ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“จะรักหรือไม่ก็สุดแต่..
แต่อย่ามาจาบจ้วงสถาบันที่พวกผมรักและเคารพ” และ “ราชอาณาจักรไทย อยู่รอดมาได้ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์”
นี่..เป็นความในใจของคุณสาธิต เซกัล ซึ่งผมในฐานะคนไทยที่บรรพบุรุษเป็น “ไทยแท้ๆ” อยากจะบอกกับเขา ผู้ที่เกิดที่เมืองเดลี ประเทศอินเดีย และเข้ามาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ว่า..
“ขอบคุณ ที่คุณสาธิตรัก เคารพสถาบัน-พระเจ้าแผ่นดิน” ครับ!
ส่วนนี่ เป็นอีกความในใจ.. “ดิฉันได้เห็นข่าวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดเรื่องดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” วงเงิน 240 ล้านบาท โดยมิชอบนั้น
ทำให้ดิฉันเกิดความสงสัยและขอตั้งข้อสังเกตกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่ามีความขยันในการเร่งรัดคดีดิฉันฝ่ายเดียว
เพราะภายในเดือนนี้เดือนเดียว ป.ป.ช.ก็มีการชี้มูลความผิดกับดิฉัน ถึง 2 คดีติดๆ กัน โดยวันที่ 1 ก.ค. 2563 ชี้มูลเรื่องการใช้อำนาจโอนนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำโดยมิชอบ และเมื่อวานที่ผ่านมาก็ถูกชี้มูลในคดีนี้อีก ซึ่งผิดกับคดีที่ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันถูกร้อง และขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ
ดูเหมือน ป.ป.ช.จะให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลปัจจุบันมากเป็นพิเศษในหลายคดี
ทั้งๆ ที่เป็นคดีที่สังคมเกิดข้อกังขาและตั้งข้อสงสัยมากมายกับการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.และผลการพิจารณาหลายคดี ก็ค้านกับความรู้สึกของประชาชน
วันนี้แทนที่ ป.ป.ช.จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณและการใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน
ทั้งจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ปากท้อง และปัญหาโควิด-19 ที่รอการแก้ไข แต่กลับมาเร่งรัด เร่งรีบ กับคดีของฝ่ายที่เห็นต่างและคิดว่าอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล”
ครับ..ก็เป็นความอัดอั้นในใจของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมีอีกหลายบรรทัดที่อดีตนายกรัฐมนตรีได้พยายามอธิบาย ก่อนจะสรุปท้าย..
“ทุกวันนี้ดิฉันใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ในต่างประเทศอย่างปุถุชนคนทั่วไป แต่ยังต้องมาถูกกล่าวหาในทางอาญา 2 เรื่อง ติดต่อกันในเวลาไม่ถึง 1 เดือนอีก เพื่อให้มีการพิจารณาคดีลับหลังดิฉัน
ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ช่างสอดคล้องหรือเหมือนกับความโชคร้ายในชีวิตของดิฉัน ที่โหยหาความยุติธรรมว่าเมื่อไหร่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองอันเป็นที่รักของดิฉันเช่นกันเสียที”
นี่..ขอถามนางสาวยิ่งลักษณ์..ความยุติธรรมของประเทศนี้เกิด ก็ต่อเมื่อศาลตัดสินทุกคดี..
ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ไม่ผิด..ใช่ไหม?