ครบเครื่องเรื่องรอบรู้เกี่ยวกับไทรอยด์

ต่อมไทรอยด์ ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย โดยจะอยู่บริเวณกลางลำคอใต้ลูกกระเดือก ทางด้านหน้าของลำคอ โดยทั่วไปจะแบ่งเป็นต่อมที่อยู่ข้างขวาและข้างซ้ายและจะมีแนวเชื่อมกันตรงกลางบริเวณหน้าหลอดลม ต่อมไทรอยด์ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยในการควบคุมระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยร่างกายจะสามารถผลิตฮอร์โมนได้จากการสั่งงานจากสมอง ซึ่งสมองจะหลั่งฮอร์โมนมาควบคุมต่อมไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงร่างกายต้องมีสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ คือ สารไอโอดีน ในปริมาณที่เพียงพอจึงจะทำงานได้ปกติ

ความผิดปกติที่สามารถเกิดได้ที่ต่อมไทรอยด์ แบ่งเป็น อย่างหลัก ๆ คือ ความผิดปกติที่ฮอร์โมน และความผิดปกติที่บริเวณโครงสร้าง เช่น การเกิดเนื้องอกขึ้นในต่อมไทรอยด์ ซึ่งความผิดปกติที่ฮอร์โมนอาจพบร่วมกับการเกิดเนื้องอกขึ้นในต่อมไทรอยด์ได้  โดยความผิดปกติที่ฮอร์โมนอาจจะเกิดจากต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไปหรือภาวะไทรอยด์เป็นพิษ และการผลิตฮอร์โมนที่น้อยเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากตัวต่อมไทรอยด์เองหรือส่วนของสมองที่ควบคุม  การรักษาในกลุ่มนี้จะมีเป้าหมายเพื่อทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์กลับมาปกติ โดยทั่วไปจะรักษาด้วยการให้ยา อาจจะมีผู้ป่วยบางรายที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการกลืนแร่ และการผ่าตัด

ส่วนความผิดปกติที่บริเวณโครงสร้างและการมีเนื้องอกขึ้นมาในต่อมไทรอยด์ ในอดีตนั้นเกิดจากประชาชนประสบปัญหาการขาดสารไอโอดีน จึงมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่มีปัญหาต่อมไทรอยด์โตที่นิยมเรียกโดยทั่วไปว่า “โรคคอพอก”  ซึ่งในกลุ่มนี้พอได้รับยารักษา ก้อนก็จะยุบลง  แต่ในปัจจุบันการขาดสารไอโอดีนพบได้น้อยมาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมาด้วยก้อนเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ที่ไม่ค่อยตอบสนองกับการได้รับยา เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์จะได้รับการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ และการเจาะตรวจเซลล์บริเวณเนื้องอกไปตรวจ เมื่อได้ผล แพทย์จะประเมินจากผลตรวจ และแจ้งแนวทางการรักษา ซึ่งการรักษาเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ จะแบ่งเป็นการติดตามอาการที่ผิดปกติ ขนาดก้อน การเจาะตรวจเซลล์บริเวณเนื้องอก และการผ่าตัด   

การผ่าตัดในต่อมไทรอยด์จะทำต่อเมื่อมีข้อบ่งชี้ คือ ก้อนที่มีขนาดโตจนมีการกดเบียดอวัยวะข้างเคียงเช่น หลอดอาหารและหลอดลม ทำให้เกิดอาการกลืนลำบากหรือหายใจเหนื่อย,  ก้อนที่มีลักษณะที่สงสัยว่าจะเป็นกลุ่มมะเร็ง และก้อนที่ผู้ป่วยต้องการที่จะผ่าตัดเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ความสวยงาม เป็นต้น โดยการผ่าตัดจะมีความเสี่ยงที่สำคัญ แม้โอกาสเกิดขึ้นได้น้อย คือเสียงแหบจากการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงเส้นเสียง ซึ่งอยู่บริเวณใต้ต่อต่อมไทรอยด์ ทั้งนี้ผู้ป่วยควรสอบถามรายละเอียดความเสี่ยงต่าง ๆ จากการผ่าตัดกับแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าตัดเป็นรายบุคคล

การผ่าตัดโดยทั่วไปสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดแบบเปิด โดยผู้ป่วยจะมีแผลบริเวณตรงกลางคอประมาณ ถึง นิ้ว  และการผ่าตัดส่องกล้อง ซึ่งมีทางเข้าบริเวณอื่นทำให้ไม่เกิดแผลเป็นที่คอ ทั้งนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องสอบถามรายละเอียดเป็นรายบุคคลกับแพทย์ที่ทำการผ่าตัด

ในปัจจุบัน จะพบผู้ป่วยที่ตรวจพบเนื้องอกในต่อมไทรอยด์ที่มีขนาดโต ประเภทที่ตรวจพิสูจน์แล้วว่าไม่พบลักษณะมะเร็ง ทั้งจากการตรวจอัลตราซาวด์และการเจาะตรวจเซลล์บริเวณเนื้องอก ซึ่งในผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีทางเลือกในการรักษาทางใหม่  นอกจากการผ่าตัด คือการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง (High Intensity Focus Ultrasound: HIFU) ส่งคลื่นความร้อนผ่านบริเวณผิวหนังเข้าไปทำให้ก้อนบริเวณเนื้องอกเกิดการยุบตัว ลดขนาดของเนื้องอกลงได้ ประมาณ 20 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์


อย่างไรก็ตาม อาจมีรายละเอียดอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้น ผู้ป่วยจึงควรสอบถามข้อมูลอีกครั้งกับแพทย์ผู้ทำการรักษา  ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่  19  ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 -12.00 น. ณ  ชั้น 1 แกรนด์ฮอล์ โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี จะมีการจัดงานเสวนาเรื่อง ครบเครื่องเรื่องรอบรู้เกี่ยวกับไทรอยด์ 

พร้อมเปิดตัวทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและแนะนำบริการใหม่ของศูนย์รักษาไทรอยด์สมัยใหม่ ประกอบด้วย อ.นพ.บุญสาม รุ่งภูวภัทร และ อ.นพ.พนัส บิณศิรวานิช  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และ นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี 

ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน ในด้านพัฒนาและส่งเสริมความรู้ความร่วมมือทางการแพทย์ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมงาน พร้อมกับการตรวจคัดกรองไทรอยด์พร้อมรับของที่ระลึก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ 

สนใจเข้าร่วมงาน ลงทะเบียนได้ที่ โทรศัพท์ 0-2438-9000 หรือ กรอกข้อมูลเข้าร่วมงาน ที่ https://forms.gle/Jc3d4XnfGxigtXgz8 (รับจำนวนจำกัด)  หรือหากไม่สะดวกมาร่วมงาน รับชมการถ่ายทอดสดผ่าน เฟซบุ๊กส์ ที่ www.facebook.com/SamitivejThonburiHospital

อ.นพ.บุญสาม รุ่งภูวภัทร
อ.นพ.พนัส บิณศิรวานิช 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา
คณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี
Written By
More from pp
ธนาคารโลก ประเมินผล MEA พุ่ง บริการขอไฟฉับไวอันดับ 6 โลก ชูความยากง่ายประกอบธุรกิจไทย เพิ่มขึ้น 6 อันดับ รั้งที่ 21 Doing Business 2020
วันนี้ (25 ตุลาคม 2562) นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยผล การจัดอันดับความยาก–ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 2020) ในการประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (Teleconference) จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งที่ MEA สามารถรักษาตำแหน่งความสะดวกด้านการขอใช้ไฟฟ้าที่รวดเร็วเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ช่วยยกระดับความยาก–ง่ายในการประกอบธุรกิจประเทศไทยเป็นอันดับที่ 21 ของโลก เลื่อนขึ้นถึง 6 อันดับจากปีที่ผ่านมา โดยมีนายกฤษฎา ตันศิริเสริญกุล ผู้ตรวจการ MEA เป็นผู้แทนผู้ว่าการในการรับฟังผลครั้งนี้ ณ ห้องประชุมสำนักงานธนาคารโลกประจำประเทศไทย อาคารสยามพิวรรธน์ถ.พระราม 1 กรุงเทพฯ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า MEA เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนวิสัยทัศน์พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ที่ให้บริการด้านจำหน่ายไฟฟ้าองค์กรเดียวของประเทศไทยที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมรับการประเมินความสะดวกด้านการขอใช้ไฟฟ้าในการจัดอันดับจากธนาคารโลก (World Bank) ที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) จาก 190 ประเทศทั่วโลก ผลการจัดอันดับประจำปี พ.ศ. 2563 พบว่า ความสะดวกด้านการขอใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยพัฒนารวดเร็วโดดเด่นขึ้นอย่างมาก โดยคะแนนการประเมินเพิ่มจาก 98.57 เมื่อปี พ.ศ. 2562 มาเป็น 98.70 ในปี พ.ศ. 2563 รักษาตำแหน่งเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งผลคะแนนดังกล่าว เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยยกระดับภาพรวมความยาก–ง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 27 ของปี 2562 เป็นอันดับที่ 21 ของโลก ถือเป็นการเลื่อนขึ้นถึง 6 อันดับ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คะแนนการประเมิน Doing...
Read More
0 replies on “ครบเครื่องเรื่องรอบรู้เกี่ยวกับไทรอยด์”