21 มกราคม 2563 – ลิเกหนุ่มหน้าหวาน ขวัญใจแม่ยก “ศรราม น้ำเพชร” ลงพื้นที่พบคณะแพทย์ โรงพยาบาลบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่โรงพยาบาลเผชิญอยู่ และเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงพยาบาล 77 แห่งทั่วประเทศ
ผ่านโครงการ “สร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในเรื่องของการใช้พลังงานสะอาด” จัดขึ้นโดยบริษัท Tellscore หนึ่งในผู้นำด้านการตลาดผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์มาร์เก็ตติ้ง ภายใต้แนวคิด “Clean Energy for Life ใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน” โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
ศรราม เล่าว่า ตอนตนไปถึงโรงพยาบาลบางระจัน สังเกตเห็นทันทีว่ามีผู้ป่วยมารอพบแพทย์จำนวนมาก พอได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายแพทย์ ธีรศักดิ์ เด่นดวง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางระจัน จึงรู้ถึงปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลกำลังเผชิญอยู่ ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมากในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยและญาติ นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังมีภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าไฟฟ้า ที่เป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักตกเดือนละ 100,000 – 200,000 บาทเลยทีเดียว
“ได้มีโอกาสมาเห็นการทำงานและการบริหารงานของโรงพยาบาลก็เข้าใจเลยว่า เรายังขาดแคลนอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูง แต่เพราะโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายหลายทาง โดยเฉพาะค่าไฟ งบประมาณที่ได้รับจัดสรรเลยไม่เพียงพอ คงจะดีมากถ้าเราช่วยให้ทางโรงพยาบาลต่างๆ ในประเทศไทยลดภาระค่าใช้จ่ายลง จะได้มีงบฯ ไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาศัหกยภาพการรักษาพยาบาล” ศรราม ศิลปินพื้นบ้านหัวใจรักษ์โลกบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการมาเยี่ยมโรงพยาบาลแห่งนี้
ศรราม จึงภูมิใจนำเสนอทางออกในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลผ่านการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ บนหลังคาโรงพยาบาล โดยชี้แจงว่าระบบโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังผลิต 100 กิโลวัตต์นั้น สามารถช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลได้ถึงเดือนละประมาณ 60,000 บาท ดังนั้นในระยะเวลา 1 ปี โรงพยาบาลจะสามารถลดภาระค่าไฟฟ้าได้ราว 720,000 บาท โดยการติดตั้งสำหรับ 1 โรงพยาบาล ใช้งบประมาณไม่เกิน 4 ล้านบาท และเนื่องจากแผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งาน 25 ปี
จึงสามารถช่วยโรงพยาบาลลดภาระค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาการใช้งาน นายแพทย์ ธีรศักดิ์ เผยว่า ค่าไฟฟ้าเป็นค่าใช้จ่ายที่ทุกโรงพยาบาลไม่สามารถเลี่ยงได้ แต่ถ้าเราสามารถลดหย่อนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ จะทำให้โรงพยาบาลสามารถนำเงินมาต่อยอดในการจัดหาอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ในฐานะศิลปินตัวเล็กๆ ที่นอกจากจะสืบสานศิลปวัฒนธรรมด้านการแสดงลิเกแล้ว ศรรามขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้โรงพยาบาลในประเทศไทย ได้มีพลังงานสะอาดใช้ และเปลี่ยนค่าไฟเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ พี่ๆ และแม่ๆ ที่รักศรราม ศรรามขอความเมตตาจากทุกท่านเผื่อแผ่ไปถึงโครงการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้โรงพยาบาลชุมชน 77 แห่งทั่วประเทศไทยด้วยนะครับ”
ศรราม ทิ้งท้ายว่า ตนเองนั้นเคยมองว่าพลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่พอได้ทบทวนดูแล้ว เราทุกคนคือผู้ใช้และผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากพลังงานไฟฟ้า ดังนั้นเราควรมีส่วนร่วมในการใช้ทรัพยากรไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า จึงอยากเป็นกระบอกเสียงเชิญชวนประชาชนให้เล็งเห็นถึงปัญหาและค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศต้องแบกรับ และหากคนไทยทุกคนร่วมกันสนับสนุนตามแรงศรัทธา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้โรงพยาบาลชุมชน 77 แห่งทั่วประเทศไทย รวมถึงโรงพยาบาลบางระจัน จะช่วยให้โรงพยาบาลสามารถนำเงินไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น และสร้างประโยชน์เรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยดีขึ้นผ่านการใช้และมีส่วนร่วมในการผลิตพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้สนใจร่วมสนับสนุนการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้กับโรงพยาบาล ได้ 2 ช่องทาง ผ่านบัญชีกลางของมูลนิธิแพทย์ชนบทเพื่อไฟจากฟ้า หรือบัญชีโรงพยาบาลบางระจันโดยตรง
1) บัญชีกลางของมูลนิธิแพทย์ชนบทเพื่อไฟจากฟ้า ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 142-0-28997-7 ชื่อบัญชี แพทย์ชนบทเพื่อไฟจากฟ้า
2) บัญชีโรงพยาบาลบางระจัน ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 116-0-60588-2 ชื่อบัญชี เงินบริจาคของโรงพยาบาลบางระจัน