ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทย ภาคใต้ แล้วเคลื่อนออกไปทะเลอันดามัน ในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคม 2563 ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ฝนตกหนักบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “การเตรียมพร้อมรับมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สถานการณ์ไม่รุนแรงมากไปกว่าที่จะเป็น ทั้งนี้ ตนได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ภาคใต้ได้เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานทั้งเครื่องสูบน้ำ รถประกอบอาหาร จุดอพยพพี่น้องประชาชน เครื่องมือในการช่วยเหลือชีวิต เป็นต้น
และขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่างๆ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยให้บูรณาการการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกันให้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนถึงสภาพอากาศและสถานการณ์พายุอย่างเนื่องเพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินต่อไป”
นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดเพื่อเตรียมแผนรองรับสถานการณ์กรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยให้ทำการค้นหาบุคคลในพื้นที่ที่มีความเกี่ยวข้องในการซื้อสินค้าตลาดสัตว์น้ำในจังหวัดสมุทรสาครที่มีการปนเปื้อนและกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด
พร้อมกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งตรวจสถานประกอบการทุกแห่งในพื้นที่ที่มีการจ้างแรงงานชาวเมียนมาร์ ทำการตรวจคัดกรองโรคกับแรงงานทุกคน และตรวจหาเชื้อโดยการสุ่มตรวจตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในกรณีพบผู้ติดเชื้อให้รีบดำเนินการตามมาตรการที่ราชการกำหนด และหากมีการแจ้งแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เด็ดขาด พร้อมเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านกระบวนการคัดกรองโรคติดต่ออีกด้วย
“พร้อมฝากผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ถึงความปลอดภัยประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้บูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่กำชับแผนการออกเยี่ยมจุดตรวจต่าง ๆ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ได้ให้แนวทางไว้ด้วย จึงอยากให้ทุกคนได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เมาไม่ขับ ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ และไม่ขับเร็วเกินกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอความร่วมมือให้ขับรถอย่างมีน้ำใจ และมีวินัยจราจร เพื่อให้เทศกาลปีใหม่นี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทย” นายนิพนธ์กล่าว