ประยุทธ์ “โชคดี” ที่ฝ่ายค้านโง่

ถึงวันนี้…….

ทั้งกองโจรมอนเตฯ ทั้งตุ๊กตาเสียกระบาลเซอร์เบีย และทั้งลิโป้ 2019
ต่างเงียบ
ไม่มีใครออกมาแสดงตนเป็นเจ้าภาพ “ม็อบไทยเทียม”
ที่นิวยอร์ค
กะฉีกหน้า “นายกฯประยุทธ์”
ที่ไหนได้ กลายเป็นปฏิเวร ย้อนมา “ฉีกหน้ากาก” ใครต่อใครปี้ป่น ด้วยดอกเตอร์หนุ่ม ๒ คน อดรนต่อพฤติกรรม “คนขายชาติ” ไม่ไหว



เลยขุดเอกสารจ้างวานออกมาประจาน จนเห็นหลังไวๆว่าไอ้กังฉินตัวนี้ มีความน่าจะเป็น
“นายจ้าง” อีเวนท์ ที่นิวยอร์ค!?
เรื่องนี้ต้องถึง “ลุงป้อม” ให้หน่วยความมั่นคงจับให้ได้-ไล่ให้ทันทีเถอะ ขืนปล่อยนานไป มันจะเหลิง และได้ใจ
แถวๆบางโพ มันเพาะพันธุ์ “ไทยหัวนอก(คอก)” ส้องสุมกัดเซาะสังคมประเทศมานานแล้ว
เป็นขนมจีนลงตัวกับน้ำยาเจ้านี้ มา ๒-๓ ปีแล้ว เขาประเมินกันว่า “ช่วงรอยต่อ” บ้านเมือง จุดเปลี่ยนน่าสุกงอม
พวกเขาก็จะอาศัยสถานการณ์นั้น ใช้ความเป็นหัวนอกทันสมัย เดินมวลชน “ตอกลิ่ม” ทางสังคมให้แยก
ขณะเดียวกัน ใช้พรรคตีรุก “ยึดเมือง” ทางการเมือง



แต่อย่างว่า…….
“ร้อยคิด หรือจะเท่าหนึ่งลิขิตฟ้า”!
รอยต่อแผ่นดินกลับราบเรียบไร้ตะเข็บ จะบอกว่า “พลเอกประยุทธ์” เป็นตัวแปรนอกแผนของเขาก็ไม่ผิด
จึงเป็นที่ “แค้นฝังเขี้ยว” ของขบวนการ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ที่วางแผนและซุ่มรอเวลานี้มาเป็นเวลาทศวรรษ
ถ้าไม่มี “ประยุทธ์-ประวิตร-อนุพงษ์” เข้ามาคั่นเป็นสถานการณ์พลิกผันนอกแผน เมื่อ ๒๒ พค.๕๗
ยากคาดเดา ว่ารัตนโกสินทร์วันนี้ จะอยู่ในรูปใด?



จะเห็นชัดว่า นับแต่วินาทีแรก ที่ขบวนการระบอบทักษิณ “พลิกล็อค” ไม่ได้เป็นรัฐบาล
“ทำตัวเอง” โลภ..แตกพรรค
กะใช้พรรคบริวารกวาดปาร์ตี้ลิสต์ ๑๕๐ คน ไว้ทั้งหมด ไม่ยอมให้กระเด็นไปพรรคอื่น
เลยเป็นอย่างที่เจ็บใจตัวเองทุกวันนี้ ชนะเป็นที่ ๑ แต่รวมเสียงไม่พอตั้งรัฐบาล!
ถ้าไม่แตกพรรค เฉพาะพรรคตัวเองก็ ๒๐๐ + เห็นๆอยู่แล้ว
แหละเขาถึงว่า ถ้ามันจะไม่ใช่ มันก็จะมีเหตุให้วิปลาสเลอะเลือนและเป็นไป!
ระบอบทักษิณ “พลาดตาเดียว” ทำให้ “แพ้ทั้งกระดาน”



แพ้แล้วทำไง?
ทำ “พาล” อย่างที่เห็นจะจะอยู่เวลานี้ไง!
พาลอย่างไร…..ก็เห็นไหมล่ะ
เมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่อินังขังขอบกับคำว่า “การเมืองระบบรัฐสภา” และไม่สนใจใยดีกฎ-กติกา-มารยาท การเมืองใดๆทั้งสิ้น
มีตำแหน่ง “ผู้นำฝ่ายค้าน” ก็ไม่สนจะทำหน้าที่
สนอย่างเดียว ……….
เมื่อพวกกูไม่ได้เป็นรัฐบาล พวกกูก็ตั้่งหน้า-ตั้งตา “หาเรื่อง” ล้มรัฐบาลอย่างเดียว!
ล้มดื้อๆ ดูมันถ่อย-เถื่อน ก็ยกเหตุ “รัฐธรมนูญประชาชนไม่มีส่วนร่วม”



ฉะนั้น ต้องแก้ทุกมาตรา เขียนใหม่!
แล้ว ๗ พรรคขบวนการทักษิณอันเป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่เป็นอันได้ทำหน้าที่ในความหมาย “ตัวแทนประชาชน” ในสภา
เพียงอาศัยสภาเป็นเครื่องมือเดินเกม ล้มรัฐบาล ล้มนายกฯ ทั้งในสภาและนอกสภา
แต่ดูนายกฯประยุทธ์เหมือน “นุ่น”
ฝ่ายค้าน “ยิ่งตี-ยิ่งฟู”!
ทั้งที่ จริงๆ แล้ว ตั้งแต่เป็นนายกฯรัฐบาลเลือกตั้่ง ประยุทธ์ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้น-เป็นอันเท่าไรนัก
เอางานหลักๆเริ่มแต่รัฐบาลก่อนที่ค้างไว้ ยกเป็นของกำนัลให้พรรคโน้น-พรรคนี้ แลกกับการมาเป็นพรรคร่วม
แล้วพรรคร่วม เหมือนผู้กำกับไปกินพื้นที่ใหม่ ก็ไล่รื้อเพื่อ “ล่าเมืองขึ้น” เละเทะไปหมด
ความจริง ถ้าฝ่ายค้านไม่ใช้โมหะตัณหาเป็นที่ตั้ง อดทนรอซักระยะ ไม่เกิน ๖ เดือน
ระหว่างนี้ก็เก็บบันทึก “ข้างนอกสุกใส-ข้างในกลวง” ของรัฐบาลไปเรื่อยๆ

เชื่อเหอะ นายทุนผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลลากที พรรคร่วมรื้อลากที
ฝ่ายค้าน “ดูเฉยๆ” เก็บแรงไว้ ………
ถึงตอนนั้น ค่อยเอาแรงมาโกยศรัทธาที่ไหลจากรัฐบาลกลวงใน ก็จะไม่เสียผู้-เสียคน และเสียพรรคเหมือนตอนนี้!
แต่การที่ฝ่ายค้านตะกายรื้อฉาก ตั้งแต่พระเอกยังไม่ทันได้ร้อง-ได้รำอย่างนี้
มีแต่ถูกคนดูด่า เผลอๆมีซังข้าวโพดชุบน้่ำหมากแถม ส่วนฝ่ายรัฐบาลและนายกฯ
ถึงไม่ได้อะไร แต่ก็ไม่เสีย คือเสมอตัว!
เนี่ย..ทุกวันนี้ เห็น ๗ พรรคแค้นพล่านเหนือ-ใต้-ออก-ตก น้ำท่วม คนจะเป็นจะตาย ใครๆเขาไปช่วย



แต่นี่ พวกกูเดินสาย ปลุกระดมคนลงถนน ให้คนชังชาติ เกลียดรัฐบาล ชนิดไม่ลืมหู-ลืมตา
-น้ำท่วม ประยุทธ์ต้องออกไป
-เศรษฐกิจไม่ดี ต้องแก้รัฐธรรมนูญ
-ไล่ประยุทธ์ออกไปคนเดียว ๓ จังหวัดใต้สงบ
นี่มันตรรกะบ้าบออะไรกัน…หือ หน้ามืด-ตามัวอะไรจะขนาดนั้น อย่างไอ้ตี๋ธนาธร อยากบ้า ก็ให้มันบ้าไป
แต่อย่างอาจารย์วันนอร์ หรืออย่างพตอ.ทวี สอดส่อง ที่เคยรู้จัก ก็ถือเป็นผู้ใหญ่ บรรลุนิติภาวะทางความรับผิดชอบ
ก็ไม่อยากให้หลุดไปไกลขนาดนั้น
อุดมการณ์ แนวคิด เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำ-การแสดงออก ควรเป็นมีดสงวนคม
ไม่ควรเป็นสันขวาน ไล่ทุบเปรี้่ยงปร้างกระถางแตก “ไร้ราคา” อย่างที่เป็นตอนนี้
ยกขบวนไปปั่นหัวชาวบ้านกัน ๗ พรรค แต่สังเกตมั้ย?

ไปแต่พรรคหาง……..
ส่วนพรรคหัวคือ “พรรคเพื่อไทย” เขาเดินแผนสูง รู้ว่า ที่ทำมันไม่ใช่ ทั้งเป็นไปไม่ได้ และทั้งสถานการณ์-โอกาสยังไม่อำนวย
อยากซ่า ก็ไปกันเถอะ แต่กูไม่ไป
ดังนั้น เห็น ๗ พรรคค้าน …….
แต่หัวที่เห็น เป็น “หัวกระเด็น” ธนาธรนำ
ไม่มีหัว “ตัวนำ” จากเพื่อไทย นอกจากยายเพิ้ง เสียอำนาจแล้วเสียสติ สะเปอะ-สะปะไปเรื่อย
สรุป…แล้วตอนนี้ ใครเป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” กันแน่ ?



ตอบตามกฎหมาย นายสมพงษ์ อรมวิวัฒน์ หัวหน้าเพื่อไทย เป็นผู้นำฝ่ายค้าน
แต่ตอบทางพฤตินัย “นายธนาธร” ถือธงนำทางปฎิบัติการล้มรัฐบาล ไล่ประยุทธ์
และแก้รัฐธรรมนูญ เขียนใหม่ทั้งฉบับ!
ก็เลยต้องมองกันว่า ตกลง เกมนี้ “ใครล้มใคร” กันแน่ ระหว่าง รัฐบาลกับฝ่ายค้าน?
และ “ใครยืมมือใคร” กันแน่ ระหว่างพรรคธนาธรกับพรรคเพื่อไทย ในเกมอำนาจเหนือ?
ในภาพรวม ฝ่ายค้าน หมายล้มรัฐบาลแน่
แต่ในภาพย่อย น่าสงสัยว่า เพื่อไทยกับอนาคต จะไปด้วยกันได้ขนาดไหน?
ทุกการเคลื่อนไหวซีกค้าน….
“ธนาธร” ไม่เคยเห็นหัวเพื่อไทยและไม่เคยเป็นหางให้เพื่อไทยที่เป็น “แกนนำ” เลย
เช่นเดียวกัน ในการชิงนำของธนาธร ก็จะไม่เห็นเพื่อไทยออกมาเป็นหางให้เช่นเดียวกัน
อนาคตใหม่ เกิดได้และอหังการ ก็ด้วยความผิดพลาดของนายใหญ่
และเพื่อไทย ผิดหวัง-ล้มเหลววันนี้ ก็จากผิดพลาดด้วยละโมภ “แตกพรรค” ของนายใหญ่

สองพรรค เกิดจากน้ำเชื้อตัวเดียวกัน แต่แอ่งฟักไข่คนละแอ่ง
ดังนั้น “เถาถั่ว-ต้มถั่ว” เป็นเรื่องไม่เหนือคาดหมาย เพราะปลายทาง ตอนนี้
“พ่อมันรักลูกไม่เท่ากัน”!
ก็อย่างว่า ดูๆไปแล้ว รัฐบาลประยุทธ์ เป็น “รัฐบาลอุ้มบุญ” ในทางการเมืองจริงๆ
ด้วยเสียงกระร่อง-กระแร่งและด้วยพรรคร่วม ที่หลายๆเรื่อง ต้องบอกว่า “อะไรของมันวะ”?
แต่ก็รอดได้ เพราะ “ความไม่เอาไหน” ของฝ่ายค้าน!
ลิโป้ น่ะ ดีแต่กร่างนอกมุ้ง
ไม่ต้องไปสนใจ เพราะในมุ้ง..เสร็จ “เตียวเสี้ยน”



สุดท้าย ก็จะเสร็จไปด้วยกัน!
เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็บอกแล้ว ต้องแก้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ และไม่แก้ในความหมายที่ธนาธร-ปิยบุตร เหี้ยนกระหือรือ
ทั้่งสภาก็รับญัตติที่ตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและวางหลักเกณฑ์ไว้แล้ว
ไม่จำเป็นฝ่ายค้านจะ “สวนกระแส-ฝืนสถานการณ์” ออกมารำกลางแดด
ตะโกน แก้รัฐธรรมนูญ..แก้รัฐธรรมนูญ…ประยุทธ์ออกไป..ประยุทธ์ออกไป เหมือนคนบ้า ประชาชน ไม่เก็ต
ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
เช่นกัน………..
อะไรที่เปลี่ยนแปลงโดยไม่ใช้เวลา “ไม่มี”!

Written By
More from plew
โลกสู่ภาวะ “เปลี่ยนคน” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “สหรัฐอเมริกา-ไทย” สมัครสมานสานรักกันมาร่วม ๒๐๐ ปีแล้วนะ! วานซืน (๑๗ มค.๖๗) “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา...
Read More
0 replies on “ประยุทธ์ “โชคดี” ที่ฝ่ายค้านโง่”