ขอพูด “ให้เกลียด” อีกวัน

เปลว สีเงิน

“บ่อนพนัน” นี่…เหมือนปลวก พื้นผิวหน้าดูราบเรียบ เหมือนไม่มีอะไร

แต่พอ “รื้อพรม” เท่านั้้น
โอ้โฮ เคาะลงไปตรงไหน ปลวกยุ่บ มันกัดกินพื้นจนพรุนไปทุกตารางนิ้ว!
บ้านเมืองเรา ภายใต้การดูแลพื้นที่ของมหาดไทย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประมาณนั้น

ยุ่บด้วย “บ่อนพนัน -ของเถื่อน-คนเถื่อน” และอะไรๆ ที่เรียกว่า “ดำๆ-เทาๆ”

โควิดรอบ ๒ ที่มันระบาด ต้นตอก็มาจากตรงนี้แหละ!

ก็เห็นใจนายกฯ
ทั้งรัฐมนตรีมหาดไทย ทั้งผบ.ตร.ก็คนของท่านทั้งนั้น ถึงจุดหนึ่ง ก็ต้องทำอะไรประเภทว่า Put the right man on the right job ให้ประชาชนเห็นบ้าง

ผบ.ตร.นั้น “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ท่านเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อตุลา.ซึ่งก็พอเข้าใจได้ ที่พื้นพรุน ไม่ใช่ปลวกเพิ่งเกิดยุคท่าน

มันเกิด “ฝังราก-ฝังรัง” ต่อเนื่องมานานแล้ว พอดีจังหวะโควิดมันมาช่วยชาติ “รื้อพรม” ให้เห็นรังในพื้นพรุน


จะบอกว่าซวยหรือเฮง ขึ้นอยู่กับมุมมองของท่าน ว่าจะตั้งรับเรื่องบ่อนไปวันๆ แบบเดิม หรือพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

ถ้าแบบเดิมไปวันๆ ท่านก็อาจอยู่ได้ แต่จะเป็นผบ.ตร.อยู่อย่างมีศักดิ์-มีศรี ที่สังคมยอมรับนับถือ
……คงยาก!

แต่ถ้าท่านใช้โอกาสความเป็น “ผบ.ตร.คนใหม่” ลดความเกรงใจพวกลงนิด เพิ่มดีกรีเหี้ยมขึ้นหน่อย แล้ว “นำร่อง” ช่วยนายกฯ “ปฎิรูป” ระบบตำรวจเสียแต่เดี๋ยวนี้

ผมมั่นใจ……..
ด้วยคุณสมบัติสัตย์ซื่อตามบุคลิก ท่านจะเป็น “ผบ.ตร.” ในตำนานสู่ศตวรรษใหม่ ที่ประชาชนจะกล่าวขาน ด้วยศรัทธาสืบไป

สำหรับพลเอกอนุพงศ์ ท่านคุมมหาดไทยมายาวนาน ๗ ปี เรียกว่า “รากงอก” แต่การปฏิรูปคนและงานมหาดไทย “ไม่งอก” เท่าที่ควร

ท่านเป็นคนดี ส่วนงานดีหรือไม่ เสียงขรมทางสังคมเต็ม ๒ รูหูอยู่แล้วมิใช่หรือ?
การทำงานแบบ “ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฎ” พลเอกอนุพงศ์ เหมาะตำแหน่ง “รองนายกฯ” ช่วยเป็นกุนซือให้นายกฯมากกว่านั่งทับมหาดไทยให้เป็นซากปลวก

มันถึงจุดนะ…….
จุดที่ต้องตัดสินใจเลือก จะเอาอนาคตประเทศ หรือจะเอาพวก-เอาพี่-เอาน้อง
ซึ่งผมก็เข้าใจ พูดน่ะ…มันง่าย
แต่การทำ มันโคตรยาก เพราะในโลกนี้ ไม่มีปัญหาไหนที่นักบริหารชั้นยอดจะแก้ไม่ได้ ยกเว้นปัญหาเดียว
คือ “ปัญหาคน”

โดยเฉพาะคนใกล้ตัว ซึ่งยากฉิบ…!

เรื่องบ่อนกับเรื่องพื้นที่ชายแดน วันนี้ มันเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ไปแล้ว เพราะทั้งลักลอบเล่น ทั้งลักลอบเข้า-ออก
จะชี้หน้าโทษหน่วยไหนล่ะ …..
ก็มัน “ลูบหน้าปะจมูก” ไปหมด สังคมถึงเรียกร้อง “ปฏิรูประบบราชการ” ซะที ซึ่งผมก็ทั้งเข้าใจและเห็นใจนายกฯ

แต่ทำไงได้ ถ้าท่านไม่ทำ แล้วใครจะทำ?
ทุกวันนี้ บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยระบบรัฐสภามีสส.-สว.ก็เถอะ ยอมรับว่าสส.ดีมีมากกว่าที่ไม่ดี

แต่ดีแบบ “ดีถนอมเนื้อ-ถนอมตัว” ไม่แอกชั่นอะไร จึงสู้แบบ “พวกชั่วรวมหมู่” ไม่ได้
ออกราวี-รังควาญ จนเกิดภาพ “มารครองเมือง”

ประชาชนมีทัศนคติต่อสส.ทุกวันนี้อย่างไร ไม่ต้องดูอื่นไกล ดูจากป้ายที่คนไปถ่ายมาโพสต์นี่ก็ได้

“โปรดแก้สันดานโกง ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ”!

เพราะอย่างนั้น ประชาชนจึงมี “พลเอกประยุทธ์” เป็นที่พึ่ง-ที่หวังในทาง “ฝากอนาคตประเทศ”

ท่านคงกินไม่ได้-นอนไม่หลับ เมื่อความจริงตำตา ป่วยโควิดมา มากต่อมาก รับเชื้อจากบ่อน จากลักลอบเข้าเมือง
แถมยังปกปิดจนเชื้อระบาด สร้างภาระเหนื่อยยากแก่แพทย์-พยาบาล ถึงขั้นมีคนโพสต์

“หมอไม่ใช่เมีย ไม่ต้องปกปิดข้อมูลค่ะ”!

เมื่อวาน (๕ มค.๖๔) หลังประชุมครม.นายกฯ จึงออกมาแถลงว่า

“สิ่งที่ผมอยากทำความเข้าใจกับประชาชนคือ การจับขบวนการผิดกฎหมาย บ่อนการพนันต่างๆ

ซึ่งทุกคนทราบดีว่าวันนี้บ่อนการพนันมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ บ่อนขนาดใหญ่ บ่อนวิ่ง หรือบ่อนอะไร ก็แล้วแต่ วันนี้ต้องดำเนินการเข้มงวดมากที่สุด

…….ผมได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้

จึงให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ประกอบด้วยหน่วยงานตรวจสอบทั้งในส่วนของตำรวจ, ดีเอสไอ., ป.ป.ง., ป.ป.ท.

โดยมีทั้งการดำเนินคดีสอบความผิดเฉพาะหน้า การตรวจสอบจับกุมขบวนการเหล่านี้
พร้อมติดตามถึงผู้ที่เป็นนายทุนผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้อำนวยความสะดวกและผู้ละเว้นปล่อยปละละเลยเหล่านี้ ต้องถูกลงโทษ”

ก็ดีครับ……
แต่นี่แค่ “ดายหญ้า” หน้าดิน ยังไม่ใช่ขุดราก-ถอนโคนที่เรียก “ปฏิรูปทั้งระบบ”

การตั้งคณะกรรมการนั้น ประชาชน “ชิน” ซะแล้วว่า แค่ซื้อเวลา ลงท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนทุกเรื่อง-ทุกครั้ง

ยิ่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.บอกว่า
เท่าที่ผ่านมาอย่างที่เป็นข่าว ยังพบมีการฝ่าฝืนกระทำความผิดอยู่ และอาจมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ……

ขณะนี้ให้สำนักงานจเรตำรวจและจากส่วนกลางที่ไม่เปิดเผยลงไปตรวจสอบ ถ้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องคงไม่ได้แค่ย้ายไปแล้วย้ายกลับ ยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น

…………ส่วนนายทุนเจ้าของบ่อนเราก็พอมีข้อมูล แต่การดำเนินคดีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง พยานหลักฐานถึงเวลาต้องหาใครมาเป็นพยาน หรือเส้นทางการเงินไม่ใช่เรื่องง่าย ขอฝากใครที่ทำอยู่ให้ระวังตัว พลาดมาเมื่อไหร่ก็โดน ฝากบอกไว้ด้วย”

ท่านผบ.ตร.ครับ….
เรื่องบ่อน ไปไกลเกินกว่าที่จะใช้คำว่า “อาจ-มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง” และ “ถ้า-พบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง” แล้วหละครับ

เพราะชาวบ้านรู้ โลกรู้ มีแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้นกระมัง ที่ไม่รู้?

อย่างบ่อนกลางกรุงย่านสีลม เมื่อเดือนสิงหา.จะใช้คำพูดว่า “อาจมีเจ้าหน้าที่” หรือ “ถ้าพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง” คงจะกระดากปาก

บ่อนใหญ่โตรโหฐานกลางเมืองหลวงขนาดนั้น ตำรวจไม่รู้เลยหรือ แล้วที่ยิงกันตาย ๔ ศพคาบ่อน ๑ ใน ๔ ที่ตายเป็นนายตำรวจมั่วพนัน

ปิดคดีกันแบบไหนล่ะนั่น และทนโท่แบบนี้ อาจ..หรือถ้า…ไหมล่ะ?

เพียงยกตัวอย่างน่ะ ก็อยากบอกว่า เรื่องบ่อนประจักษ์คาตาขนาดนี้แล้ว จะพูด จะแถลงอะไร ก็แถลงไป

แต่อย่าออกตัวเลย เพราะชาวบ้านเขาจะยิ่งหมั่นไส้

ทั้งหมดนี้ เพราะรักดอก
จึงพูดให้เกลียด!

Written By
More from plew
คำถามง่ายที่ทอนตายสนิท
เปลว สีเงิน ครับ…. อันที่จริงผมไปเที่ยวกลับมาแต่วันศุกร์แล้ว เห็นคุณ “ผักกาดหอม” บรรเลงกำลังมันหยดติ๋ง เลยถือโอกาสขี้เกียจต่อ แต่วันนี้ “ผักกาดหอม” เวนคืนพื้นที่มาให้ ก็คุยกันให้สมกับที่ผม...
Read More
0 replies on “ขอพูด “ให้เกลียด” อีกวัน”