ที่ประชุม ศบศ. หรือศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วันนี้ เห็นชอบมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ และเพิ่มกำลังซื้อผู้มีรายได้น้อย – ประชาชนทั่วไป ประกอบด้วย
1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ 2) โครงการ “คนละครึ่ง”
1) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
• เพิ่มวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน (ต.ค. – ธ.ค. 63)
2) โครงการ “คนละครึ่ง”
• รัฐร่วมจ่าย (Co-pay) 50% จำนวนไม่เกิน 100 บาท/คน/วัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท/คน ตลอดระยะเวลาโครงการ สำหรับการจับจ่ายใช้สอยสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป (ไม่รวมล็อตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และการบริการ) ณ ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไปที่ไม่ใช่นิติบุคคล เช่น หาบเร่ แผงลอย และไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจแฟรนไชส์
• เป้าหมายผู้รับสิทธิ 10 ล้านคน โดยต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ และลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง .com
• เป้าหมายร้านค้า 100,000 ร้าน สมัครร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง .com หรือแจ้งผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย
• ระยะเวลาโครงการ ปลายเดือน ต.ค. – ธ.ค. 63
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่เห็นชอบอีก ได้แก่ เห็นชอบในหลักการข้อเสนอการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (Permanent resident permit) แนวทางการปรับปรุงมาตรการ Smart Visa เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการวิสาหกิจ
มาตรการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานระยะเวลา Credit term ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs และเห็นชอบให้ คกก. ขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ ภายใต้ ศบศ. เร่งผลักดัน ขับเคลื่อน และติดตามความก้าวหน้าโครงการที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ก่อสร้างทางรถไฟ ระบบขนส่งมวลชน ทางพิเศษ พัฒนาท่าเรือ ศูนย์การแพทย์ ฯลฯ