นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย อภิปรายญัตติด่วน เรื่อง การแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่เกิดจากการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว ว่า รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะเกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างและทำให้สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชน
ซึ่งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแพทย์พยาบาลและประชาชนได้ทุ่มเทอย่างมากในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่กลับมีผู้ติดเชื้อระลอกใหม่จากชายแดนเข้ามา
ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน ต้องใช้วิธีเข้าถึงให้เร็ว ตรวจให้เยอะ โดยประสานความร่วมมือกับภาคเอกชน พร้อมเร่งเยียวยาแรงงานอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญต้องเข้มงวดในการคัดกรองคนเข้าประเทศ โดยเฉพาะตามช่องทางธรรมชาติ
ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ควรใช้เฉพาะพื้นที่มีปัญหา ไม่ควรล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เพราะต้องทำให้ชีวิตของประชาชนกับเศรษฐกิจเดินคู่กันไปได้ ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้เร็วที่สุด
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า มาตรการที่รัฐบาลต้องทำเพื่อป้องกันการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 คือ การควบคุมป้องกัน การรักษาโรค และการระงับยับยั้งไม่ให้มีการแพร่กระจายให้ได้มากที่สุด โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเอารั้วลวดหนามไปล้อมตลาดกุ้ง
การจำกัดพื้นที่คือการกำหนดพื้นที่ให้ชัด เตรียมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้พร้อม และเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้สำหรับรองรับ ซึ่งการกำหนดพื้นที่เสี่ยงก็เป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องเร่งทำ เพื่อใช้สำหรับกำหนดมาตรการรองรับให้สอดคล้องกับพื้นที่นั้นๆ ไม่ควรปล่อยปละละเลยให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว อย่าทำงานเพียงรอวันราชการเพื่อประชุม เพราะอาจไม่ทันการณ์
ทั้งนี้ อยากเตือนว่า “พื้นที่สีแดง” ที่ต้องใช้มาตรการเข้มข้นที่สุด ที่อาจจะต้อง “ล็อกดาวน์” ควรทำเฉพาะพื้นที่ อย่าตีขลุม ประกาศล็อกดาวน์ไปทั่วประเทศ เพราะจะเป็นการฆ่าตัวตายรอบใหม่ของรัฐบาลชุดนี้