ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘ฮ่องกง’ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย ที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่มิอาจลืมเลือน รายล้อมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งรสชาติอาหาร บรรยากาศ วัฒนธรรมการกินและผู้คน และหากไปถึงฮ่องกงแล้ว หนึ่งในร้านที่ต้องไปปักหมุดให้จงได้คงหนีไม่พ้น Ho Hong Kee
ร้านบะหมี่เกี๊ยวเก่าแก่เจ้าดัง การันตีคุณภาพและรสชาติด้วยมิชลินสตาร์ 1 ดาว ส่งต่อความอร่อยกันแบบถ้วยต่อถ้วยมาอย่างยาวนานกว่า 74 ปี
ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยและบรรยากาศแบบฮ่องกงที่ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะเรายกมาเสิร์ฟให้คุณแล้วเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สยามพารากอน!
แรกเริ่มเดิมทีนั้น Ho Chiu Hung ผู้เป็นคุณปู่ของผู้บริหาร Tasty Congee and Noodle Wantun (เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น) ในปัจจุบัน มีร้านบะหมี่เกี๊ยวเล็กๆ ที่กวางโจวอยู่แล้ว ต่อมาลูกชายของเขา Ho Wing Fong จึงได้มาฝากตัวร่ำเรียนวิชาการทำบะหมี่และเกี๊ยวเพิ่มเติมจากปรมาจารย์ด้านการทำเกี๊ยวและเส้นบะหมี่ในฮ่องกง และเมื่อปี 1946 เขาและภรรยาก็ได้ตัดสินใจเปิดร้าน Ho Hung Kee ขึ้นที่ฮ่องกง
แม้เวลาจะผ่านไป แต่รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ho Hong Kee ก็ยังครองใจคนรักบะหมี่เกี๊ยวและโจ๊กเหมือนเดิม อีกทั้งยังเปิดตัวแบรนด์ลูกอย่าง Tasty Congee and Noodle Wantun (เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น) โดย Ho Koon Ming ทายาทรุ่นที่ 2 ผู้มาสืบสานตำนานความอร่อยสไตล์กวางตุ้ง ที่ยังคงรักษาสูตรและกรรมวิธีการปรุงแบบดั้งเดิมตลอดระยะเวลากว่า 24 ปีนับแต่เปิดบริการครั้งแรก จนได้รับการยอมรับในฐานะมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) จากฮ่องกง รางวัลที่มอบให้แก่ร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล
เมื่อ Ho Koon Ming รับช่วงต่อกิจการจากผู้เป็นพ่อ และเปิดให้บริการในชื่อเทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงความอร่อยจากอาหารที่บรรจงทำอย่างใส่ใจ เขายังคงมุ่งมั่นในการทำอาหารแนว Comfort Food ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพตามตำรับดั้งเดิม โดยเกี๊ยวของทางร้านนั้นต้องผ่านคุณสมบัติทั้ง 3 ด้าน คือ เส้นบะหมี่ น้ำซุป และตัวเกี๊ยวที่ต้องได้ขนาดพอดีคำและไส้มีสัดส่วนระหว่างเนื้อกุ้งและหมูในสัดส่วน 7:3 และทางร้านพิถีพิถันไปจนถึงขนาดของชิ้นเนื้อกุ้งเลยทีเดียว ส่วนตัวเส้นบะหมี่ที่เรียกว่า Jook Sing นั้นทางร้านก็ผลิตเองเช่นกัน
อร่อยจนตัวลอยไปกับบะหมี่เกี๊ยวนุ่มลื่นดุจกลืนก้อนเมฆ
จากตำนานเล่าขานถึงอาหารว่างของชาวมณฑลหูหนาน สู่ “บะหมี่เกี๊ยว” อาหารชามโปรดอันโด่งดังของชาวกวางตุ้ง ที่ชื่อเรียกในภาษากวางตุ้งว่า ‘หวั่นทั้น’ นั้นพ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า “กลืนก้อนเมฆ” เพราะเกี๊ยวแผ่นบางซึ่งอัดแน่นด้วยไส้ที่ทำจากกุ้งแม่น้ำและเนื้อหมูติดมันเล็กน้อยต้มในหม้อ พอสุกแล้วจะค่อยๆ ลอยขึ้นคล้ายเมฆก้อนเล็กๆ
เมื่อก้อนเมฆที่มีความหวานตามธรรมชาติจากไส้เกี๊ยวที่ลอยอยู่ในน้ำซุปซึ่งเคี่ยวจากปลาลิ้นหมาตากแห้ง กระดูกหมู และไข่กุ้งนานหลายชั่วโมงจนมีรสชาติกลมกล่อม เคียงคู่กับบะหมี่เส้นเล็กที่ผลิตอย่างพิถีพิถันแล้วลวกให้สุกเนียนแบบ “อัลเดนเต” (al dente) ที่มีความกรุบนิดๆ ตัวเส้นไม่ยุ่ย จึงทำให้บะหมี่เกี๊ยวชามนี้ไม่ได้อร่อยเพราะความบังเอิญแต่อย่างใด แต่มาจากการปรุงอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอน
โจ๊กเนื้อละมุน รสชาติดีต่อใจ
นอกจากบะหมี่เกี๊ยวที่เป็นตัวชูโรงแล้ว เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น ยังมีโจ๊กเนื้อเนียน ละมุนลิ้น เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียงหลากหลายให้เลือกสั่งตามความชอบ อาทิ เนื้อปลา เนื้อสไลด์ ลูกชิ้น หมูเค็ม ไข่เยี่ยวม้า ตับหมู เซี่ยงจี๊ ไส้หมู และไข่ไก่
สำหรับใครที่อยากลิ้มรสต้นตำรับแท้ๆ เห็นจะต้องเป็นโจ๊กรวมสไตล์กวางโจว ประกอบไปด้วยข้าวต้มโจ๊ก 1 ถ้วย และมีเนื้อสัตว์ต่างๆ จัดแยกมาเป็นเครื่องเคียง
อยู่ที่ไหนก็อิ่มอร่อยได้ง่ายๆ ด้วยบริการเดลิเวอรี ส่งตรงถึงบ้าน
นอกจากเมนูอิ่มอร่อยสบายท้องอย่างโจ๊กและบะหมี่เกี๊ยวตามชื่อร้านแล้ว ทางร้านยังมีติ่มซำรสเลิศมากมายหลายสิบรายการด้วย ไม่ว่าจะเป็นฮะเก๋า ห่ามโส่ยโกะ มาไลโกว ขนมผักกาด ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอด ซาลาเปาไส้หมูแดง ซาลาเปาทอดไส้ไข่เค็ม และเมนูบะหมี่ผัดหลายแบบให้เลือกชิมตามชอบ
เมนูอันหลากหลายของเทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น นั้นผ่านการรังสรรค์โดยเชฟมากประสบการณ์จากฮ่องกง ผู้มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญที่ไม่เหมือนกัน เพื่อมอบประสบการณ์ความอร่อย เปลี่ยนเมนูธรรมดาให้กลายเป็นเมนูโปรดที่รับประทานได้ไม่มีเบื่อ
ข่าวดีก็คือ เร็วๆ นี้ทางร้านยังจะเปิดให้บริการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันสั่งอาหารชั้นนำอีกด้วย
วันนี้เรายกตำรับความอร่อยแบบฉบับฮ่องกงแท้ๆ มาให้อิ่มอร่อยและมีความสุขกับการรับประทานอาหารกันถึงเมืองไทยแล้ว ที่ เทสตี้ คอนจี แอนด์ นูเดิ้ล หวั่นทั้น ชั้น G สยามพารากอน