28 ธ.ค. 63 – ที่ทำเนียบรัฐบาล จากกรณี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ซึ่งได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น
คนใกล้ชิดนายอนุทิน เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวดังกล่าวแล้ว และยืนยันผลการตรวจดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งนายอนุทินเองได้รับการตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกและคอหรือ SWAB (สวอป) แล้ว และผลออกมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ธ.ค.นี้พบว่าเป็นลบ
อย่างไรก็ตาม นายอนุทินจะเข้ากักตัวเป็นเวลา 14 วันตามมาตรการของด้านสาธารณสุข ดังนั้นในวันอังคารที่ 29 ธ.ค.นี้ นายอนุทินจะไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี
ล่าสุด นายอนุทิน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมทราบข่าวท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครติดเชื้อโควิด เมื่อเช้าวันที่ 28 ธันวาคม ผมขอให้พวกเราทุกคนให้กำลังใจ และอวยพรให้ท่านผู้ว่าฯวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี หายป่วยในเร็ววัน
ท่านผู้ว่าฯวีระศักดิ์ เป็นคนทำงานที่ทุ่มเท อดทน เสียสละ ด้วยความรักที่มีต่อประชาชนชาวสมุทรสาคร อย่างจริงใจ ก่อนจะเข้าไปตรวจหาเชื้อ ท่านยังประชุมกับผม และไปตรวจความคืบหน้าสร้างโรงพยาบาลสนาม ด้วยตนเอง
ท่านผู้ว่าฯติดเชื้อ จากการทำงานหนัก ดูแลประชาชนให้ปลอดจากการติดเชื้อ แต่ตัวท่านติดเชื้อเสียเอง แม้จะป้องกันตัวอย่างดี แต่ก็อาจจะพลาดได้ แพทย์บอกว่าท่านเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการป่วย แต่ได้ให้ท่านเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แล้ว
เมื่อท่านผู้ว่าฯ เป็นผู้ติดเชื้อ ผมก็ต้องเป็นผู้เสี่ยง เพราะเพิ่งประชุมและทำงานกับท่านผู้ว่าฯ แพทย์ให้ความเห็นว่าผมเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ เพราะผมและท่านผู้ว่าฯ ใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่ประชุมร่วมกัน ผมจึงต้องเฝ้าระวังอาการตัวเอง 14วัน และวันนี้ ได้ตรวจหาเชื้อตามแพทย์แนะนำแล้ว ผลเป็น negative
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงของผู้อื่นที่จะต้องมาพบ มาประชุม มาทำงานร่วมกับผม และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ผมจึงยกเลิกการพบปะกับบุคคลต่างๆ ทั้งหมด ทันทีที่ทราบผลการตรวจของท่านผู้ว่าฯ และขอกักตัวเอง 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการตัวเอง ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข นับจากวันนี้เป็นต้นไป
แม้จะไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ และมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผมจะไปตรวจหาเชื้อเป็นระยะตามกำหนดเวลาที่แพทย์กำหนด และสั่งให้ตรวจ
ขอให้พวกเราทุกคนให้กำลังใจท่านผู้ว่าฯวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี และอวยพรให้ท่านหายป่วยโดยเร็ว ด้วย
สำหรับผม ในช่วงที่กักตัวและเฝ้าระวัง ก็จะทำงานต่อไป แบบ work from home เพื่อลดความเสี่ยงของทุกๆ ท่าน
เป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคนครับ”