21 พ.ค.63- นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักเรียนออกมาแสดงความคิดเห็นทางด้านการศึกษา และมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
คือ หยุดคุกคามนักเรียน, ยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าหลัง และปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งการปฏิรูปการศึกษาคงเป็นโจทย์ที่ยากที่สุด สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการท่านนี้
เพราะมีความคิดล้าหลัง ไม่สนใจการกระจายอำนาจ ไม่ให้อิสระในการดำเนินนโยบายเพราะโรงเรียนแต่ละพื้นที่มีบริบทที่ต่างกัน จนกลุ่มนักเรียนทนไม่ไหวต้องออกมาเรียกร้องให้แก้ปัญหาต่างๆ
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องที่ทำได้ทันที คือ หยุดคุกคามนักเรียนในการแสดงออก โรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการต้องปกป้องคุ้มครองการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพของนักเรียน ซึ่งไม่มีครูคนไหน อยากให้ทหารตำรวจเข้ามาแทรกแซงในโรงเรียน เพียงเพราะต้องการรักษาอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
นายวันนิวัติ กล่าวว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศมา 6-7 ปี แทนที่จะปฏิรูปการศึกษาให้ดีขึ้น แต่กลับปฏิรูปให้ถอยหลังลงคลอง สมควรแล้วที่กลุ่มนักเรียนเปรียบเทียบเป็นยุคไดโนเสาร์
ทั้งนี้ การโหวตไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ยิ่งตอกย้ำความยึดมั่นในระบบอำนาจนิยม และได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เลยไม่คิดจะแก้ไขให้ดีขึ้น
นายวันนิวัติ กล่าวต่อว่า จากการไปสังเกตการณ์การชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา เราเห็นความกล้าในเยาวชน ที่ออกมาเรียกร้องอนาคตให้ตัวเอง เห็นองค์ความรู้ในการออกมาแสดงความคิดเห็น ซึ่งเยาวชนยุคนี้ฉลาดมาก เขามีความรู้ในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งปัญหาคือระบบการศึกษาถูกกดทับด้วยอำนาจนิยม
“จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เสียสละลาออก เพื่อลดความขัดแย้งในสังคม อย่ายึดติดแก่อำนาจ จนไม่เหลียวแลอนาคตของชาติ ซึ่งการออกหมายจับนักเรียนมัธยมเป็นความอัปยศที่สุดของระบบการศึกษาในยุคนี้ และยังซ้ำเติมสถานการณ์ให้รุนแรงยิ่งขึ้น” นายวันนิวัติ กล่าว