26 ตุลาคม 2563 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ระหว่าง 26-27 ตุลาคม 2563 ว่า เวทีรัฐสภาควรเป็นเวทีแก้ปัญหาให้กับประชาชน และหาทางออกให้กับประเทศ ไม่ใช่หาทางออกให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
รัฐบาลอย่าใช้ญัตตินี้มาขอความชอบธรรม เพื่อที่จะอยู่ในอำนาจต่อ โดยการกล่าวหาบุคคลอื่นหรือฝ่ายอื่นว่าเป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งข้อเท็จจริงของปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน สามารถขอความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาได้
หากนายกรัฐมนตรี, ครม. และรัฐบาลชุดนี้ มีความจริงใจต่อเวทีรัฐสภาแล้ว ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นลุกลามบานปลายมาถึงปัจจุบันนี้ ทั้งที่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ฝ่ายนิติบัญญัติได้มีข้อเสนอมากมาย ไม่ว่าจะเป็นญัตติ หรือกระทู้ การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ไว้วางใจ การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ แต่รัฐบาลไม่เคยนำไปสู่การปฏิบัติ ทำให้การถ่วงดุล 3 อำนาจ ทั้งฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ สูญเสียไป
ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะร่วมกันฟื้นวิกฤติศรัทธาของรัฐสภา หวังว่าข้อเสนอในวันนี้ คณะรัฐมนตรีจะนำไปสู่การปฏิบัติ ทั้งนี้สิ่งที่เป็นมูลเหตุและรากเหง้าของปัญหาเกิดจากการเข้าสู่อำนาจของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เป็น คสช. ที่ต้องการจะสืบทอดอำนาจโดยการจัดทำรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ
พล.อ.ประยุทธ์ บริหารราชการแผ่นดินมากว่า 6 ปี หากบริหารดี คงไม่มีการชุมนุม และสิ่งที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องยังไม่ได้รับการตอบสนอง ข้อเรียกร้องจึงขยายความไปเรื่อยๆ จนมาถึงในปัจจุบัน
ดังนั้น จึงขอเสนอทางออกจากปัญหาในตอนนี้ คือ 1. ต้องปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทันที ส่วนที่กำลังสั่งฟ้อง อัยการต้องสั่งไม่ฟ้อง เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ยกเลิกไปแล้ว ไม่มีกฎหมายใดเอาผิดได้ 2. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง
3. กรณีการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม จะต้องมีการตรวจสอบว่ากระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ 4. การทำประชามติต้องไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งการทำประชามติว่าเห็นด้วยกับการชุมนุมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน และ 5. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน