ผมประกอบอาชีพ “สื่อ” มาตั้งแต่ พ.ศ. 2510 นับมาถึงวันนี้ก็ตกครึ่งศตวรรษเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ คู่สร้างคู่สม ทั้ง 3 สื่อนี้ ก็จะต้องผูกพันเกี่ยวข้อง และพึ่งพา “สปอนเซอร์หรือสินค้า” ให้มาจ่ายเงินเพื่อลงโฆษณาสินค้าในสื่อที่ผมเป็นเจ้าของและดำเนินกิจการอยู่
แน่นอนที่สุด เจ้าของสื่อ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายหาโฆษณาของสื่อต่างๆ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเอาอกเอาใจ ประคบประหงมดูแลสินค้าหรือผู้ให้โฆษณายิ่งกว่าไข่ในหิน และจะต้องยกย่องชื่นชมยอมรับในคุณภาพของสินค้าที่มาลงโฆษณาในสื่อของเราเป็นอย่างดี
ก่อนอื่นขอฟันธงสรุปเสียก่อนว่า สื่อใด รายการใด และหนังสือพิมพ์นิตยสารใด ถ้าไม่มีสินค้ามาลงโฆษณาสื่อนั้นก็รอวันเจ๊งแน่นอน
ต่อมาวงการโฆษณาและสินค้าได้หันมาใช้ “มนุษย์คนดัง” มาเป็นสื่อโฆษณาสินค้า เช่น สินค้าประเภทเสื้อผ้ารองเท้า นาฬิกา หมวก กระเป๋า แว่นตา เป็นต้น โดยคัดเลือกคนมีชื่อเสียงระดับโลก เช่น นักกีฬา ดาราภาพยนตร์ หรือนักร้อง ให้มาใช้ หรือสวมใส่สินค้าของตน เพราะเมื่อคนดังเหล่านี้ ไปปรากฏตัวในสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ เสื้อผ้าอาภรณ์ ก็จะได้ไปปรากฏในสื่อ
ขอให้ท่านได้โปรดเข้าใจไว้เลยว่า ที่ท่านเห็นนักฟุตบอลก็ดี นักบาสเก็ตบอลก็ดี หรือนักกอล์ฟ รวมทั้งนักเทนนิส ผู้มีชื่อเสียงชั้นแนวหน้าใส่เสื้อใส่หมวก ใส่กางเกง ใส่รองเท้าลงแข่งกีฬานั้น พวกเขาจะได้รับค่าตัวที่เป็นนายแบบหรือนางแบบ หรือพรีเซนเตอร์จากสินค้าที่ปรากฏอยู่บนเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ ไม่ใช่เป็นเงินมูลค่าร้อย หรือสองร้อยล้าน แต่จะได้เป็นพันล้านบาทต่อปีถ้ายิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ราคาค่าเป็นพรีเซนเตอร์ก็จะยิ่งแพงทวีคูณ
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีนักเทนนิสระดับแนวหน้า ชื่อ Dominic Thiem นักเทนนิสหนุ่มชาวออสเตรีย ได้ใส่ชุดกีฬาเทนนิสของยี่ห้อดังของโลก ทั้งเสื้อ กางเกงและ “รองเท้า” ตลอดทุกครั้งที่ลงแข่งใน US Open เมื่อ 31 สิงหาคม ถึง 14 กันยายน ที่ผ่านมานี้เอง
เป็นที่รู้กันในหมู่แฟนเทนนิสระดับโลกว่านาย Dominic คนนี้ เป็นคนที่มีเหงื่อมาก ทุกครั้งที่ลงแข่งทั้งเสื้อ กางเกง และรองเท้าจะเปียกแฉะไปด้วยเหงื่อของเขา
การที่ตัวเองมีเหงื่อมากและเหงื่อไหลลงไปที่เท้าทั้งสองข้าง จึงทำให้รองเท้าทั้งคู่เปียกแฉะ และทำให้ “ลื่น” ซึ่งสร้างปัญหาอย่างใหญ่หลวงในการวิ่งไล่ตี หรือไล่รับลูกเทนนิส ดังนั้น เวลาลงแข่งขันในแต่ละครั้ง เขาจึงเตรียมรองเท้าสำรองมาด้วยครั้งละหลายๆ คู่
ในว้นแข่งรอบรองชนะเลิศ Dominic แข่งกับ Medvedev ชาวรัสเซีย ถึงแม้ว่าเขาจะชนะก็จริง แต่ในวันนั้น Dominic Thiem ได้ บังอาจทำในสิ่งที่ นักกีฬาหรือพรีเซนเตอร์ คนอื่นๆ ไม่มีใครจะกล้าทำกัน คือ Thiem ใด้ตะโกนตำหนิ รองเท้าผ้าใบที่เขาใส่ลงแข่งเสียงดังเป็นภาษาเยอรมัน ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษใด้ว่า What are these shoes ?
“นี่มันรองเท้าอะไร (วะ !)”
เบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้นักเทนนิสหนุ่มต้องตำหนิรองเท้าที่ใส่อยู่ ซึ่งเป็นผู้ให้ค่าสปอนเซอร์ก็เพราะว่าเค้าได้ลื่นมาแล้วถึง 7 ครั้ง สงสัยว่า “ลื่น” เพราะ รองเท้า หรือลื่นเพราะเหงื่อของเขามากเกินไป
ผมอยากรู้ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรออกมาจากทางบริษัทเจ้าของสินค้ากิฬาบริษัทนี้บ้าง แต่ที่แน่ๆ สินค้าคู่แข่งก็ได้ผลในทางบวกกับมูลค่าเพิ่มโดยไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่สุดท้าย Dominic Thiem ก็เป็นผู้ชนะเลิศ ได้ครองถ้วย US Open 2020ไปแล้ว
และเป็นแชมป์ Grandslam ในยุค Covid 19 ที่แข่งขันโดยมีแต่คนดูเฉพาะทางทีวีเท่านั้น และการกล้าโวยเชิงตำหนิสินค้าที่จ่ายเงินให้ตัวเองลั่นลำโพงทีวีทั่วโลกนั้น น่าจะถือว่าเป็น New Normal ก็ว่าได้