“คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 22  “มือที่สร้าง งานที่สรรค์”

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยสองพระราชหัตถ์ที่ทรงสร้างเพื่อประโยชน์สุข ของชาวไทยภูเขาจากยอดดอยอย่างยั่งยืน

ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยทรงงานด้วยสองพระหัตถ์ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความสุขให้ปวงชนชาวไทยตลอดพระชนม์ชีพ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพในปี 2562 นี้ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด  ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดนิทรรศการ “คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 22 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “มือที่สร้าง งานที่สรรค์” ระหว่างวันที่ 18-27 ตุลาคม 2562 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานเปิดงาน ในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2562 เวลา 17.30 น.

ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เลขาธิการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการจัดนิทรรศการ “คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 22 ว่า “ในความทรงจำของพสกนิกรไทยทุกคนต่างซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงงานเพื่อประโยชน์สุขให้กับผืนแผ่นดินอย่างมากมาย ทั้งสองพระหัตถ์ทรงงานอย่างหนักด้วยความห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎรไทยอยู่เสมอ เสมือนดั่งมือที่คอยช่วยเหลืออุ้มชู ประคองให้สามารถพลิกฟื้นผืนดินให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ ประชาชนสามารถเลี้ยงดูตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน

สำหรับนิทรรศการครั้งนี้นอกเหนือจากการนำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันของผืนแผ่นดินในภาคเหนือและดอยตุงแล้ว ยังเชิญศิลปินช่างภาพถ่ายรูปมือของคนทำงานที่ดอยตุง เช่น คนปลูกกาแฟ คนคั่วกาแฟ คนทำกระดาษสา คนปั้นดิน คนปลูกดอกไม้ คนทำสวน คนทอผ้า และปักผ้า โดยไม่เน้นหน้าของคนทำงาน แต่เน้นที่มือ สื่อให้เห็นว่าจากมือของสมเด็จย่าที่ช่วยเหลือประชาชน ทำให้ประชาชนมีอาชีพ สร้างรายได้ และใช้มือนี้สานต่องานที่พระองค์ท่านได้เริ่มไว้ สร้างสรรค์เป็นงานและอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน”

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “สมเด็จย่า ทรงมีพระราชปณิธานที่จะสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้านให้ชุมชนดอยตุง ซึ่งในอดีตขาดต้นทุนชีวิต จึงต้องพึ่งพายาเสพติดและงานผิดกฎหมายในการดำรงชีวิต ทรงเล็งเห็นว่ารากเหง้าของปัญหาเหล่านี้ คือ ความยากจน และขาดโอกาสจึงแก้ไขปัญหาพื้นฐานอย่างรอบด้าน ทั้ง “ความเจ็บป่วย ความยากจน และความไม่รู้” โดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจที่สมดุลกับความมั่นคงทางสังคม และความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ โดยใช้ธุรกิจเพื่อสังคมภายใต้แบรนด์ ดอยตุง(DoiTung) เป็นกลไกหลักในการดำเนินงาน และกรอบแนวคิดการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน หรือ 3S Model” (สามเอส โมเดล) เป็นแกนหลักในการดำเนินงาน ซึ่งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เรียนรู้และประยุกต์จากหลักการทรงงานและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ ได้แก่ อยู่รอด พอเพียง และยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องอย่างยิ่งกับ “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (SDG Goals) ของสหประชาชาติ

ปัจจุบัน โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ซึ่งเกิดจากสองพระหัตถ์ของสมเด็จย่า จึงไม่ใช่เพียงต้นแบบด้านการแก้ไขปัญหาการปลูกพืชเสพติดเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืนให้หลายประเทศ ทั้ง เมียนมา อัฟกานิสถาน และอินโดนีเซีย และยังมีคณะศึกษาดูงานเดินทางมาที่ดอยตุงมากมายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาเรียนรู้และนำกลับไปประยุกต์กับบริบทของเขา และที่สำคัญมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ยังใช้ศักยภาพที่มีส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจเพื่อสังคมอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จย่าอีกทางหนึ่ง”

นิทรรศการ “คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 22 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “มือที่สร้าง งานที่สรรค์” นำเสนอพระราชประวัติตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็น “เด็กหญิงสังวาลย์” ไล่เรียงมาจนถึง “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” และเรื่องราว      พระราชกรณียกิจ โครงการในพระราชดำริที่ช่วยให้วิถีชีวิตของของกลุ่มชาติพันธุ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยพระราชปณิธาน “ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง” โดยทรงจัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมผลผลิตชาวเขาไทย ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระศรี         นครินทราบรมราชชนนี เมื่อปีพ.ศ.2515 กระทั่งเปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ” ในปัจจุบัน

ภายในงานยังจะได้พบกับภาพถ่ายเล่าเรื่องราวของดอยตุงด้วยคอนเซ็ปต์ “มือที่สร้าง งานที่สรรค์” ผ่านมุมมองของศิลปิน 2 ท่าน ได้แก่ กันต์ สุสังกรกาญจน์ และ วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อป “เวลาเป็นของมีค่า” ยกบรรยากาศงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงมาจำลองไว้ในงาน ได้แก่ เวิร์คช็อปการชงกาแฟดริป และเทคนิค  การวาดฟองโฟม (ไม่มีค่าใช้จ่าย) วันจันทร์-ศุกร์ 2 รอบ ได้แก่ เวลา 17.00น. และ 19.00น. วันเสาร์อาทิตย์ 3 รอบ ได้แก่ 11.00น., 15.00น. และ 17.00น. กิจกรรมเวิร์คช็อปวาดลวดลาย ตกแต่งจานเซรามิค (มีค่าวัสดุอุปกรณ์) แบ่งเป็น 3 รอบ ได้แก่ 12.00น.,15.00น. และ18.00น. กิจกรรมศิลปะ (มีค่าวัสดุอุปกรณ์) แบ่งเป็น ศิลปะบนถุงผ้า เพ้นท์หรือปัก/ศิลปะบนกระดาษสา เพ้นท์หรือตกแต่งด้วยดอกไม้แห้ง/ศิลปะการทำตุงหรืองานถักร้อย แบ่งเป็น 4 รอบ ได้แก่ 11.00น., 13.00น., 16.00น. และ 19.00น. และกิจกรรมจัดต้นไม้ในแก้วและสวนถาด (มีค่าวัสดุอุปกรณ์) แบ่งเป็น 4 รอบ ได้แก่ 11.00น., 14.00น., 17.00น. และ 20.00น.

พร้อมด้วยการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพแบรนด์ดอยตุง โดยฝีมือคนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จังหวัดเชียงราย อาทิ หัตถกรรมแบรนด์ Doi Tung Lifestyle และ Doi Tung Café กับกาแฟอาราบิก้า 100% คุณภาพพรีเมี่ยม รวมทั้งร้านต้นไม้ดอยตุง ที่นำต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่เพาะเลี้ยงจากศูนย์เพาะเลี้ยงต้นไม้ที่ ดอยตุง จ.เชียงราย มาร่วมจำหน่าย

พบกับนิทรรศการ “คิดถึง..สมเด็จย่า” ครั้งที่ 22 ภายใต้เรื่องราว “มือที่สร้าง งานที่สรรค์” ร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงสร้างงาน พระราชทานความช่วยเหลือเพื่อประโยชน์สุขอย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปสุดสร้างสรรค์ด้วยกลิ่นอายของบรรยากาศงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้ ระหว่างวันที่   18 – 27 ตุลาคม 2562 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

Written By
More from pp
การรถไฟฯ จับมือ ราชภัฎลำปาง จัดขบวนรถไฟนำเที่ยวพิเศษ Lanna Modernization Railroad Travel พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟและย่านเมืองเก่า ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ พร้อมบริการอาหารแบบ Luxury
การรถไฟฯ จับมือ ราชภัฎลำปาง จัดขบวนรถไฟนำเที่ยวพิเศษ Lanna Modernization Railroad Travel พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟและย่านเมืองเก่า ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่...
Read More
0 replies on ““คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 22  “มือที่สร้าง งานที่สรรค์””