รมว.ยุติธรรม-รมว.แรงงาน เดินหน้าบันทึกข้อตกลงพัฒนาผู้ต้องขังให้มีพื้นฐานทางอาชีพ ยันเดินหน้านำนักโทษคืนสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

รมว.ยุติธรรม-รมว.แรงงาน เดินหน้าบันทึกข้อตกลงพัฒนาผู้ต้องขังให้มีพื้นฐานทางอาชีพ ยันเดินหน้านำนักโทษคืนสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน “ส.ส.กานต์กนิษฐ์-พัชรินทร์”หนุนสร้างอาชีพเพื่อไม่ให้นักโทษกระทำความผิดซ้ำ เพื่อสร้างสังคมไทยให้ปลอดภัย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อส่งเสริมการมีงานทำของผู้ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบ ระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงแรงงาน

โดยมีผู้บริหารระดับสูงทั้ง 2 กระทรวง น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม. เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

ก่อนการร่วมงาน นายสมศักดิ์ และ ม.ร.ว.จัตุมงคล ได้เดินชมบูธกิจกรรม ที่เป็นฝีมือของผู้ต้องขัง เช่น กระถางต้นไม้แบบทันสมัยที่เป็นรูปหนุมาน เครื่องสาน และร้านกาแฟที่ทำโดยผู้ต้องขัง

นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับ อดีตผู้ต้องขังที่ออกจากเรือนจำแล้วสามารถทำอาชีพเลี้ยงตนเองและเป็นที่ยอมรับของสังคม เช่น นายอัครินทร์ ปูรี ช่างทำกีต้าร์ชื่อดังที่เวลานี้มีคิวการสั่งทำกีต้าร์ยาวถึง 2 ปี นายเฉลิมพร สวัสดิ์สุข นักมวยชื่อดังที่ขณะนี้ได้เปิดโรงเรียนสอนมวยเป็นของตัวเอง นายสุรวัจน์ ยุพรภักดีโรจน์ ที่ขณะนี้เป็นเกษตรกรเลี้ยงแพะ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พิธีลงนามข้อตกลงนี้ เกิดขึ้นจากคำปรารภของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงแรงงานได้นำมาสานต่อเพราะได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงการฝึกฝนภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการมีงานทำของผู้ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยของกระทรวงยุติธรรม

ซึ่งประกอบด้วย ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวเป็นพลเมืองดี มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวได้ รวมทั้งส่งเสริมการมีงานทำทั้งในและต่างประเทศ สามารถอยู่ในสังคมอย่างคนปกติ เป็นกำลังแรงงานที่มีคุณภาพต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจที่จะสร้างขีดความสามารถของประเทศ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ตนมีแนวนโยบายที่จะยกระดับความร่วมมือและการพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบ โดยกระทรวงยุติธรรมจะมีหน้าที่คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ารับการอบรมในหลักสูตรให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน จัดเตรียมสถานที่ในการฝึกอบรม สนับสนุนงบประมาณตามความเหมาะสม


ส่วนทางกระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางานและกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะมีหน้าที่แนะแนวอาชีพ จัดหาตำแหน่งงานว่าง ประสานและให้คำแนะนำแก่สถานประกอบการหรือนายจ้าง ส่งเสริมการมีงานทำโดยจัดสาธิต การฝึกทักษะอาชีพระยะสั้น จัดวิทยากรให้ความรู้ ให้ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ให้คำปรึกษาและแนะนำการประกอบอาชีพอิสระ มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน การออกวุฒิบัตร การบรรจุงาน จัดหาแหล่งทุนและประเมินผล

“ผมมุ่งหวังว่าการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานและกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและพ้นโทษออกไปจะมีงานทำเหมือนคนปกติทั่วไป ซึ่งส่วนสำคัญในการคืนคนดีสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างโอกาสทางอาชีพ ซึ่งมีอีกมากมายที่ลงทุนไม่มากและสามารถทำได้เมื่อพ้นโทษ ผมจึงนึกถึงคำปรารภของนายกฯที่พูดกับผม ว่าอยากให้ผู้ต้องขังสามารถฝึกสุนัขได้ จากนี้ตนจะวางแผนหาพื้นที่ดำเนินการต่อไป ผมให้ความสำคัญในเรื่องพัฒนาฝีมือแรงงาน เพราะจะเพิ่มความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจได้ เรื่องนี้จะเป็นนโยบายสำคัญอีกเรื่องที่ผมจะเดินหน้าทำให้สำเร็จ” นายสมศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.พัชรินทร์ กล่าวว่า นับว่านิมิตหมายที่ดีที่ได้เห็นว่ากระทรวงยุติธรรม ให้ความสำคัญกับนักโทษที่กำลังจะได้รับการปล่อยตัว โดยการพัฒนาศักยภาพของบุคคลเหล่านี้ อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองว่า มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนำงบประมาณส่วนนี้ลงให้กับคนที่เคยกระทำความผิดในสังคม แต่ในมุมมองหนึ่ง บุคคลที่กระทำความผิด หากเขาออกมาแล้วเขาคงยังไม่มีอาชีพ หรือไม่ทำให้ตัวเองมีคุณค่าในสังคมได้ ก็มีโอกาสทำให้พวกเขากลับมากระทำความผิดซ้ำอีก

นั่นความหมายความสังคมอาจจะยังมีความไม่ปลอดภัยอยู่ ดังนั้นการจัดสรรงบประมาณเหล่านี้ นอกจากเป็นการให้โอกาสคนที่อาจจะกระทำควาดผิด โดยบางครั้งเพียงอารมย์ชั่ววูบ ยังเป็นสร้างสังคมไทยให้ปลอดภัยอีกด้วย

Written By
More from pp
UNESCO ประกาศให้ จ.เพชรบุรี ของไทยเป็นหนึ่งในเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลก ประจำปี 64 (UNESCO Creative Cities Network) ในด้านเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร หรือ City of Gastronomy
สำหรับจ.เพชรบุรี ถือเป็นเป็นเมือง 3 รส และเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดของประเทศใน 3 อย่างคือ การผลิตเกลือ การปลูกและผลิตน้ำตาลจากตาลโตนด และเป็นแหล่งปลูกมะนาวที่รสชาติที่ดี่สุด
Read More
0 replies on “รมว.ยุติธรรม-รมว.แรงงาน เดินหน้าบันทึกข้อตกลงพัฒนาผู้ต้องขังให้มีพื้นฐานทางอาชีพ ยันเดินหน้านำนักโทษคืนสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ”