23 ต.ค.63 นายอรรถพร บัวฝ้าย นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการชุดเหยี่ยวดง รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค.63 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับการประสานข้อมูลจากหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม และตามข้อมูลที่ได้ทำการสืบสวนกรณีการประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และจำพวกนกหลายชนิด ผ่านทางเฟซบุ๊ก คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อขอซื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดแมวดาว จำนวน 1 ตัว ในราคา 6,000 บาท โดยได้โอนเงินมัดจำเป็นจำนวน 3,000 บาท และติดต่อนัดหมายเพื่อรับส่งแมวดาวในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา
กระทั่งเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 ต.ค.63 เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้ให้สายลับนัดหมายรับสัตว์ป่าคุ้มครอง บริเวณภายในปั้มน้ำมัน แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
เมื่อถึงเวลานัดหมายพบชายทราบชื่อภายหลังคือนายเอ (นามสมมติ) ถือกล่องพลาสติกเจาะรูบายอากาศ ปิดฝามิดชิด สายลับจึงให้นายเอ เปิดกล่องดังกล่าว พบว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดแมวดาว จึงได้จ่ายเงินส่วนที่เหลือจำนวน 3,000 บาท และส่งสัญญาณให้คณะเจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้าดูอยู่ตลอด เข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม พบสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดแมวดาว (ตัวเต็มวัย) จำนวน 1 ตัว สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกนก ชนิดนกขุนทอง จำนวน 2 ตัว (อยู่ภายในกล่องกระดาษที่นายเอนำติดตัวมา) และอุปกรณ์การกระทำผิด
ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเพิ่มเติมไปที่พักอาศัยของนายเอ ในชอยวัดจันทร์ใน แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร และเข้าดำเนินการตรวจสอบ พบสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกนก ชนิดนกกิ้งโครงคอดำ จำนวน 1 ตัว นกเอี้ยงหงอน จำนวน 1 ตัว
โดยพฤติการณ์ดังกล่าว ของนายเอ (นามสมมติ) กรณีค้า และครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และจำพวกนกหลายชนิดดังกล่าวข้างต้น โดยไม่มีหลักฐานการได้มาของทางราชการ มีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายเอ ผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และจำพวกนกดังกล่าวข้าวต้น (รวม 4 ชนิด 5 ตัว) และอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมอบให้พนัชกร โพธิบัณฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้กล่าวโทษ และนางสาวเนตรนภา งามเนตร นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ เป็นพยาน โดยสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางพร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ขออนุมัติพนักงานสอบสวนส่งมอบให้ ฝ่ายจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า รับไปดูแลและเก็บรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป