว่าประกาศกรุงเทพมหานคร ฉบับดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากมีผลใช้บังคับจะทำให้ผู้ฟ้องคดี และประชาชน เกิดความเสียหาย

โดยพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 กันยายน 2561 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นอกจากนี้ ในวันที่ผู้ฟ้องคดีได้ฟ้องคดี เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้บรรจุ วาระครม. เสนอให้ขออนุมัติความเห็นชอบผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าที่ประชุมครม. เพื่อขออนุมัติ แต่กลับมีการประกาศเรื่องการกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 โดยกำหนดราคาใหม่ ตลอดเส้นทาง ไม่เกิน 104 บาท

โดยที่ยังไม่มีการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่ให้กระทรวงคมนาคม และ กทม. บูรณาการเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ รวมทั้งกำหนดอัตราค่าโดยสารแรกเข้า และอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรม ไม่ให้เกิดเป็นภาระต่อประชาชนผู้ใช้บริการมากเกินไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2562 ได้มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2562 เรื่อง การดําเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้ผู้ถูกฟ้องคดี บริหารจัดการเดินรถไฟฟ้า สายสีเขียวช่วง หมอชิต-แบริ่ง ช่วงบางหว้า-สนามกีฬาแห่งชาติ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ช่วงหมอชิตสะพานใหม่-คูคต เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นโครงข่ายอย่างเดียวกัน (Through Operation) อํานวยความสะดวก ในการเดินทางของประชาชนผู้โดยสาร และมีการกําหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรม และไม่เป็นภาระแก่ประชาชน เพื่อให้การเข้าถึงการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนเป็นไปอย่างเท่าเทียม และทั่วถึง อันจะเป็นประโยชน์ต่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพต่อระบบคมนาคมขนส่ง และระบบเศรษฐกิจของประเทศ


ทั้งนี้ การที่ กทม. ประกาศกำหนดราคาค่าโดยสาร โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไปนั้น จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยังไม่มีเหตุผลอันควรที่จะกล่าวอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการสร้างภาระให้เกิดแก่ภาคประชาชนเกินสมควร ทำให้การเข้าถึงการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนของประชาชนเป็นไปอย่างไม่เท่าเทียมและทั่วถึง

การเพิกถอนหรือชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวไว้ จนกว่าจะได้มีการร่วมพิจารณาร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน และหาหนทางอันเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว บริหารจัดการที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชนผู้ใช้บริการ

ในท้ายคำฟ้อง ผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 ขอให้ศาลมี คําขอท้ายฟ้อง 1. ให้เพิกถอนหรือยกเลิกประกาศเรื่องกําหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 15 มกราคม 2564 2. ให้มีคําสั่งระงับการดําเนินการใด ๆ ตามประกาศ เรื่อง กําหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ค่าโดยสารที่ปรับเพิ่มขึ้น) ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะได้มีคําสั่งหรือคําพิพากษาเป็นที่สุดเสียก่อน 3. ให้ผู้ถูกฟ้องคดีชําระค่าธรรมเนียม รวมทั้งค่าใช้จ่ายแทนผู้ฟ้องคดีที่ 1 ที่ 6 (หากมี)

Written By
More from pp
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนที่เก็บเห็ดป่ามารับประทาน อาจเป็น “เห็ดพิษ” เสี่ยงเสียชีวิตได้
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนให้ระวังการเก็บเห็ดป่า เห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมารับประทาน ซึ่งอาจเป็น “เห็ดพิษ” เสี่ยงเสียชีวิตได้ ซึ่งเห็ดป่าบางชนิดมีลักษณะคล้ายกัน จนบางครั้งไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นเห็ดที่กินได้ หรือเห็ดพิษ แนะ “เห็ด...
Read More
0 replies on ““ส.ส.ภูมิใจไทย” ร่วมกันฟ้องศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอน หรือยกเลิกประกาศ กทม. เรื่อง ค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาท ระบุ กระทำผิด มติ ครม. 26 ก.ย. 2561 และ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2562”