เปลว สีเงิน
“โควิด” ก็เหอะ จ๋อยเป็นเหมือนกัน!
เมื่อเจอ “ฮามาส-ปาเลสไตน์” กับ “อิสราเอล-ยิว” ถล่มใส่กันแหลก
แต่รบกันทีไร…..
แผ่นดินดึกดำบรรพ์ ที่ UN แบ่งให้ปาเลสไตน์ครึ่งกับยิวครึ่ง มี “เยรูซาเล็ม” เป็นสมบัติกลาง หลังสงครามโลกครั้่งที่ ๒
ปาเลสไตน์ ไ ม่เคยชนะอิสราเอลเลยซักครั้ง
เพราะไม่ชนะ จึงถูก “กินแดน” ไปทีละนิด-ทีละหน่อย ทั้งด้านเวสต์แบงก์และด้านฉนวนกาซา
จนขณะนี้….
อิสราเอลเข้าไปยึดครอง “เยรูซาเล็ม” ทางพฤตินัยไปแล้ว ท่ามกลางความไม่ยินยอมของปาเลสไตน์ !
เรื่องของ “ยิว-อิสลาม” ในดินแดนตรงนี้ มันหลายซับ-หลายซ้อน ก่อนคริสตกาลเป็นพันปี กับคำถามที่ว่า แล้วจะจบลงตรงไหน?
“พระเจ้าตอบไว้แล้วในพระคัมภีร์ไบเบิล”!
ยิวนั้น โทษฐานไปกราบไหว้ศาสดาศาสนาอื่น แถมจับพระเยซู “พระบุตรของพระองค์” ไปตรึงไม้กางเขน
จึงถูกสาปให้ “สิ้นชาติ-สิ้นแผ่นดิน” ผู้คนถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยศึก ณ ครั้งอดีตกาล
อิสราเอลจะ “กู้ชาติ-กู้แผ่นดิน” ที่กลายเป็น “สมบัติผลัดกันครอง” ของเจ้าอาณาจักรต่างๆ กลับคืนมาเหมือนเดิมได้หรือไม่?
ก็ไปแกะ “พระคัมภีร์” อ่านกันเอง มีคำพยากรณ์ถึงกาลสิ้นคำสาป รวมถึงอนาคต “นครเยรูซาเล็ม” ด้วย
ในความเห็นผม “สันติภาพ” ไม่ใช่คำตอบ”
“สงคราม” แตกหัก คือคำตอบ
มีนคร “เยรูซาเล็ม” ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ ๑ ใน ๓ ของอิสลาม เป็นเดิมพัน
-นครเมกกะ สถานที่กำเนิดพระศาสดามะหะหมัด
-เมดินา เมืองที่พระศาสดาก่อตั้งศาสนาอิสลาม
-นครยูซาเล็ม สถานที่ชาวมุสลิมเชื่อว่า พระศาสดาขี่ม้าขึ้นไปหาพระอัลเลาะห์บนสวรรค์ จึงสร้างสุเหร่าไว้ที่นี่
ตอนนี้ ถล่มกันตุงไป-ตุงมา ปาเลสไตน์ “ตายแหลก” ไม่ว่าเด็ก-ผู้ใหญ่
แต่บรรดาจ้าวประชาธิปไตยโลก สหรัฐ-ยุโรป-ญี่ปุ่น ทั้งสื่อค่าย “ประชาธิปไตยกินได้” ได้แต่อู้อี้เหมือนอมสาก!
ผิดกับที่พม่า…….
ทั้งสหรัฐ-ยุโรป-ญี่ปุ่น รวมทั้ง UN ลูกกระเป๋งนาโตอเมริกัน-ยุโรป
แถลงการณ์ประณามรัฐบาลทหารพม่าเป็นรายวัน พวกสื่อลูกกระเป๋งก็สวมแว่นประชาธิปไตย “หอนหลอนโลก”
คอยตามดูละกัน……..
ถ้าวันไหน เห็น รัสเซีย เยอรมัน ร่วมอิหร่าน หนุนปาเลสไตนส์เล่นสงกรานต์กับอิสราเอล ที่สหรัฐ-ยุโรป แบ็คอยู่เต็มสูบละก็
ได้เล่นหุ้น “สงครามโลก” กันละตอนนั้น!
นั่นก็ เรื่องของเขา..เนอะ
มาเรื่องของเราดีกว่า เข้าสู่ช่วง “วันสุกดิบ” ก่อนถึง “วันลงเข็ม” จาก ๑ มิถุนายน เป็นต้นไป
“แอสตร้า เซนเนก้า” ฉีดทั่วหล้า อย่าลืม!
ก่อนที่ “แอสตร้า เซนเนก้า” เป็นหุ้นส่วนชีวิต เรามานับญาติกันหน่อยปะไร จะได้เข้าใจความเป็นมาเซนเนก้าดีขึ้น
ขออนุญาต คุณ “มาศโมฬี จิตวิริยธรรม” นำโพสต์ของท่านเผยแพร่ต่อนะครับ
มาศโมฬี จิตวิริยธรรม
วัคซีน แอสตร้า เซนเนก้า : เมดอินไทยแลนด์
1.ตัวอย่างวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า ที่ผลิตจาก สยามไบโอไซเอนซ์ ได้ส่งไปทดสอบในห้องแล็บปฎิบัติการสำนักงานใหญ่ของแอสตร้าเซนเนก้า ที่ อิตาลี และ อังกฤษ และผ่านการทดสอบ และสยามไบโอไซเอนซ์สามารถทำการผลิตได้แล้ว
2.ในทันที ผู้บริหารระดับสูง UN ในไทย และ ผู้บริหารระดับสูง WHO ในไทย ได้เข้าพบ รมว.สาธารณสุข คุณอนุทิน ชาญวีระกูล
เพื่อขอให้ทางไทยจัดวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า เพื่อนำไปฉีดให้เจ้าหน้าที่ ที่ทำงานในองค์กรทั้งสองประจำประเทศไทย จำนวน 2 ล็อต
a. ล็อตแรก 6,000 โดส
b. ล็อตสอง 2,000 โดส
3. บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด (Siam Bioscience Co., Ltd.: SBS) : บริษัทก่อตั้งโดยความร่วมมือระหว่าง บริษัททุนลดาวัลย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และมหาวิทยาลัยมหิดล
a.โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาให้ประเทศไทยมีศักยภาพทางอุตสาหกรรมยาอย่างครบวงจรและยั่งยืน ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา จนเข้าสู่กระบวนการผลิตให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่พร้อมใช้ในการบำบัดรักษาโรค
b.บริษัทฯก่อตั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 โดยมีทุนจดทะเบียน 1,300 ล้านบาท
4.ผู้นำประเทศที่ฉีดวัคซีน แอสตร้า เซนเนก้า
a. ปธน.เกาหลีใต้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดโดส 2 ของแอสตร้าเซนเนก้า
b. วัคซีนโควิด: พล.อ. ประยุทธ์รับวัคซีนเข็มแรกของแอสตร้าเซนเนก้า
c. ผู้นำอังกฤษฉีดวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้า
d. นายกฯ เยอรมนีลั่น! พร้อมฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ
e. ฝรั่งเศสถ่ายทอดสด นายกฯฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า”
f. นายกฯ อังกฤษ ฉีดวัคซีนโควิด ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ แล้ว
5. ด้วยสายพระเนตรยาวไกล แม้ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ได้เสด็จสู่สรวงสวรรค์ ประชาชนชาวไทยทั้งผอง ยังได้พึ่งในพระบารมี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และคงอีกไม่นาน วัคซีน “แอสตร้า เซนเนก้า” จะได้แบ่งปันแก่ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน
6. ผมภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดิน รัชกาลที่ 9 “ธ ทรงสถิตในดวงใจนิรันดร์”
นายวินธชา ศิริทวีสุข
9 พฤษภาคม 2564
#คนไทยต้องรู้!
เรื่องที่คนไทยต้องรู้เกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า
๑.ใครเป็นเจ้าของวัคซีนแอสตร้า เซนเนก้า??
-ผู้เป็นเจ้าของโดยแท้จริงคือ “บริษัท แอสตร้า เซนเนก้า” ผู้ผลิตยาชั้นนำของโลก ที่ประเทศอังกฤษ เป็นผู้ถือสิทธิบัตรในการสั่งผลิตและจัดจำหน่าย #ใครจะผลิตตามใจตัวเองไม่ได้
๒.ใครเป็นคนเลือกสยามไบโอฯ ในไทยให้เป็นผู้ผลิต??
-แอสตร้า เป็นผู้เลือกโรงงานผลิตทั่วโลก และเป็นผู้สั่งผลิต กำหนดราคา / จำนวนการผลิต /กำหนดมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก…. โดยหวังจะกระจายการผลิตเพื่อช่วยให้คนทั่วโลกเข้าถึงวัคซีน
๓.สยามไบโอไซเอนซ์คือ?
-สยามไบโอฯ เป็นบริษัทที่ตั้งโดยในหลวง ร.9 เพื่อเป็นผู้ผลิตยาชีววัตถุ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้รับมาตรฐานระดับสากล
ทำให้ประเทศไทยลดการพึ่งพายาจากต่างชาติ เกิดความมั่นคงด้านยาในประเทศและทำให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงยาในราคาที่ถูกลง #คนไทยต้องภูมิใจ
๔.บทบาทของ Siam Bioscience คืออะไร?
-ทำหน้าที่รับจ้างผลิต (เท่านั้น) และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ที่มี 20+ แห่งทั่วโลก โดยแอสตร้า ได้เลือกสยามไบโอเป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประเทศไทย และอีก 8 ประเทศในอาเซียน #สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ทั้งในไทยและอาเซียน
๕.ทำไม Siam Bioscience จึงถูกเลือก?
-แอสตร้า เซนเนก้าใช้เทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนขั้นสูงใกล้เคียงกับ เทคโนโลยีที่สยามไบโอใช้ในปัจจุบัน + โรงงานได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล + มีศักยภาพที่จะรองรับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิดได้ทุกขั้นตอน + เป็นโรงงานทีใช้เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
#หนึ่งเดียวในไทยที่มีความพร้อม
๖.Siam Bioscience รับทำวัคซีนหวังผลกำไรหรือไม่?
-สยามไบโอ ผลิตวัคซีนในช่วงมีการระบาดโดยยึดนโยบาย no profit, no loss ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกันกับของแอสตร้า
#ขาดทุนมานับสิบปี แต่ช่วยชีวิตคนได้ก็ถือว่าคุ้มค่า
๗.ระยะเวลาในการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19..?
-สยามไบโอ ทำตามขั้นตอนการว่าจ้างและตามกรอบระยะเวลาอย่างเคร่งครัดในฐานะ “ผู้รับจ้างผลิต” ให้แอสตร้า ปัจจุบันทุกขั้นตอนเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด เมื่อส่งมอบวัคซีนให้แอสตร้าแล้ว ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำงาน ก่อนที่แอสตร้าจะส่งมอบวัคซีนให้กับรัฐบาลไทยในเดือนมิถุนายน ตามข้อตกลงของรัฐบาลและแอสตร้า
๘.คุณภาพของวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์?
-ปัจจุบัน วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการในยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว และอย.ของไทยแล้ว การตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของวัคซีน เป็นไปตามมาตรฐานของแอสตร้าเซนเนก้า ที่กำหนดให้ผู้ผลิตจากทั่วโลกอยู่ในคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน #เทียบเท่ามาตรฐานของทั่วโลก
๙.ใครเป็นผู้กำหนดจำนวนการผลิต?
-สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นเพียงโรงงานที่รับจ้างผลิต ตามคำสั่งของแอสตร้าเซนเนก้า ในฐานะเจ้าของสิทธิบัตร ดังนั้น จำนวนการผลิตขึ้นอยู่กับแอสตร้าเป็นผู้สั่ง ส่วนประเทศไทย จะสั่งซื้อจำนวนเท่าไหร่นั้น รัฐบาลไทยเป็นผู้ตัดสินใจสั่งซื้อจากแอสตร้า
๑๐.การส่งมอบวัคซีน?
-การส่งมอบวัคซีนเป็นเรื่องระหว่างแอสตร้ากับรัฐบาลไทยตามที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ ทั้งในเรื่องของจำนวนและระยะเวลาการส่งมอบ สยามไบโอฯไม่มีส่วนกับการสั่งซื้อและการกระจายวัคซีน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
เรื่องเหล่านี้ คนไทยต้องรู้ และต้องภูมิใจที่ประเทศเรามีโรงงานที่สามารถผลิตวัคซีนเองได้ เทียบเท่ามาตรฐานระดับโลก
อย่ามัวแต่สนใจเรื่องไร้สาระ ช่วยกันทำให้คนไทยผ่านวิกฤตครั้งนี้ ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เหมือนที่อังกฤษและหลายประเทศสำเร็จมาแล้ว
-สายข่าวสุขภาพ
……………………………….
จบครับ!