ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ตามดูตามอ่านแทบไม่ทัน..
ผมพูดถึง “ไวรัสคาว” ในวงการบันเทิงน่ะ ทั้งข่าวเมียมีชู้ ผัวเลี้ยงต้อย หย่าเมีย-เลิกผัว มีครบทุกรสชาติให้บรรดาผู้นิยมเรื่องใต้เตียงคนดังได้ติดตาม
ซึ่งความจริงแล้วก็เป็นเรื่องธรรมชาติ-ธรรมดาของการเป็นเมีย-ผัว ไม่ว่าจะยาจก-เศรษฐี ผู้ดีมีจน การคบชู้ มีน้อย หย่าร้าง เกิดขึ้นได้ทุกครอบครัว!
และสาเหตุหลักของเรื่องพวกนี้ ลองพิเคราะห์ให้ดีๆ จะมีอยู่แค่ 2 ประเด็น หนึ่งคือ..เศรษฐกิจในครัวเรือน กับสอง..เรื่องบนเตียง!
ถ้าครอบครัวไหนมีพร้อมในสองเรื่องนี้ ปัญหาคบชู้ มีเมียน้อย ผัวน้อย หรือหย่าร้างก็แทบไม่ต้องพูด เพราะคนเราไม่ว่าจะผัวหรือเมีย ลองได้กิน ขี้ ปี้ นอนอย่างมีความสุขกาย สุขใจ..
ก็ไม่มีเรื่องหงุดหงิดรำคาญอารมณ์ให้ต้องทะเลาะเบาะแว้ง แยกเตียง-แยกห้องกันนอน!
สวยแต่รูปจูบไม่หอม เคยได้ยินกันไม่ใช่รึ? บางคนสวยระดับนางสาวทง-นางสาวไทย แต่ก็ยังโดนผัวเท เห็นอยู่หลายคู่ในวงการบันเทิง
หรือบางคนหล่อสัส หล่อไม่บันยะบันยัง แถมมีเงินถุงเงินถังร่ำรวย แต่เมียต้องนอนระทวยร้องไห้บนเตียงแทบทุกคืน จนที่สุดทนกล้ำกลืนไม่ไหวต้องขอหย่า..
แล้วคุณว่าสาเหตุมาจากอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะผัวเป็นเกย์ เป็นเสือใบ!
ไม่ก็..ประเภท “จอมยุทธหนึ่งสปอต” เจาะแจะๆ 15 วิ 30 วิ เสร็จ ให้รวยล้นฟ้า ปรนเปรอนางได้สุขสบายกายแค่ไหน แต่ถ้า “เซ็กซ์บนเตียง” ใช้ไม่ได้..
ถามหน่อยผู้หญิงคนไหนหรือจะทนช่วยตัวเอง!
ในวงการบันเทิงจะเห็นเด่นชัดมากกับ 2 ประเด็นที่ว่านี้ เพราะนอกจากแต่ละคู่ผัวเมียจะมีความอดทนกันน้อย สภาพแวดล้อมทางสังคมเอื้อที่จะให้เปลี่ยนผัวเปลี่ยนเมียกันได้ง่าย..
จึงเลยได้เห็นข่าว “ไวรัสคาว” ให้ตามดูตามอ่านไม่เว้นวันด้วยประการฉะนี้แล!
เนี่ย..พูดถึงไวรัส รู้กันนะว่า “มันมาอีกแล้ว” ผมน่ะเชื่อและเห็นด้วยกับคำเตือนของรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ มาโดยตลอด
และก่อนโควิด-19 จะทะลวงกำแพงคุก คุณหมอก็ได้แจ้ง.. “แม้จะครบ 100 วันที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อภายในประเทศ ก็ขอให้อย่าประมาท…
หลังจากมีการแง้มประตูรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เข้ามา สองสัปดาห์นี้เราเห็นหลายต่อหลายเคสที่เป็นชาวต่างชาติที่ติดเชื้อระหว่างกักตัว 14 วัน รวมถึงการประชิด กระชับพื้นที่ ของ COVID-19 ที่มาจ่อถึงชายแดนไทย
และมีรายงานการลักลอบเข้าเมืองจากเมียนมาผ่านช่องทางต่างๆ
…เหล่านี้เป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้เราต้องยกการ์ดขึ้นป้องกันตัวเสมอเวลาใช้ชีวิตประจำวัน
…ศึกนอก…ยังพอที่จะจัดการหาทางป้องกันได้…แต่ที่น่าอับอาย คือศึกใน ที่มีการออกข่าวของวงอำนาจธุรกิจการเมือง ที่ทั้งผลักทั้งดัน ถูลู่ถูกัง.. จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้
สถานการณ์การระบาดทั่วโลกรุนแรงเช่นนี้ เปิดรับมาก็มีแต่หายนะ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็โชว์บทเรียนให้เห็นแล้วว่าระบาดซ้ำแน่
การที่ออกข่าว แล้วอ้างจุดแข็งเมืองไทยว่าจะเอาระบบสุขภาพมาดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น…เอาอะไรมาคิด”
นั่นสิ..จะเชื่อหมอ หรือเชื่อนักการเมือง เลือกเอา!